RT รีเทิร์นกำไร.!?

หลังจากเจ็บมาเยอะกับวิกฤตโควิด จากการต้องปิดไซต์งานก่อสร้างเพื่อสกัดการแพร่ระบาด จนทำให้กำไรของ RT หุ้นขุดเจาะอุโมงค์ ถดถอยไป


หลังจากเจ็บมาเยอะกับวิกฤตโควิด จากการต้องปิดไซต์งานก่อสร้างเพื่อสกัดการแพร่ระบาด จนทำให้กำไรของบริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT หุ้นขุดเจาะอุโมงค์ของ “เฮียชวลิต ถนอมถิ่น” ถดถอยไป…โดยปี 2564 กำไรสุทธิเหลือแค่ 41.60 ล้านบาท ส่วนปี 2565 ถึงขั้นพลิกมาขาดทุนบักโกรกกว่า 312.15 ล้านบาท เลยทีเดียว

ผลพวงจากการปิดแคมป์คนงาน…แรงงานต่างชาติเดินทางกลับประเทศ ก็ไม่ต่างจากตัดเส้นเลือดใหญ่ของ RT ทำให้ไม่สามารถส่งมอบงานได้  รายได้ก็หายไป แต่สิ่งที่ไม่หาย เห็นจะเป็นภาระหนี้สินนี่แหละ (ณ สิ้นปี 2566 มีหนี้สินรวมอยู่ที่ 4,667.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 3,485.18 ล้านบาท ในปี 2565) โดยเฉพาะต้นทุนทางการเงินยังคงอยู่ เลยทำให้ผลประกอบการโซซัดโซเซอย่างที่เห็น

น่าเห็นใจจริง ๆ…

แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง แคมป์คนงานกลับมาเปิดได้ตามปกติ เริ่มรันงานได้อีกครั้ง แม้ช่วงต้นปี 2566 ยังไม่ค่อยดีมากนัก แต่ช่วงปลายปีดีขึ้นอย่างชัดเจน ส่งผลให้งบงวดปี 2566 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิอีกครั้ง อยู่ที่ 48.83 ล้านบาท

ด้านรายได้เติบโตทุกขา ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง อยู่ที่ 3,113.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.79% ส่วนรายได้จากการขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่ 22.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.31% และมีรายได้อื่น 13.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.40% ส่งผลให้มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,150.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.45% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,053.45 ล้านบาท

ขณะที่ จุดเด่นของ RT นั้น มีแบ็กล็อกในมือเยอะกว่า 8,520 ล้านบาท เพราะเป็นรับเหมาฯ ก่อสร้างเฉพาะทาง มีโอกาสรับงานใหญ่ ๆ ได้มาก แม้จะเล่นบทพระรอง (ต้องซับฯ งานต่อจากบริษัทรับเหมาฯ มาอีกที) แต่บริษัทคู่เทียบมีน้อย เลยมีโอกาสได้งานอีกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานขุดเจาะอุโมงค์ในประเทศไทยกวาดเรียบ ส่วนงานในประเทศเพื่อนบ้าน ก็แว่ว ๆ มาว่า มีลุ้นจะได้งานโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง ของบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ด้วยนะเธอ

โดยแบ็กล็อกที่ตุนไว้กว่า 8,520 ล้านบาท จะเก็บเกี่ยวไปเรื่อย ๆ ราว 3-4 ปี…ไม่นับรวมงานใหม่ที่จะทยอยออกมาต่อเนื่อง ที่สำคัญ ช่วงราวเดือน พ.ค.นี้ คาดว่างบประมาณปี 2567 จะมีผลบังคับใช้ซะที หลังจากล่าช้ากว่ากำหนดมากว่า 6 เดือน ก็จะเป็นตัวกระตุ้นให้มีการลงทุนโครงการใหม่ ๆ โดยเฉพาะเมกะโปรเจกต์ที่รัฐบาลขายฝันไว้ก่อนหน้านี้…

เอาเป็นว่า แม้ RT อาจไม่ใช่ตัวจริง แต่เป็นตัวหลัก ซับฯ งานได้ทุกค่ายนะจิบอกให้..!!

ว่าไปแล้วการรีเทิร์นกำไรครั้งนี้ แค่เป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น ส่วนจะกลับสู่กำไรที่ระดับ 200 ล้านบาท เหมือนในอดีตได้หรือเปล่า..? ถ้าดูจากสถานการณ์ ก็น่าจะทำได้ไม่ยากนะ…

อ้อ…ที่เห็นราคาหุ้น RT ทรุดหนัก 2 วันซ้อนกว่า 16% โดยวานนี้ (29 ก.พ.) ปรับลดลง 8.64% ปิดตลาดที่ 0.74 บาท เป็นผลมาจากนักลงทุนผวาการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 808.51 ล้านบาท จากเดิม 660 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่จำนวน 297.03 ล้านหุ้น แบ่งเป็น 275.47 ล้านหุ้น ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) อัตราส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.55 บาท คิดเป็นมูลค่า 151.51 ล้านบาท

ส่วนที่เหลือราว 21.56 ล้านหุ้น รองรับการออกวอร์แรนต์ครั้งที่ 1 (RT-W1)

ที่จริงถ้าดูจากวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนครั้งนี้ ชัดเจนว่าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดต้นทุนทางการเงิน รวมทั้งรองรับการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งจะแตกต่างจากการเพิ่มทุนของบางบริษัทที่มีความจำเป็นต้องไปแก้ปัญหาเครื่องหมาย C

แต่เคสของ RT เป็นการเติมสภาพคล่อง เพื่อโอกาสการขยายงานในอนาคต ซึ่งวันนี้ศักยภาพพร้อมเต็มที่แล้ว…

แหม๊..นักลงทุนก็ไม่น่าจะตื่นตูมกันขนาดนี้มั้ย..??

ระวังจะขายหมูกันนะ..แล้วจะหาว่าไม่เตือน..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button