หลอกอีกแล้ว!

หากดูตัวเลขของแต่ละหน่วยงานเศรษฐกิจประกาศออกมาจะเห็นว่า สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยไม่ดีเอาเสียเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกำลังซื้อ และการลงทุนของภาครัฐหดตัว หรือแม้กระทั่งภาคเอกชนก็เลือกใช้วิธีอยู่นิ่ง ๆ เพื่อรอดูสถานการณ์ให้ชัดเจนเสียก่อนแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก เพราะในมุมของปัจจัยพื้นฐาน มันไม่สอดรับกับการเคลื่อนตัวของดัชนีน่ะซี

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ไม่เข้าใจการขยับตัวของดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,367.96 จุด บวกไป 3.44 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.20 หมื่นล้านบาท เพราะประเด็นที่จะเข้ามาซัพพอร์ตมันไม่มีอะไรจับต้องได้เลยสักอย่าง เดี๊ยนถึงพยายามทำความเข้าใจกับการทะยานขึ้นของดัชนีในแต่ละรอบ และเป็นที่มาของการชี้แนะให้แฟนคลับหาจังหวะขายหุ้นออกไปก่อนไงล่ะคะ

ขนาดในรายของ KCE ที่หลายคนมองว่า พื้นฐานแกร่ง ทำกำไรสม่ำเสมอ แต่กลับโดนชำเราอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 44 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1.12% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 229 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ทำให้นักลงทุนหลายคนตื่นตัวมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน เพราะการร่วงลงเกือบ 20% ในระยะเวลา 1 เดือน เหมือนส่งสัญญาณให้รู้ว่า สถาบันยังไม่กล้าช้อนแบบนี้..ลงต่อสูงจ้า

ส่วนรายที่ผิดคาดไปมาก ๆ “โมนิก้า” ขอหันไปมองที่หุ้น TRUE เพื่อชี้ให้เห็นการไต่เพดานขึ้นอย่างช้า ๆ จนวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 6.10 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.04 พันล้านบาท มันเป็นภาพที่ย้อนแย้งกับสภาพตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ และถ้าดูจากผลการดำเนินงานที่ขาดทุนเรื้อรัง ก็เป็นการไล่ราคาหุ้นแบบสุดซอยมากเกินไปหน่อยนะตัวเอง

สำหรับรายที่ลงมาเป็นแรมเดือน และเริ่มมีการฟื้นตัวให้เห็น คงต้องมองไปที่หุ้นปูนใหญ่ SCC  หลังราคาหุ้นขยับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 273 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 1.11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 587 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลพอสมควร เพราะในมุมของราคาหุ้นที่ลงมากเกินไป และการที่หุ้นเทรดบน PE 11 เท่า ก็เป็นระดับที่น่าลงทุน แต่กระนั้นก็มีข้อแม้ว่า งบไตรมาส 1 ต้องไม่แย่ลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านะจ๊ะ

เมื่อการลงทุนมีข้อแม้มากขึ้นเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ถึงเห็นหุ้นขนาดเล็กขึ้นมาโชว์ของมากหน้าหลายตาเหลือเกิน และหนึ่งในตัวจี๊ดที่เล่นกันบ่อยมาก เดี๊ยนขอมองไปที่หุ้น CV หลังวานนี้ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.57 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 16.33% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 102 ล้านบาท และเป็นหุ้นที่เดี๊ยนเอ่ยถึงบ่อยมากในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจากความเชื่อที่ว่า ผลการดำเนินงานเตรียมจะคัมแบ็คเจ้าค่ะ

คล้ายกับม้ามืดอย่าง NV ก็กลายเป็นหุ้นที่พุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.89 บาท บวกไป 0.44 บาท หรือขึ้นไป 30.34% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 72 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้นอนสลบไสลเป็นเวลานานนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเกมเสี่ยงที่บรรดาเม่าพร้อมจะลุยก็จริง แต่ต้องหันไปดูด้วยว่า หลายครั้งที่หุ้นพุ่งขึ้นแรง ต่อจากนั้นก็ทรุดฮวบทันที จึงขอฝากเตือนไว้เป็นข้อมูลประกอบการลงทุนนะตัวเอง

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น INSET ขึ้นมาทันที เพราะเป็นหุ้นที่ทำผลงานได้น่าพอใจ แม้บางครั้งกำไรจะลดลงไปบ้างตามสภาพเศรษฐกิจ แต่ก็เป็นระดับที่ทำเดี๊ยนยังรู้สึกดี ๆ และถ้าดูจากงบ 9 เดือน ปี 66 ที่ทำกำไรได้เท่ากับงบปี 65 โดยราคาหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.48 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 9.73% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 52ล้านบาท และในปี 67 มีลุ้นทำกำไรโตอีกแบบนี้..ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเด้อ!

ตบท้ายกันที่หุ้นจิ๋วอย่าง SENX เพื่อรำลึกความหลังกันสักหน่อยว่า เดิมทีหุ้นตัวนี้ชื่อ JSP และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น SENAJ โดยผลงานปีที่ผ่านมาค่อนข้างดี เพราะกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง หลังจากขาดทุนเรื้อรังเป็นเวลาหลายปี และการขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.73 บาท บวกไป 0.17 บาท หรือขึ้นไป 30.36% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 31 ล้านบาท แถมเป็นการขึ้นต่อเนื่อง 2 วันเสียด้วย มันเหมือนเปิดทางให้เม่าน้อยอยากกระโจนใส่นะออเจ้า