ยกหุ้นแรง

ดูเหมือนอาการตื้อ ๆ ตัน ๆ ของตลาดหุ้นไทยจะกลับมาอีกครั้ง เพราะสตอรี่ที่เคยเป็นธงนำในการดันหุ้นเริ่มแป้ก ผนวกกับนักเล่นยังยึดติดกับกรอบเล่นเดิม ๆ ที่เคยเล่นกันมา จึงทำให้ดัชนีออกอาการตุปัดตุเป๋เมื่อวิ่งเข้าใกล้แนวต้าน 1,400 จุด ก่อนจะยืนปิดไปที่ระดับ 1,386.04 จุด ลบไป 8.89 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.97 หมื่นล้านบาทแบบนี้ เดี๊ยนมองเป็นเรื่องของจังหวะการลงทุนที่ยังไม่เอื้อให้เล่นต่อยาว ๆ เจ้าค่ะ

เนื่องจากสิ่งที่เห็น ณ เวลานี้ มันเกี่ยวโยงโดยตรงกับโรบอท และทุกครั้งที่หุ้นกำลังจะเทคตัว ก็มีโรบอทเข้ามาเป็นตัวแปร หรือแม้กระทั่งในช่วงที่ตลาดหุ้นเริ่มย่อตัว มักเห็นโรบอทเป็นตัวการที่ทำให้สถานการณ์อึมครึม โดยทั้งสองประเด็นที่ “โมนิก้า” เกริ่นให้ฟังคร่าว ๆ ไม่มีส่วนไหนที่สัมพันธ์กับผลงานของบริษัทจดทะเบียนแม้แต่นิดเดียว ยกเว้นในหุ้นบางตัวที่มีข่าวดีจริง ๆ ก็จะเห็นทุกฝ่ายมารวมตัวยกหุ้นแรงนะจะบอกให้

สำหรับตัวอย่างที่ดีสุดสำหรับการเล่นเที่ยวนี้ก็คือ NER ซึ่งได้รับผลดีเต็ม ๆ จากราคายางที่ทะลุขึ้นไปโลละ 90 บาท จึงเชื่อได้อย่างสนิทใจว่า ผลงานไตรมาส 1 ออกมาดีแน่นอน ผนวกกับช่วงปลายปีกำลังผลิตของโรงงานจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” เลยมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 6.30 บาท บวกไป  0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 163 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้อีกเพียบ เพราะเบื้องต้นโบรกฯ ให้ราคาเป้าที่ 7.20 บาทน่ะซี

เช่นเดียวกับเจ้าพ่อรับเหมาก่อสร้าง CK ก็มีมุมให้เล่นเยอะพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องรายได้ปีนี้จะโตสุดในรอบ 8 ปี ซึ่งรวมถึงแบ็กล็อกที่มีมากถึงระดับ 1.40 แสนล้าน ล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้กำไรปีนี้ออกมาดี ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้โบรกฯ ให้ราคาเป้าเบื้องต้นที่ระดับ 27 บาท และมีลุ้นปรับเป้าขึ้นอีกในไตรมาส 2 หากตัวเลขไตรมาส 1 ออกมาสวย และเรื่องนี้แสดงออกด้วยการไล่หุ้นขึ้นมาปิดที่ 24.20 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 327 ล้านบาทเจ้าค่ะ

เมื่อหุ้นรับเหมาฯ กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง CNT เลยฉวยโอกาสเกาะกระแสดังกล่าวขึ้นทันที แถมเที่ยวนี้เม้าท์กันไปถึงขั้นที่ว่า สัปดาห์นี้รัฐจะเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อลุยทำโครงการใหม่แบบสุดซอย และดูเหมือนนักเล่นจะพากันเชื่อว่า เจ้านี้น่าจะได้รับอานิสงส์จากนโยบายภาครัฐ หุ้นถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.58 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 12.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 160 ล้านบาทพะย่ะค่ะ

ประเด็นดังกล่าวทำให้หุ้นเหล็กกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และตัวที่เดี๊ยนให้ความสนใจเป็นพิเศษก็คือ PERM เพราะเป็นหุ้นที่มีวอลุ่มซื้ออัดแน่นเข้ามาตั้งแต่หัววัน จนราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.08 บาท บวกไป 0.17 บาท หรือขึ้นไป 18.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 104 ล้านบาท พร้อมกับสยบความซบเซาของหุ้นที่นอนนิ่งเป็นเวลาปีกว่าแบบนี้ เดี๊ยนมองเป็นช็อตที่น่าจะเล่นต่อในวันนี้..หากไม่เป็นเหมือนที่ประเมินไว้แสดงว่า สงครามวันเดียวนะจ๊ะ

ในเมื่อเล่นสตอรี่ข่าวดีขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น NDR กันสักหน่อย! เพราะการทะยานแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 2.14 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 30.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34 ล้านบาท มันมีมุมให้คิดตามเยอะพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องการเทิร์นอะราวด์จะเกิดขึ้นจริงไหม? เพราะในปี 65 ก็ขาดทุน ส่วนในปี 66 ก็ขาดทุนหนักกว่าเดิม เดี๊ยนเลยไม่แน่ใจว่า เที่ยวนี้จะเป็นของแท้อ๊ะป่าว?

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากจะเอ่ยถึงหุ้น YGG เพื่อเสนอเป็นทางเลือกให้กับนักเล่นที่ชอบของ “ช้าแต่ชัวร์” หลังราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ จนล่าสุดยืนปิดที่ระดับ 7.65 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 74 ล้านบาท โดยเที่ยวก่อนจอดป้ายตรงนี้ หรือดีสุดก็ขึ้นไปแตะ 8 บาท ต่อจากนั้นลงมาเซตฐานที่บริเวณ 6.50 บาท มันเป็นเกมที่น่ารักน่าลุ้นดีแท้นะคะ

ตบท้ายกันที่ขาซิ่งที่ชอบลุยกันดีกว่า และตัวที่อยากจะเอ่ยถึงเป็นพิเศษ “โมนิก้า” ขอมองไปที่ ALPHAX ซึ่งเป็นหุ้นที่ถูกไล่ราคาขึ้นมาเรื่อย ๆ จากหุ้นที่เคยถูกขายออกมาต่อเนื่อง จนลงไปทำโลว์ที่บริเวณ 0.45 บาท แต่วันนี้ขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 0.69 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 7.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 45 ล้านบาท เป็นการสื่ออะไรให้รู้บ้าง? และจะขึ้นไปถึงยอดเก่าที่บริเวณ 0.90 บาทไหม? ลองไปคิดกันดู..อิอิอิ