เด้งแล้วตบ

อย่างน้อยก็เป็นครั้งที่ 4 ของตลาดหุ้นไทยที่ดัชนีเด้งกลับตรงบริเวณแนวรับสำคัญทางจิตวิทยา 1,350 จุด และวันถัดมาก็พุ่งกระฉูดอย่างร้อนแรง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ขาบู๊พร้อมพุ่งชนแบบไม่มีข้อแม้ เพราะการเล่นลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และหลายคนก็คุ้นเคยกับยุทธการตีหัวเข้าบ้าน “โมนิก้า” จึงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความอีกต่อไป เพราะรับรู้เรื่องแบบนี้เป็นเวลานานถึง 4 เดือนเจ้าค่ะ

ที่สำคัญคือในช่วง 1-2 ครั้งแรกที่ดัชนีฝ่าแนวต้านสำคัญ 1,400 จุดขึ้นไปได้ “โมนิก้า” ก็หลงเชื่อว่า ดัชนีจะวิ่งขึ้นไปถึง 1,450 จุด และมองว่า การขึ้นไปถึงระดับ 1,500 จุดไม่ใช่เรื่องยาก แต่สุดท้ายก็ต้องอกหักกลับมาทุกครั้ง เพราะนักลงทุนต่างชาติสาดหุ้นออกมาแบบไม่แยแสอะไรทั้งสิ้น และทำให้ในช่วง 2 ครั้งล่าสุดขึ้นได้แค่ระดับ 1,400 จุด แล้วม้วนหัวกลับลงไปที่แนวรับด้านล่างไงล่ะคะ

ฉะนั้นการที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดในระดับ 1,370.55 จุด บวกไป 11.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.10 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นเพียงมุกเดิมที่นักลงทุนสถาบันชอบเอามาใช้เป็นประจำ “โมนิก้า” เลยไม่ต้องสาธยายอะไรให้ฟังมากความ เพราะเชื่อมั่นในตัวนักลงทุนว่า เอาตัวรอด! จึงขอเม้าท์เฉพาะหุ้นที่ขึ้นมาแรง ๆ เพื่อให้นักเล่นไปพิจารณาว่า รอบนี้ “มาจริง” หรือ “มาเล่น” และขอปิดท้ายกันที่เรื่องคนในแวดวงตลาดหุ้นที่ชอบอุปโลกน์ตัวเอง..เพื่อเป็นน้ำจิ้มแล้วกันนะคะ

รายแรกที่มาเหนือเมฆสุด ๆ และมีลักษณะวิ่งไว้ก่อน เดี๊ยนขอแนะนำให้ดูที่หุ้น BAM หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.95 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 6.55 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 614 ล้านบาท “โมนิก้า” อาจมองเป็นเกมที่โอเว่อร์ไปหน่อยก็จริง แต่นักเล่นส่วนใหญ่มองว่า นี่เป็นจังหวะของการตามน้ำ จึงไม่ต้องสนใจรายละเอียดมากมายต่อจากนี้ เพราะแค่รู้ว่า ยังมีคนเล่นต่อ หุ้นก็พร้อมไปแล้วจ้ะ

คล้ายกับในรายของ BANPU เกาะกระแสตลาดรีบาวด์ขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.55 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 572 ล้านบาท ก็เป็นเกมที่น่าตื่นเต้นสำหรับคนที่เข้าซื้อวานนี้ เพราะวันนี้ต้องลุ้นให้หุ้นไปต่อยาว ๆ แต่สำหรับคนที่เน้นเรื่องพื้นฐานเป็นหลักจะเห็นว่า ราคาถ่านหินก็ยังไม่ดี และยังไม่รู้ว่า ตลอดทั้งปีจะเจออะไรอีก จึงกลายเป็นหุ้นเล่นรอบธรรมดา ๆ พะย่ะค่ะ

ส่วนรายที่เห่อของใหม่ เพราะน่าจะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นมากมาย “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นบันเทิงเริงรำอย่าง ONEE แบบตาไม่กระพริบ เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 5.10 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 255 ล้านบาท โดยที่หุ้นอยู่ในทิศทางแกว่งตัวขึ้นแบบนี้ มันเป็นเกมที่ขาลุยต้องไปแบบสุดซอยกระมัง! แถมวอลุ่มการเล่นเที่ยวนี้ก็ยังหนาแน่น จึงกลายเป็นช็อตของการโหนกระแสไงล่ะคะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น ITC อีกครั้ง เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 18.70 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 6.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 126 ล้านบาท โดยที่เที่ยวก่อนหุ้นเด้งตรงบริเวณ 18 บาท และถัดจากนั้นก็ขึ้นไปแถว 20 บาท ต่อจากนั้นก็ทิ้งตัวลงมานอนที่เดิม มันเป็นเกมที่น่าคิดมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบเล่นสั้น เพราะเชื่อได้ว่า เที่ยวนี้คงเหมือนกับเที่ยวก่อนจ้า!

สำหรับตัวจี๊ดของจริงต้องมองไปที่หุ้น BYD หลังประกาศศักดาด้วยการลุยธุรกิจโบรกเกอร์เต็มตัว ผสานกับวันก่อน ๆ มีแต่คนโทรมาเม้าท์เรื่องแม่ทัพนายกองจากโบรกเกอร์ต่าง ๆ แห่เข้ามาร่วมงานกับสังกัดนี้กันเยอะแยะ “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 4 บาท บวกไป 0.52 บาท หรือขึ้นไป 14.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 174 ล้านบาท เพราะคุณ ๆ ท่าน ๆ คงได้เห็นมาร์เก็ตแชร์ขยับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ..อิอิอิ

ตบท้ายกันที่เรื่องเล่าของ “เสี่ย ช.” กันสักนิด เพราะผู้คนมากมายเริ่มส่งข้อมูลมาให้ “โมนิก้า” เพื่อให้ช่วยนำเสนอถึงสันดานประเภท “ปากว่า ตาขยิบ” มันมีอยู่จริง! และประเด็นตรงนี้ก็รู้กันเฉพาะในกลุ่มลับของตัวเองเสียด้วย แต่เผอิญบางคนในกลุ่มลับไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเสี่ยรายดังกล่าว จึงแคปข้อความที่เกิดขึ้นส่งมาให้เดี๊ยนแบบเฉพาะเจาะจง จึงอยากให้แฟนคลับติดตามเนื้อหาในวันถัดไป..รับรองมันพะย่ะค่ะ