พาราสาวะถี
ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการคือ ทำเรื่องให้เงียบที่สุด เมื่อถึงเวลาการเดินทางกลับบ้านทันทีหลังจากได้รับการพักโทษของ ทักษิณ ชินวัตร
ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการคือ ทำเรื่องให้เงียบที่สุด เมื่อถึงเวลาการเดินทางกลับบ้านทันทีหลังจากได้รับการพักโทษของ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งที่รู้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างไร นั่นย่อมต้องมั่นใจในการทำตามระเบียบ ขั้นตอนของกฎหมายถูกต้องทุกประการ เพราะหลังจากนี้เรื่องดังกล่าวจะเป็นหน้าที่ของ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ที่จะต้องตอบคำถามของนักข่าวและฝ่ายที่แสดงความกังขาทั้งหลาย
ทางด้านของ เศรษฐา ทวีสิน และรัฐมนตรีคนอื่น ๆ ในรัฐบาล โดยเฉพาะจากซีกเพื่อไทยก็ยืนกระต่ายขาเดียวเชิงหลักการทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนใคร กลุ่มไหนจะเคลื่อนไหวอย่างไรก็ว่ากันไปตามครรลอง พวกขาประจำเป็นธรรมดาที่จะต้องออกมา ฝ่ายความมั่นคงได้ประเมินกันล่วงหน้าว่าสถานการณ์ของม็อบต้านการได้รับอิสรภาพของทักษิณนั้นจะเป็นอย่างไร เสียงไม่ได้ดังและน่าหวั่นเกรงเหมือนก่อนหน้า
ที่น่าสนใจคงเป็นท่าทีของพรรคแกนนำฝ่ายค้านอย่างก้าวไกลต่างหาก ทันทีที่ทักษิณเดินทางกลับบ้านก็มีการโพสต์แถลงการณ์ประกาศจุดยืนเรียกร้องรัฐบาลต้องไม่ตอกย้ำสองมาตรฐาน ไม่ส่งเสริมอภิสิทธิ์ชน ต้องยึดแนวทางที่อำนวยความยุติธรรมให้แก่ทุกคนอย่างทัดเทียมกัน ซึ่งสังคมก็ต้องตั้งคำถามย้อนกลับไปที่พรรคก้าวไกลเหมือนกันว่า ที่เรียกร้องว่าอำนวยความยุติธรรมให้กับทุกคนนั้นหมายถึงใคร ในเมื่อการพักโทษครั้งนี้ก็มีผู้ที่เข้าเกณฑ์ตามระเบียบถึง 930 คน
กระบวนการพิจารณาก็ทำกันทุกเดือน ต้องประกาศกันตรงไปตรงมาว่า สิ่งที่พรรคแกนนำฝ่ายค้านเรียกร้องนั้นคือ ให้รัฐบาลดูแลกลุ่มที่กระทำความผิดตามมาตรา 112 ใช่หรือไม่ ย่อมมีคำถามตามมาอีกเช่นเดียวกัน รัฐบาลสามารถเข้าไปแทรกแซงกระบวนการพิจารณา ตัดสินของศาลยุติธรรมได้หรือไม่ การปฏิเสธกรณีทักษิณ และยัดเยียดให้รัฐบาลเป็นตัวการกระทำผิดถือว่าไม่แฟร์ เพราะรู้กันอยู่ว่าการกลับมารับโทษของอดีตนายกฯ จนกระทั่งได้พักโทษนั้นดำเนินการกันมาอย่างไร
คงลืมไปว่ากระบวนการตามขั้นตอนทั้งหมดเกิดขึ้นในรัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจ ที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา การทำเรื่องขอรับพระราชทานอภัยโทษก็เกิดขึ้นในปลายรัฐบาลนี้ และกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคุมขัง พักโทษก็เป็นสิ่งที่ดำเนินการภายใต้รัฐบาลก่อนหน้ารัฐบาลปัจจุบันทั้งสิ้น นั่นหมายความว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบันของก้าวไกลอย่างประชาธิปัตย์ก็อยู่ร่วมคณะ ย่อมรับรู้รับทราบถึงการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับกรณีของทักษิณทั้งสิ้น
หากจะเรียกร้องก็ต้องถามกันต่อไปว่า เป็นการเรียกร้องผิดรัฐบาลไปหรือไม่ ยิ่งถามหาความรับผิดชอบทั้งในแง่ของการได้รับการลดโทษ จนกระทั่งถึงการพักโทษ ถามว่าจะเรียกร้องกับใคร จะเห็นได้ว่าบรรดาขาใหญ่ของม็อบต้านทักษิณและเครือข่ายในระบอบอุปโลกน์อย่างระบอบทักษิณทั้งหลายนั้น ต่างพากันเงียบกริบ เพราะรู้ดีว่านี่เป็นวิธีการที่ถูกต้องตามครรลองของกฎหมายทุกประการ อาจจะไม่ถูกใจพวกจงเกลียดจงชัง หรือฝ่ายที่เป็นคู่แข่งทางการเมืองกันนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง
น่าศึกษากรณีท่าทีของก้าวไกล ทันทีทันใดที่ทักษิณได้รับอิสรภาพ เหมือนเป็นการหยิบยกเอาประเด็นความยุติธรรมมาหาเสียง เรียกคะแนนนิยมจากคนรุ่นใหม่ที่มีคดีความกันเป็นพรวน ขณะเดียวกัน ก็เป็นการแสดงออกถึงความหวั่นไหวในทางการเมือง แม้ว่าเงื่อนไขตามข้อตกลงจนนำไปสู่การได้กลับบ้านแบบเท่ ๆ ของทักษิณ จะห้ามข้องเกี่ยวกับการเมือง แต่นั่นเป็นการห้ามในลักษณะของการออกหน้า และมีตำแหน่งแห่งหนที่ชัดเจน
ถ้าจะมีการให้คำปรึกษา หรือที่จะเรียกว่าการวางแผน เดินเกมทางการเมือง มันเป็นเรื่องที่ยากจะตรวจสอบ เมื่อวันนี้บ้านจันทร์ส่องหล้า กลับมาคึกคักอีกหนในรอบเกือบ 20 ปี ย่อมจะเข้าทำนองหัวกระไดไม่แห้ง บรรดาคนการเมืองทั้งหลายต้องแวะเวียนไปเยี่ยมยามถามข่าว แม้กระทั่ง อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังประกาศล่วงหน้าว่าต้องหาเวลาไปกราบในฐานะเจ้านายเก่า ไม่เว้นแม้กระทั่งเศรษฐาที่ต้องเข้าคารวะในฐานะอดีตนายกฯ
ในทางการเมืองเป็นที่รู้กันอยู่แล้วเหมือนที่ก้าวไกลก็รู้ดี ทักษิณคือศูนย์รวมแห่งอำนาจตัวจริงของรัฐบาลนี้ เพียงแต่ว่าบทบาทและอำนาจในการขับเคลื่อนเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยโดย แพทองธาร ชินวัตร ยกให้เศรษฐาได้แสดงออกอย่างเต็มที่ คอยดูว่าหลังจากนี้การทำงานของนายกฯ และคณะรัฐมนตรีจะมีทิศทางที่เปลี่ยนไปหรือไม่ ขนาดไหน เช่นเดียวกับการบริหารจัดการทางการเมือง ดูที่การปรับ ครม.เป็นอย่างแรก หากไม่มีก็อาจจะเกิดการเขย่าให้ทุกอย่างลงตัวมากกว่าเดิม
สิ่งสำคัญที่ติดตัวอดีตนายกฯ มาตลอดคือความนิยมชมชอบของคนรากหญ้า ส่วนที่เปลี่ยนไปนิยมชมชอบพรรคสีส้ม การกลับมาของทักษิณหากสามารถกระตุ้นให้รัฐบาลสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ การทำงานของฝ่ายบริหารมีสีสัน สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนมากกว่าที่ผ่านมา ย่อมไม่เป็นผลดีต่อพรรคแกนนำฝ่ายค้านแน่นอน ไม่ต่างจากงานของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะขับเคลื่อนกันเข้มข้นมากขึ้น เป้าหมายที่จะพาบ้านเมืองก้าวข้ามความขัดแย้ง กับอีกฝ่ายที่พยายามจะให้ความขัดแย้งคงอยู่ ถามว่าเสียงส่วนใหญ่จะสนับสนุน เลือกเชียร์ฝ่ายไหน
นอกจากนั้น หากยึดเอาความเชื่อการถือฤกษ์กลับบ้านของทักษิณในเช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ อาจจะเป็นอย่างที่ วันชัย สอนศิริ สวมวิญญาณโหราจารย์ทำนายไว้ วันนี้ดาวจันทร์เป็นมหาอุจจ์ ทั้งมหาอุจจ์ตัวจริงก็ออกมาแล้ว ทั้งเสน่ห์ ทั้งความนิยมชมชอบ บริวารว่านเครือจะมาดำรงคงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่ในอดีตอีกครั้ง เป็นฤกษ์แห่งจันทร์เสน่ห์ จันทร์มหาอุจจ์ มุ่งไปสู่จันทร์ส่องหล้า ทางการเมืองอาจปรับ ครม.อาจปรับเปลี่ยนกระทรวง หรือวิธีการทำงาน อันจะทำให้เศรษฐกิจและสังคมกลับมาเฟื่องฟูเข้มแข็งก็ด้วยจันทร์มหาอุจจ์นี่แหละ ว่ากันว่าเศรษฐาคือนายกฯ ที่ใช่กับสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน แต่อาจต้องมีคนที่ใช่กว่ามาหนุนอีกที