เคาะขวารัว ๆ

การทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงของดัชนีเหมือนเป็นการย้ำกับทุกคนว่า ที่ผ่านมาก็เล่นกันแบบนี้! จึงเห็นการกระโจนใส่มือเป็นระวิงอีกครั้ง จนดัชนีขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,386.42 จุด บวกไป 14.20 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.01 หมื่นล้านบาท พร้อมกับมีเสียงเม้าท์มอยไม่ขาดสายว่า เดี๋ยวก็จบรอบตรงบริเวณ 1,400 จุดอีกตามเคย วันนี้เลยต้องเคาะขวารัว ๆ เพื่อเก็บของก่อนคนอื่นให้ได้ไงล่ะคะ

ด้วยเหตุนี้จึงเห็นหุ้นบลูชิพทะยานขึ้นอย่างพร้อมเพรียง แต่เมื่อเหลือบดูวอลุ่มการซื้อขายที่ยังไม่หนาแน่น ก็เดาได้ทันทีว่า เที่ยวนี้คงเหมือนกับเที่ยวก่อนอีกแน่ ๆ “โมนิก้า” จึงขอแนะนำให้สายลุยเดินหน้าแบบสุดซอย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้มันเป็นอะไรที่พื้น ๆ และไม่ได้มีอะไรสลับซับซ้อน หรือมีอะไรที่ทำให้ต้องคิดมาก เดี๊ยนถึงมองว่า จังหวะนี้ไม่มีอะไรต้องกลัวแม้แต่นิดเดียวจ้า

เหมือนกับการคัมแบ็คของหุ้นลูกอ๊อด AOT ก็เป็นช็อตที่ทำให้เห็นว่า ไซเคิลของหุ้นเป็นลักษณะ side way up ซึ่งเป็นจังหวะที่เหมาะต่อการซื้อลงทุนระยะยาว แต่ในขณะเดียวกันก็เปิดช่องให้พวกสิงห์เดย์เทรดเข้ามาปั่นรอบไปพลาง ๆ “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 66.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.91 พันล้านบาท น่าเล่นต่อไงล่ะคะ

เช่นเดียวกับการเด้งกลับของหุ้น JMT ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 22.70 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 6.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 638 ล้านบาท ก็เหมาะต่อการโหนกระแสอย่างแน่นอน เพราะการวิ่งครั้งก่อนที่ผ่านมา ก็ขึ้นไปที่บริเวณ 25 บาทเสียด้วย ผนวกกับผลงานแต่ละไตรมาสก็ยังอยู่ในทิศทางที่ดี “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองเสี่ยงดูสักตั้ง เพราะวอลุ่มซื้อเริ่มหนาแน่นขึ้นน่ะซี

คล้ายกับสถานการณ์ของเจ้าพ่อแห่งวงการยางพาราอย่าง STA ก็อยู่ในโมเมนตัมที่ดีสุด ๆ ในจังหวะนี้ เพราะเมื่อดูจากราคายางกิโลละ 80 บาท ก็อนุมานได้ทันทีว่า ไตรมาส 1 ผลงานออกมาเริ่ดสะแมนแตนอย่างแน่นอน และการที่หุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 19.80 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 488 ล้านบาท โดยนักเล่นมองไปในทางเดียวกันว่า “เทิร์นอะราวด์” แบบเต็มตัว..มันไม่มีอะไรต้องกลัวอีกเลยนะจ๊ะ

ส่วนในรายของ EA อาจเป็นอะไรที่ต้องลุ้นกันต่อก็จริง! แต่เมื่อดูจาการขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมาจะเห็นว่า ราคาหุ้นวิ่งสวนหน้าตาเฉย พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 35.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 463 ล้านบาทแบบนี้ “โมนิก้า” มองว่า เรื่องนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และน่าจะได้ลุ้นกันยาว ๆ อีกยก จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ดีอันดับต้น ๆ ของการเคาะขวารัว ๆ นะจะบอกให้

ไหน ๆ ก็เม้าท์ถึงหุ้นที่ต้องลุยกันทั้งที “โมนิก้า” ขอเอ่ยถึงหุ้น CHASE กันสักหน่อย! เพราะการที่พุ่งแรงก่อนจะมาปิดที่ระดับ 1.93 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 10.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 150 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มาก ๆ แต่เมื่อดูจากการเล่นในรอบก่อน ๆ ที่ขึ้นมาบริเวณแนวต้าน 2 บาท ต่อจากนั้นมักประกาศเลิกวงกันเป็นประจำ จึงเป็นอะไรที่ท้าทายผู้เล่นว่า รอบนี้อาจไม่เหมือนรอบก่อนก็ได้นะคะ

ตัวอย่างดังกล่าวดูได้จากหุ้น TPS  ซึ่งทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง และเป็นการขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 4.24 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 5.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 102 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 12 เท่า และยังมีเรื่องของปันผลที่อยู่ในระดับ 4% แบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นช็อตที่เหมาะต่อการตะลุมบอนเป็นอย่างยิ่ง เพราะดูทรงแล้ว..คงไม่เลิกง่ายๆ กระมัง!

ตบท้ายกันที่หุ้น MGI กันสักหน่อย เพราะมีเสียงร่ำลือในหมู่ขาเม้าท์ถึงการร่วงลงมาปิดที่ระดับ 36.25 บาท ลบไป 9.75 บาท หรือลงไป 21% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 370 ล้านบาท น่าจะเกิดจากพวกเดียวกันล่อกันเองแล้วกระมัง! เพราะคงไม่มีรายย่อยคนไหนที่มีหุ้นออกมาสาดได้เรื่อย ๆ ผนวกกับนักเล่นส่วนใหญ่ต่างรับรู้เรื่องราวของคอนเนอร์แตกมันเป็นอย่างไร? จึงสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ตรงกันว่า ตายคาปาก!..ไงล่ะที่รัก