RS เปิดน่านน้ำใหม่.!
คงรู้กันอยู่เต็มอกว่า รากเหง้าเดิมของ RS โตมาจากธุรกิจค่ายเพลง จากนั้นก็ขยายไปสู่ธุรกิจทีวีดิจิทัล เป็นเจ้าของทีวีช่อง 8
คงรู้กันอยู่เต็มอกว่า รากเหง้าเดิมของบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS โตมาจากธุรกิจค่ายเพลง จากนั้นก็ขยายไปสู่ธุรกิจทีวีดิจิทัล เป็นเจ้าของทีวีช่อง 8…ด้วยองคาพยพที่มีครบเครื่อง ทั้งดาราศิลปินชื่อดังในสังกัด และช่องทางขายและโฆษณาผลิตภัณฑ์ ก็คิดก้าวสู่น่านน้ำใหม่ ด้วยการปลุกปั้นธุรกิจคอมเมิร์ซ ซึ่งมีโปรดักส์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องสำอาง สกินแคร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย…
ตอนนั้นแม่ทัพใหญ่อย่าง เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หมายมั่นปั้นมือว่า ธุรกิจคอมเมิร์ซนี่แหละจะเป็นเรือธงลำใหม่ที่หนุนนำให้ RS เติบโตก้าวกระโดด..!!
แต่แฟน ๆ ร้องเพลงรอแล้วรอเล่า…เรือธงลำใหม่ของ RS ก็ยังไม่สามารถฝ่ากระแสคลื่นมาเทียบฝั่งได้นะเนี่ย..!!
ก็เข้าใจได้…เพราะแรกเริ่มเดิมทียังเป็นน่านน้ำสีคราม หรือบลูโอเชียน แต่เผลอแป๊บเดียวคู่แข่งเต็มไปหมด เพราะใคร ๆ ก็อยากเข้ามาแบ่งเค้กก้อนนี้ ทำให้การแข่งขันสูงขึ้น และกลายเป็นน่านน้ำสีเลือด หรือเรดโอเชียน ไปโดยปริยาย…โอเค แม้ตอนนี้ตลาดยังพอไปได้ แต่มาร์จิ้นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ทำให้ RS ต้องออกไปแสวงหาน่านน้ำใหม่ นั่นคือตลาดฟิลิปปินส์..!?
ด้วยการส่งบริษัทลูกที่ชื่อ บริษัท อาร์เอส ลิฟเวลล์ จำกัด (RS LiveWell) ไปจับไม้จับมือกับบริษัท เดอะ โอซีบีเอฟเอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (The OCBFF Corporation) ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายและผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์สินค้าสุขภาพ-ความงามที่มีเครือข่ายร้านค้าที่แข็งแกร่งทั่วประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุน
สัดส่วนการถือหุ้น จะแบ่งเป็น RS LiveWell ถือหุ้น 51% ในขณะที่ The OCBFF Corporation ถือหุ้น 49% โดยคาดกระบวนการจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3/2567
ว่าไปแล้ว ตลาดฟิลิปปินส์ก็ไม่ได้ใหม่ถอดด้ามสำหรับ RS หรอก เพราะเดิมทีก็ชิมลางส่งสินค้าไปขายในตลาดฟิลิปปินส์อยู่แล้ว ก็คงเห็นโอกาสในการเติบโตแหละ สอดรับกับข้อมูลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่ระบุว่าชาวฟิลิปปินส์ขึ้นชื่อเรื่องความสนใจในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและการแต่งหน้า ซึ่งจะช่วยหนุนให้ตลาดสินค้าสุขภาพและความงามของฟิลิปปินส์มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
RS ก็เลยตัดสินใจทำให้เป็นกิจลักษณะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับพันธมิตรซะเลย เพื่อหวังรุกตลาดฟิลิปปินส์เต็มสูบ
ก็น่าสนใจนะ…ถือเป็นการนำจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาเสริมการเติบโตของกันและกัน..!!
อย่างในฝั่ง RS มีความแข็งแกร่งด้านโปรดักส์ที่มีนวัตกรรมสูง ในขณะที่ The OCBFF Corporation มีความแข็งแกร่งด้านช่องทางการขายทั้งในแบบออฟไลน์และออนไลน์ โดยจะโฟกัสไปที่ลูกค้า 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ สินค้า Skincare สำหรับกลุ่ม Gen Z, ผลิตภัณฑ์ Personal Care สำหรับกลุ่ม Gen Y และสินค้าเสริมอาหาร สำหรับกลุ่ม Gen X
เบื้องต้น RS วาดฝันไว้ว่า ภายใน 1 ปีจะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำราว 300 ล้านบาท..!!
ไม่ได้โม้…ใช่มั้ยคะ “เฮียฮ้อ” ขาาา..??
แหม๊..นี่ถ้าโมเดลตลาดฟิลิปปินส์ปังจริง…เชื่อว่า RS ก็น่าจะแสวงหาน่านน้ำใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องนะ..
ก็น่าติดตามถึงความเพียรพยายามในการปั้นธุรกิจคอมเมิร์ซของ RS…ซึ่งถ้าดูจากที่ผ่านมา มีทั้งการซื้อ “Unilever Life” หรือ “ยูไลฟ์” จากยูนิลีเวอร์ เข้ามาเสริมทัพ และมีบริษัท กิฟท์ อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ GIFT (แม้ RS ไม่ได้ถือหุ้นโดยตรง แต่เป็นธุรกิจในกลุ่มเชษฐโชติศักดิ์) มาเสริมแรง ทำให้มีความครบเครื่องทั้งสื่อ ศิลปิน และโปรดักส์
ส่วนจะผลักดันไปได้ไกลแค่ไหน..? ยังไม่มีใครตอบได้…
คงต้องให้เวลา RS กับ “เฮียฮ้อ” อีกสักพักใหญ่ ๆ เลยละมั้ง..!?
…อิ อิ อิ…