พาราสาวะถี
เมื่อจินตนาการผสานเข้ากับอคติ และการตั้งหน้าตั้งตาทำไอโอเพื่อให้คนคล้อยตาม จึงไม่แปลกที่ เศรษฐา ทวีสิน จะต้องมาคอยตอบคำถามรายวันเรื่องนายกฯ สองคน สามคน รวมไปถึงการปรับ ครม.
เมื่อจินตนาการผสานเข้ากับอคติ และการตั้งหน้าตั้งตาทำไอโอเพื่อให้คนคล้อยตาม จึงไม่แปลกที่ เศรษฐา ทวีสิน จะต้องมาคอยตอบคำถามรายวันเรื่องนายกฯ สองคน สามคน รวมไปถึงการปรับ ครม.ภายหลังจากที่มีการเดินทางเข้าเยี่ยม ทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถูกต้องเหมือนที่เจ้าตัวบอกกับนักข่าว “คำถามนี้ผมว่าไม่ควรจะถามนะ เพราะนายกฯ ทักษิณไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคณะรัฐมนตรี”
เป็นการยืนยันเชิงประชดประชัน แต่เต็มไปด้วยความเป็นจริง เพราะนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันชื่อเศรษฐา ถ้าจะมีการปรับก็รู้กันเองภายในพรรคร่วมรัฐบาล คนที่จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ก็ชื่อเศรษฐาไม่ใช่ทักษิณ ดังนั้น ต้องเชื่อในความเป็นตัวของตัวเองของเศรษฐาที่ยืนยันไม่ว่านักข่าวจะถามกี่ครั้งกี่หน คำตอบก็คือคำตอบเดิมไม่มีการปรับ เพราะรัฐมนตรีทุกคนยังคงทำงานร่วมกันได้ดี และมีผลงานในระดับหนึ่ง ปล่อยให้ทุกคนได้ทำงานอย่างเต็มที่
คงลืมกันไปว่ารัฐบาลเศรษฐาเพิ่งทำงานมาได้ครึ่งปี ซึ่งเป็น 6 เดือนที่ทำงานโดยใช้นโยบายในการแก้ไขปัญหาเป็นหลัก เนื่องจากงบประมาณประจำปี 2567 ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ของสภาผู้แทนราษฎร ที่พบว่ากระบวนการทำงานเร็วกว่าที่คาดถึง 3 สัปดาห์ หมายความว่า มีโอกาสที่งบประมาณดังกล่าวจะได้ใช้เร็วจากเดิมที่ขีดเส้นไว้ว่าน่าจะเป็นเดือนพฤษภาคมไปแล้ว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการพิจารณาของพวกลากตั้งที่จะรับไม้ต่อหลังจากเสร็จสิ้นในชั้นของสภาล่างไปแล้ว
แน่นอนว่า ด้วยตัวตนเช่นนี้ของเศรษฐา การทำงานจึงยังคงเป็นไปตามปกติเหมือนที่เคยทำมาตั้งแต่รับตำแหน่ง โดยประเด็นนายกฯ จะกี่คนนั้นไม่ได้ทำให้เกิดความท้อ ในทางกลับกันยิ่งจะเป็นแรงผลักให้เดินหน้าทำงานมากขึ้น จะเห็นได้จากคิวงานเฉพาะหน้าตั้งแต่ปลายเดือนนี้ไปชนถึงกลางเดือนหน้า ทั้งการประชุม ครม. และการเดินสายต่างจังหวัด ต่างประเทศ ทุกอย่างเป็นไปตามที่มีการแบ่งแยกการทำงานชัดเจนระหว่างรัฐบาลกับพรรคแกนนำอย่างเพื่อไทย
ฟากของทักษิณนั้น จะเห็นได้ว่าไม่ได้เร่งรัดเรื่องการเปลี่ยนแปลง แม้ แพทองธาร ชินวัตร จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะสิ่งที่มีการพูดคุยกันมาก่อนหน้านั้นผ่านดีลเพื่อให้ประเทศเดินหน้า นายกฯ ต้องชื่อเศรษฐา โดยบรรดาพรรคการเมืองที่มาร่วมงานจะต้องช่วยกันสร้างผลงานให้เป็นที่ปรากฏ เพราะเป้าหมายร่วมทั้งในส่วนของเพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาล รวมไปถึงฝ่ายที่เจรจาด้วยมีเหมือนกันคือ สกัดไม่ให้ก้าวไกลได้เข้าสู่อำนาจบริหาร
มิติทางการเมืองสำหรับคนตระกูลชินวัตรที่วางตัวอุ๊งอิ๊งไว้เป็นทายาทสืบทอดนั้น ยังมีเวลาสะสมประสบการณ์ เก็บเกี่ยวผลงาน การได้มีพ่อมายืนอยู่เบื้องหลังยิ่งจะทำให้สังคมได้เห็นแววความโดดเด่นทางด้านการแสดงวิสัยทัศน์ ฝีมือในการบริหารงานได้มากขึ้น นั่นหมายถึงว่า เวลาที่เหมาะสมคือหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าไปแล้ว สิ่งสำคัญวันนี้คือต้องทอดระยะเวลาไปพอสมควรเพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นว่าเป็นจังหวะที่สภาพร่างกายของอดีตนายกฯ ฟื้นคืนสภาพปกติแล้ว หลังจากป่วยหนักนับตั้งแต่เข้าสู่เรือนจำก่อนจะถูกส่งไปนอนรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจนานพอ ๆ กับอายุรัฐบาล
งานทางการเมืองสำหรับเพื่อไทย โจทย์ใหญ่ไม่ได้อยู่แค่การใช้ลูกสาวคนเล็กของทักษิณเข้ามาเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ ทำให้เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวพันกับการสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ด้วย ตรงนี้เป็นหน้าที่ของเศรษฐาในฐานะผู้ได้รับความไว้วางใจ กลไกในการขับเคลื่อนไม่เพียงแต่อาศัยความร่วมมือร่วมใจจากพรรคร่วมรัฐบาล และแรงผลักดันอย่างเต็มสูบของพรรคแกนนำรัฐบาลเท่านั้น ภาคส่วนอื่นโดยเฉพาะชนชั้นอีลิทก็ฝากความหวังไว้ด้วยเช่นกัน
ต้องยอมรับความจริงกันว่าเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา พวกหนุนหลังเผด็จการ คสช.ในการยึดอำนาจอาจประสบความสำเร็จในการออกแบบกฎหมาย เครื่องมือเพื่อการสืบทอดอำนาจ และควบคุมฝ่ายเห็นต่างกับพวกอนุรักษนิยมสุดโต่งได้อยู่หมัด ดูเหมือนจะกำจัดระบอบอุปโลกน์อย่างระบอบทักษิณได้ แต่กลับสร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อบ้านเมืองในแง่ของการพัฒนาทุกด้าน ที่หนักหนาสาหัสไปกว่านั้น บอนไซเพื่อไทย และพรรคการเมืองเก่าอื่น ๆ ได้ แต่ไม่สามารถสกัดความนิยมของพรรคน้องใหม่อย่างอนาคตใหม่ และก้าวไกลได้
จากความที่เคยเกลียดและกลัวระบอบทักษิณ และปลุกผีทักษิณขึ้นมาหลอกหลอนคนไทยโดยตลอด กลับพบว่าแนวทางแบบนี้ไม่สามารถที่จะใช้ได้อีกต่อไปในยุคสมัยที่สังคมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่แค่พรรคเกิดใหม่ที่แปรสภาพเป็นก้าวไกลในปัจจุบันจะช่ำชองในการใช้โซเซียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการสร้างพลังสนับสนุนเท่านั้น พวกที่เคยสนับสนุนแนวทางแบบอนุรักษนิยมสุดโต่งจำนวนไม่น้อยก็ผิดหวังกับสิ่งที่ตัวเองอยากได้แต่ไม่ได้ จึงหันไปเชียร์พรรคเกิดใหม่ จนส่งผลต่อพรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์จนแถบจะสูญพันธุ์
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกอีลิททั้งหลายต้องเปลี่ยนความคิด และปรับตัวเพื่อไม่ให้ถูกกลืนไปกับกระแสความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่ได้สุดโต่งแบบพวกที่ผิดหวังกับสิ่งที่ตัวเองอยากได้ จึงเลือกแนวทางที่เห็นว่าเป็นไปได้ และเกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายนั่นก็คือ การให้เพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาลร่วมกับพรรคที่พวกตัวเองถือหาง โดยต้องแลกกับการแสดงจุดยืนในการสนับสนุนนโยบายสำคัญของรัฐบาลเศรษฐา ซึ่งจะเห็นได้จากเสียงหนุนในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และการเชียร์ตามเศรษฐาให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
คงไม่มีใครปฏิเสธว่านอกเหนือจากพลังทางการเมืองของพรรคการเมืองที่สามารถกุมเสียงข้างมากในสภาได้แล้ว เสียงของพวกที่ไม่ได้มีเสียงในสภาแต่มีพลังก็มีผลอย่างยิ่งยวดต่อการเดินหน้าเรื่องสำคัญของประเทศ ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เพื่อไทยที่ได้หวนคืนสู่อำนาจบริหารอีกครั้งตระหนักถึงความจำเป็นในการประสานมือและผลประโยชน์ร่วมกับทุกฝ่าย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนายกฯ ต้องเป็นเศรษฐา และสามารถการันตีได้ว่าจะทำงานกันไปจนครบเทอม