เงินเฟ้อสหรัฐสูง..เฟดคงดอกเบี้ย.!?
นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตาการประชุม FOMC ระหว่างวันที่ 19-20 มี.ค. 67 ไฮไลต์สำคัญถ้อยแถลงของ “เจอโรม พาวเวล” ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ระหว่างวันที่ 19-20 มี.ค. 67 ไฮไลต์สำคัญถ้อยแถลงของ “เจอโรม พาวเวล” ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟดสาขาต่าง ๆ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกช่วงปีนี้
ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 99% การประชุมรอบนี้เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50%
ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาค้าส่ง รวมถึงความคาดหวังระยะยาวจากสาธารณชน บ่งชี้ให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของประเทศจะยังไม่ลดลงช่วงระยะสั้นวันนี้.!!
จากภาพรวมของข้อมูลแสดงให้เห็นแรงกดดันด้านราคาที่เพิ่มสูงขึ้นเร็วกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป
ขณะที่ผลสำรวจจากธนาคารกลางสหรัฐ สาขานิวยอร์ก ระบุว่า ความคาดหวังของผู้บริโภคระยะยาวเดือนกุมภาพันธ์เร่งตัวสูงขึ้น ตามด้วยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น 3.2% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และดัชนีราคาค้าส่ง ที่เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
จากข้อมูลดังกล่าว ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สามารถนำแหล่งข้อมูลเหล่านี้ไปพิจารณาการประชุม FOMC ด้วยเช่นกัน นั่นหมายถึงการไตร่ตรองเกี่ยวกับระดับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ และมองภาพรวมเศรษฐกิจระยะยาวด้วย
พร้อมกันนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ออกรายงานดัชนีราคาการผลิตเดือนกุมภาพันธ์ มีระดับเพิ่มสูงขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ถึง 2 เท่า และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ดัชนีเติบโตขึ้น 1.6%
ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยสถิติเทียบกันปีต่อปีเพิ่มสูงกว่าการคาดการณ์เล็กน้อย…
ส่วนอัตราเงินเฟ้อจากการบริการ ราคาสินค้าต่าง ๆ มีอัตราสูงขึ้น 1.2% นับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นมากสุด นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2566 ทำให้มีการประเมินกันว่า “เริ่มเห็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อภาคอาหารใกล้จะมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว” แต่อัตราเงินเฟ้อก็ยังสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ แม้ธนาคารกลางสหรัฐ จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยแตะ 5.25% และลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลมูลค่าประมาณ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดีผลสำรวจจากธนาคารกลางสหรัฐ สาขานิวยอร์ก ประมาณการว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ช่วงอีก 3-5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นถึงระดับ 2.7% และ 2.9% ตามลำดับ
โดยปกติแล้วแม้ว่าผลสำรวจจากธนาคารกลางสหรัฐ สาขานิวยอร์ก จะค่อนข้างเหวี่ยงไปตามราคาของพลังงานประเภทต่าง ๆ แต่ผลสำรวจครั้งนี้กลับให้คาดการณ์ราคาพลังงานที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน และสะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังมีความกังขาว่าเฟดจะสามารถบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อระดับ 2% ได้หรือไม่..!!?