จับตา XPG
ดัชนีหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ก.พ.) ยังยืนเหนือ 1,400 จุดไม่ได้แบบต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า ระหว่างวัน ดัชนีพยายาสู้ที่ระดับ 1,400 จุดตั้งแต่เปิดตลาดภาคเช้า
ดัชนีหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ก.พ.) ยังยืนเหนือ 1,400 จุดไม่ได้แบบต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า
ระหว่างวัน ดัชนีพยายามสู้ที่ระดับ 1,400 จุดตั้งแต่เปิดตลาดภาคเช้า
ทว่า ในช่วงเวลา 15.30 น. ดัชนีวูบลงมา กราฟร่วงเป็นแนวตั้ง
จากการเข้าไปดูความเคลื่อนไหวของหุ้นบิ๊กแคปที่น่าจะมีส่วนของการกดดัชนี พบว่า หุ้น เดลต้าฯ DELTA ถูกทิ้งออกมา จากระดับราคา 75 บาทลงมาปิดที่ 73.75 บาท
การรูดของหุ้นเดลต้า มีส่วนต่อการกดดัชนีประมาณ 1 จุด
ส่วนหุ้นอื่น ๆ ที่มีส่วนต่อการกดดัชนีอีก มาจากกลุ่มธนาคารเช่น KTB BBL KBANK
หลังจากช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้มีแรงเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่
จึงน่าจะมีการขายทำกำไรช่วงสั้นออกมา
แต่ไม่แน่ใจว่า กลุ่มนักลงทุนที่ทิ้งออกมา จะมีการวกเข้ามาซื้อกลับ (short against port) หรือไม่
เพราะหุ้นกลุ่มแบงก์ยังเหลืออีกหลายวันกว่าจะขึ้นเครื่องหมาย XD
คาดว่าระหว่างทางหรือในช่วงวันนี้ไปจนถึงใกล้ขึ้นเครื่องหมาย XD ราคาน่าจะมีความผันผวนในกรอบ จากการเก็งกำไรช่วงสั้น
ส่วนแนวรับนั้นน่าจะพอดูง่ายคือ นับจากวันที่ราคาปรับขึ้นมาแรงนั่นแหละ
อย่าง SCB ก่อนจะแจ้งจ่ายเงินปันผล 7.84 บาท
ราคาปิดอยู่ที่ 104 ต่อหุ้น
วันถัดมาราคาขึ้นมาแรงรับปันผล ขึ้นมาปิด 111 บาท หรือ +7 บาท
แนวรับของ SCB จึงน่าจะอยู่บริเวณ 110-111 นั่นแหละ
เพราะหากลงมาต่ำกว่านั้น น่าจะมีแรงรับซื้อเข้ามาจำนวนมาก เพื่อดักเก็บไปรับเงินปันผล
สำหรับสัปดาห์นี้ ดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,385-1,415 จุด
และต้องจับตาการประกาศงบไตรมาส 4/2566 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่จะส่งงบการเงินต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ครบ (เกือบ) ทุกแห่งภายในเดือน ก.พ.นี้
ระหว่างนี้ จะมีหุ้นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขึ้นเครื่องหมาย XD
หากดูจากกราฟ SET จะพบว่า ช่วงปลายเดือน ก.พ. มาจนถึงกลางเดือน มี.ค.นั้น
ดัชนีมักจะย่อตัวลงจากการขายหุ้นช่วงขึ้นเครื่องหมาย XD
หากปีนี้ ยังม้วนลงก่อนหน้านี้
ดัชนีน่าจะผ่าน 1,400 จุด ยาก ส่วนแนวรับของดัชนี อาจจะลงมาบริเวณ 1,380 จุด บวก/ลบ
นักลงทุนหากคิดจะดักเก็บหุ้นที่ถูกขายจากการขึ้น XD
น่าจะถือเงินสดรอไว้เพื่อดักซื้อดูก็ได้
อ้อมีหุ้นที่มีผลประกอบการออกมาน่าสนใจอีกตัวคือ XPG
เพราะปี 2566 แจ้งงบ มีกำไรสุทธิ 106 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนในปี 2565 ระหว่าง 170-180 ล้านบาท
กำไรที่กลับมาเป็นบวก ถือว่าอยู่ในคาดการณ์ของผู้บริหารและนักวิเคราะห์แล้ว
แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือคุณหมอ “ระเฑียร ศรีมงคล” อดีต CEO บัตรกรุงไทย หรือ KTC เข้ามานั่งเป็น CEO ที่ XPG เต็มตัว พร้อมกับจะมีแถลงข่าวเกี่ยวกับแผนธุรกิจในช่วงเดือน มี.ค.นี้
มาดูกันว่ายุทธศาสตร์ของ XPG จะออกมาอย่างไร
ภายใต้การขับเคลื่อนของ คุณหมอระเฑียร