สังคมข่าวหุ้น

วานนี้ในทางเทคนิคแล้ว ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ควรจะปรับลงซึ่งถูกต้องแล้ว เพราะในช่วง 5 วันทำการก่อนหน้านี้ ดัชนีดีดตัวขึ้นมาถึง 36-37 จุด ขณะที่วานนี้ปรับลงไป 11.42 จุด ปิด 1,388.60 จุด ไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,380 จุด ส่วนวันนี้มีโอกาสที่ดัชนีจะฟื้นตัว เพราะกองทุนและต่างชาติอาจจะเข้ามาดักเก็บในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี่แหละ

หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับลงวานนี้ หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน กนง.มีมติออกมาไม่เป็นเอกฉันท์เรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้เหมือนกับการส่งสัญญาณว่า แนวโน้มดอกเบี้ยขาลงอาจมาเร็วกว่าคาด ส่งผลหุ้นแบงก์ถูกเทขายนำโดย แบงก์กสิกรไทย KBANK ที่ล่าสุดถูกโบรกเกอร์ต่างประเทศดาวน์เกรดราคาเป้าหมายลงมาเหลือบริเวณ 120 บาท ส่วนหุ้นแบงก์ตัวอื่น ๆ ทั้ง KTB SCB TTB ต่างย่อตัวลงมาเช่นกัน แต่นี่อาจจะคือจังหวะดักเก็บ เพราะหุ้นแบงก์เตรียมแจ้งจ่ายเงินปันผล อย่าง SCB มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลน่าสนใจ รวมถึง KTB ด้วย

แสนสิริ SIRI ราคาหุ้นหลังปรับขึ้นมาจากแถว ๆ 1.70 บาท และขึ้นไปสูงสุดที่ 1.83 บาท เมื่อวันก่อนหน้านี้ ก่อนจะย่อตัวลงวานนี้ น่าจะเป็นการพักตัวช่วงสั้น ก่อนที่น่าจะดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1.88 บาท เพราะแม้ว่าไตรมาส 4/2566 กำไรอาจจะไม่ดีนักเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และไตรมาสเดียวกันปีก่อน แต่กำไรทั้งปี ยังสูงกว่าปี 2565 ดังนั้น การจ่ายเงินปันผลเมื่อออกมาเป็น “บาท” จะไม่น้อยไปกว่าเดิม เมื่อคิดเป็น Dividend yield ออกมาจึงยังสูงเกือบ 8% เดี๋ยวพอมีการแจ้งผลประกอบการและเงินปันผล น่าจะมีการเก็งกำไรกันพอสมควร

กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน DIF หลังขึ้นเครื่องหมาย XD วานนี้ (8 ก.พ.) ราคาลดลงมา 0.15 บาท ปิด 8.00 บาท จำนวนราคาที่ลดลง 0.15 บาท ยังน้อยกว่าเงินปันผลที่จ่าย 0.226 บาทต่อหน่วยลงทุน แต่นักลงทุนที่ถือ DIF โดยเฉพาะพวกสถาบัน กองทุนต่าง ๆ ราคาต้นทุนน่าจะต่ำกว่า 8.00 บาท เพราะก่อนหน้านี้ราคาเคยลงไปต่ำสุด 7.25 บาท ส่วนแนวโน้มปันผลงวดไตรมาส 1/2567 หากอ้างอิงกับการคาดการณ์ของผู้จัดการกองทุน DIF (SCBAM) เคยบอกไว้ว่าจะไม่แตกต่างไปจากที่ปันผลงวดไตรมาส 4/2566 ส่วนข่าวลือต่าง ๆ ที่ส่งกันผ่านไลน์ โซเชียลต่าง ๆ แบบหาที่มาไม่ได้ อย่าไปเชื่อ

มาอีกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน นั่นคือ JASIF เพราะการจ่ายเงินลดทุนที่ประกาศออกมา (0.16 บาทต่อหน่วยลงทุน) ไม่ได้เป็นข่าวใหม่เลย เพราะเรื่องนี้ นักวิเคราะห์บอกแล้วว่า กองทุนฯ จะต้องจ่ายเงินลดทุนไปแบบนี้อีกอย่างน้อย 1-2 ปี (2567-2568) แล้วจะกลับมาจ่ายปันผลตามปกติในปี 2568-2569 โดยหลังจากจ่ายเงินลดทุนล่าสุดที่ 0.16 บาท ทำให้ราคาต่อหน่วยลงทุนลงมาที่ 9.5 บาท ยังห่างกับราคาปัจจุบันอยู่มาก และหากคำนวณเงินลดทุนที่จะต้องจ่ายไปอีก คือ ตีไปเลย 2 ปี หน่วยลงทุนน่าจะลงมาอีก 1.28 บาท นี่ก็ยังห่างจากราคาปัจจุบัน (6.10 บาท) อีกพอสมควรเลยละ

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เผยผลการดำเนินงานปี 2566 มีวงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 70,628 ล้านบาท เป็นวงเงินผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 10,792 ล้านบาท และมีสินเชื่อคงค้าง 175,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,273 ล้านบาท หรือ 4.32% เมื่อเทียบกับปีก่อน สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานในปี 2537 และกว่า 2 ใน 3 เป็นยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการลงทุนจำนวนรวม 120,970 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% จากปีก่อน ส่งผลมีกำไรจากการดำเนินงาน 3,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.27% เมื่อเทียบกับปีก่อน