พาราสาวะถี

ใครได้เห็นได้ฟังถ้อยแถลงรายงานข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.ต่อรัฐบาลในการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต คงต้องบอกว่าถ้าอย่างนั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่ตั้งตัวเป็นรัฐบาลบริหารประเทศเสียเองเลยดีไหม ถึงขนาดบอกได้ว่าเศรษฐกิจไม่วิกฤต สั่งให้ทำโน่น ห้ามทำนี่ อย่างนี้จะเรียกว่าชี้แนะตามมาตรา 32 ที่ยกมาอ้างเป็นไม้กันหมา หรือว่าเป็นการขยายอำนาจขององค์กรอิสระที่มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตกันแน่

เอาเข้าจริงสังคมก็อดจะตั้งคำถามย้อนกลับไปถึงเรื่องความสุจริต โปร่งใส ในฐานะองค์กรตรวจสอบว่า เมื่อยืนยันการันตีทำงานแบบบริสุทธิ์ผุดผ่องกันมาโดยตลอด ทำไมกรณีศาลปกครองสูงสุดสั่งให้เปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบปมแหวนแม่นาฬิกาเพื่อนของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป. จนป่านนี้ยังไม่ยอมทำตาม ออกลูกยึกยักลีลา ทั้งที่น่าจะเป็นโอกาสอันดีเสียด้วยซ้ำที่จะทำให้ประชาชนได้เห็นว่า กระบวนการตรวจสอบนั้นตรงไปตรงมาขนาดไหน

กลายเป็นว่ายิ่งชักช้า ศรัทธาของประชาชนยิ่งเสื่อมทรุด กรณีข้อเสนอแนะต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเชื่อว่า เศรษฐา ทวีสิน และคณะน่าจะรับฟังและทำตามแค่เรื่องการป้องกันการทุจริตใช้เงินผิดประเภทเท่านั้น ที่แบไต๋มาแล้วว่าจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแล ของพรรค์นี้มันมีบทเรียนมาแล้วจากโครงการจำนำข้าว ดังนั้น ฝ่ายบริหารจึงต้องระมัดระวังกันเป็นพิเศษ เพียงแต่ว่าอนุกรรมการที่จะตั้งขึ้นมานั้นคงต้องมีกลไกในการทำงานที่ชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

คงไม่ต้องสาธยายกันว่าแนวทางที่ออกมานั้น มันสอดคล้องสอดรับกับความเคลื่อนไหวของคนพวกไหน กลุ่มใดบ้าง ล้วนแต่คนหน้าเดิมพวกขาประจำ ไม่ต้องบอกว่าเป็นขบวนการสุมหัวกันหรือไม่ ในซีกรัฐบาลเมื่อได้คำตอบที่ชัดเจนจากการปรึกษาหารือทุกฝ่ายแล้ว เห็นว่าข้อเสนอแนะเช่นนี้เป็นเพียงเรื่องที่พึงสังวรไม่ใช่สิ่งที่ต้องปฏิบัติ ก็ประกาศให้ชัดจะเดินหน้ากันแบบไหน คาดว่าไม่เกินกลางสัปดาห์นี้ควรต้องมีความคืบหน้า หากยังยื้อเวลาออกไปอีกไม่น่าจะเป็นผลดีต่อรัฐบาล

นอกจากต้องมีบทสรุปว่าจะทำกันอย่างไรต่อไป จุดสำคัญที่จะช่วยทำให้ฝ่ายตั้งข้อกังขา และสังคมเข้าใจได้ถ่องแท้ถึงเป้าหมายในการเดินหน้าโครงการคือ ผลศึกษาเพื่อมายืนยันว่าการดำเนินนโยบายนี้จะเกิดประโยชน์ คุ้มค่าอย่างไร กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่นอกเหนือจากประชาชนจะได้รับประโยชน์โดยตรงแล้ว ห่วงโซ่ของเม็ดเงินที่จะหมุนไปนั้น ตัวเลขที่คาดการณ์ไว้มันมากมายมหาศาลขนาดไหน กรณีเช่นนี้เชื่อว่าหากดึงภาคเอกชนที่สนับสนุนโครงการมาร่วมศึกษาและชี้แจง ก็น่าจะสร้างความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ประเมินจากสถานการณ์ที่เศรษฐาและคณะเผชิญอยู่เวลานี้ ทั้งข้อเสนอแนะ ป.ป.ช. และการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อไป ถือเป็นความท้าทาย ถึงขั้นที่มองได้ว่าเป็นการบีบให้รัฐบาลต้องทบทวนหรือถอยในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่เชื่อว่าคงไม่มีทางที่จะเป็นเช่นนั้น เพียงแต่ระยะเวลาของโครงการจากเดิมที่วางไว้ว่าจะเกิดในช่วงกลางไตรมาส 2 เจอแบบนี้ก็ต้องยืดเวลาออกไป ช้าเร็วอยู่ที่ความกล้าหาญของรัฐบาล

หากตั้งการ์ดสูงระวังตัวมาก ถึงขนาดที่จะไม่กู้เงินเพื่อมาใช้ในโครงการเนื่องจากเสี่ยงต่อการถูกตัดสินว่าทำนโยบายไม่ตรงปกกับที่หาเสียงไว้ หรือจะถูกเล่นงานจากหลายส่วน อาจจะถอยไปใช้งบประมาณปกติ ซึ่งก็คืองบประมาณปี 2568 ซึ่งถ้ากระบวนการพิจารณาเป็นไปตามปกติก็จะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีนี้ คำถามตัวโตก็คือ การใช้ช่องทางนี้เม็ดเงินที่จัดสรรได้ย่อมมีไม่มากพอที่จะใช้ขับเคลื่อนโครงการได้ถึง 5 แสนล้านบาท

นั่นเท่ากับว่า ต้องปรับลดกลุ่มเป้าหมายลง คงไม่สอดคล้องกับการที่รัฐบาลยืนยันมาตลอดโครงการนี้ไมใช่การช่วยเหลือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น จำนวนผู้ได้รับประโยชน์ตามที่กำหนดไว้จึงเหมาะสมแล้ว ตั้งโจทย์ไว้แบบนี้คงต้องเดินกันให้ได้ แต่ปัญหาสำคัญคือ ความเดือดร้อนของประชาชนที่รัฐบาลมองว่าไม่สามารถที่จะปล่อยให้เวลาทอดยาว หรือตีกรรเชียงไปเรื่อย ๆ คงต้องหาแนวทางอื่นในการที่จะแก้ปัญหาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนไปพลางก่อน

เรื่องนี้เศรษฐายืนยันเองว่ารัฐบาลมีเครื่องมือหลายอย่างที่พร้อมจะดำเนินการ โดยไม่จำเป็นต้องรอดิจิทัลวอลเล็ตเพียงอย่างเดียว ก็ควรจะต้องลงมือทำในสิ่งที่คิดไว้เป็นแผนสอง สามหรือสี่ จะมามัวรีรอไม่เพียงแต่จะทำให้เสียรังวัดกันเปล่า ๆ ปลี้ ๆ  ยังจะเป็นโอกาสที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามหยิบยกขึ้นมาโจมตีได้ มันจะกลายเป็นการลดทอนความเชื่อถือต่อความตั้งใจในการทำงานของผู้นำประเทศที่ประกาศตัวว่าจะทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยไปเสียเปล่า ๆ

อีกเรื่องที่จะตามมาหลังจาก ป.ป.ช.แถลงข้อเสนอแนะไปแล้ว หนีไม่พ้นบรรดาพวกนักร้องทั้งหลายที่จะต้องหาเหตุไปยื่นร้องต่อองค์กรใดองค์กรหนึ่งเพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิดกับรัฐบาล แต่อาจจะเป็นความโชคดีอยู่อย่างหนึ่งที่เวลานี้บรรดานักร้องต่างพากันสงวนท่าทีมากขึ้น หลังจากเกิดกรณีนักร้องกลายเป็นนักรีด จึงเอาเวลาที่จะไปตรวจสอบคนอื่น มาสแกนตัวเองให้เรียบร้อยก่อนว่าที่ผ่านมา ไม่ได้มีพฤติกรรมร้องไปรับเงินไป เพราะทำไปทำมาดูเหมือนว่านักร้องจำนวนไม่น้อยกำลังจะตกเป็นผู้ถูกร้องเสียเอง

เห็นอาการกระเหี้ยนกระหือรือแกมข่มขู่ของพวกลากตั้งบางราย ที่ต้องการให้เศรษฐาและคณะรัฐมนตรีมาตอบญัตติซักฟอกภายในเดือนนี้ สุดท้ายได้รับคำตอบชัดจากรัฐบาลพร้อมที่จะมาแถลง และชี้แจงตามญัตติในวันที่ 25 มีนาคม รอเพียงแค่หนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการ เป็นอันว่าจบข่าว ถึงเวลานั้น ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นเป้าใหญ่เป้าหนึ่งในการอภิปรายคงได้รับการพักโทษไปเรียบร้อยแล้ว ที่หวังจะตีกินหรือเรียกกระแสทิ้งทวนก่อนหมดวาระก็หมดความน่าสนใจไปครึ่งค่อนตัว ความจริงเรื่องนี้ไม่มีอะไรน่าเร้าใจแม้แต่นิดเดียวถ้าไม่บ้าจี้ตามพวกขาประจำ พวกลากตั้งส่วนใหญ่นับถอยหลังวันที่จะปลดระวางกันหมดแล้ว