BANPU โลกใหม่-เจนใหม่
ในรอบปีที่ผ่านมา หุ้น BANPU ราคาถดถอยหนัก..!! ในอดีตเคยซื้อขายกัน 10 กว่าบาท มีมาร์เก็ตแคประดับแสนล้านบาท ปัจจุบันกลายเป็นหุ้นต่ำสิบ ซื้อขายกันแค่ 5 บาทเศษ
ในรอบปีที่ผ่านมา หุ้นบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ราคาถดถอยหนัก..!! ในอดีตเคยซื้อขายกัน 10 กว่าบาท มีมาร์เก็ตแคประดับแสนล้านบาท ปัจจุบันกลายเป็นหุ้นต่ำสิบ ซื้อขายกันแค่ 5 บาทเศษ ในขณะที่มาร์เก็ตแคปลดฮวบเหลือราว 5.9 หมื่นล้านบาทเท่านั้น
หันไปดูผลประกอบการก็ถดถอย…เห็นได้จากงบปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 160 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบเท่า 5,434 ล้านบาท ลดลง 86% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิ 1,162 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบเท่า 40,518 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและบริการ 5,159 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบเท่า 179,619 ล้านบาท ลดลง 33% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีรายได้จากการขายและบริการ 7,693 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบเท่า 272,270 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากราคาตลาดของก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวลดลงจากปีก่อน
ว่าไปแล้วก็น่าเห็นใจ BANPU อยู่นะ…โชคร้ายได้รับผลกระทบจากเทรนด์พลังงานสะอาดไปเต็ม ๆ…ทำให้ธุรกิจถ่านหินถูกดิสรัปชันอย่างชัดเจน ดูได้ไม่ไกลจากโรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในบ้านเรา เดิมเคยใช้ถ่านหินเป็นพลังงานเชื้อเพลิง ก็เริ่มปรับลดการใช้ถ่านหินให้น้อยลง ซึ่งเทรนด์อย่างนี้เป็นทั้งโลก ทำให้ปริมาณการใช้ถ่านหินหายไป
นั่นเป็นเพราะใคร ๆ ก็ไม่อยากเปรอะเปื้อนด้วยคราบเขม่าถ่านหินน่ะสิ..!!
ในขณะที่ BANPU ทำธุรกิจ worldwide แต่ธุรกิจหลัก (ถ่านหิน) มีความย้อนแย้งกับเทรนด์การค้าโลก หรือเทรนด์ Net Zero เพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน แถมยังต้องเผชิญกับมาตรการทางภาษี ซึ่งหลาย ๆ ประเทศเริ่มมีการเก็บภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) ทำให้ BANPU ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยเป็นที่มาที่ทำให้กำไรถดถอยอย่างที่เห็น…
แต่ BANPU ก็พยายามแก้เกมด้วยการปรับโครงสร้างธุรกิจ ไดเวอร์ซิฟายไปสู่ธุรกิจใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงไฟฟ้า ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจแบตเตอรี่ หวังจะสร้างพระเอกใหม่ แต่ด้วยโลกาภิวัตน์เปลี่ยนไปเร็ว ทำให้การสร้างพระเอกใหม่ไม่ทันการณ์
ส่วนจุดที่น่าสนใจอีกอย่างคือ การเปลี่ยนหัวเรือใหญ่ท่ามกลางศึกประชิดรอบด้าน ด้วยการประกาศแต่งตั้ง “สินนท์ ว่องกุศลกิจ” มานั่งซีอีโอแทน “สมฤดี ชัยมงคล” มีผลวันที่ 2 เม.ย. 2567 (หลังการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567) เป็นต้นไป
แหม๊…มาเปลี่ยนแม่ทัพกลางศึกอย่างนี้ มันทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ BANPU อ๊ะป่าว..??
การมาของ “สินนท์” อาจไม่คุ้นในแวดวงธุรกิจ แต่ใน BANPU คงคุ้นเคยกันดี…เพราะไม่ใช่ใครที่ไหน..? แต่เป็นลูกชายคนกลาง ในบรรดาพี่น้อง 3 คน ลูกของ “ชนินท์ ว่องกุศลกิจ” ผู้ก่อตั้ง BANPU นั่นเอง
ที่ผ่านมา ถ้าพูดถึง BANPU ก็จะนึกถึง “ชนินท์”…ถ้าพูดถึง “ชนินท์” ก็จะนึกถึง BANPU กลายเป็นภาพจำที่แยกกันไม่ออก กระทั่ง “ชนินท์” เกษียณตัวเองไป ก็ดันให้ลูกหม้ออย่าง “สมฤดี” มานำทัพแทน…ถึงตอนนี้คงถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับทัพใหม่ เปลี่ยนจากลูกหม้อมาเป็นลูกในไส้ขึ้นกุมบังเหียน..!?
ก็น่าติดตามว่า “โลกใหม่กับเจนใหม่” ภายใต้การกุมบังเหียนของ “สินนท์” จะกอบกู้และนำพา BANPU ไปยังไง..??
ไม่ว่าจะเป็นการกอบกู้ธุรกิจที่ถดถอยให้กลับมาเติบโตก้าวกระโดดอีกครั้ง…และกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะการกอบกู้วิกฤตศรัทธาจากกองทุนที่ทยอยขายหุ้น BANPU ออกมาเรื่อย ๆ จะทำยังไง..?
คงต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์กันต่อไป…
ว่าแต่ของจริงของแทร่…จะแทร่จริงหรือเปล่า..?? อันนี้ก็ไม่รู้สินะ..
…อิ อิ อิ…