ควันหลงก๊วนไวไว
จริง ๆ “โมนิก้า” ไม่อยากเอ่ยถึงแก๊ง VIVI ให้เปลืองน้ำลาย เพราะมุมมองในการลงทุนไม่เหมือนเดิม หรือแม้กระทั่งหลักการที่ยึดมั่นก็ถูกลบด้วย TEEN จึงไม่มีอะไรควรค่าแก่การเม้าท์ถึง
จริง ๆ “โมนิก้า” ไม่อยากเอ่ยถึงแก๊ง VIVI ให้เปลืองน้ำลาย เพราะมุมมองในการลงทุนไม่เหมือนเดิม หรือแม้กระทั่งหลักการที่ยึดมั่นก็ถูกลบด้วย TEEN จึงไม่มีอะไรควรค่าแก่การเม้าท์ถึง ผนวกกับแนวคิดของคนพวกนี้เป็นพวกหลงตัวเอง และมองคนอื่นไม่เก่งเท่าก๊วนของตัวเอง เลยวิจารณ์คนอื่นกันอย่างสนุกปาก แต่พอพวกตัวเองโดนคนอื่นวิจารณ์นิด ๆ หน่อย ๆ กลับเกิดอาการดิ้นพล่านเป็นไส้เดือนถูกน้ำร้อนลวกไงล่ะคะ
ที่เลวร้ายสุดเห็นจะเป็นเรื่อง “Corner หุ้น” ซึ่งเราไม่เคยได้ยินคำนี้ออกมาจากปากคนที่เรียกตัวเอง “ไวไว” แม้แต่ครั้งเดียว ผนวกกับหัวหน้าแก๊งที่อุปโลกน์ตัวเองเป็นพระบิดาแห่งการลงทุน ก็ชื่นชอบในการเล่นหุ้นสไตล์ฮาร์ดคอร์ ชนิดที่ผู้บริหารต้องเป็นคนประเภทปากแจ๋ว และมือการเงินต้องเป็นคนประเภทดุดัน จนทำให้คนในแวดวงตลาดเงินตลาดทุนรุมประณามกันยกใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา แต่พวกคุณเธอก็คงไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งนั้นเจ้าค่ะ
เนื่องจากพวกคุณเธอเป็นคนประเภท “โนสน โนแคร์” และสิ่งที่คนพวกนี้ต้องการมากสุดคือ “มีแสง” และยัง “ได้เงิน” จากการออกหน้าช่วยกันดันหุ้นสุดฤทธิ์ จนสุดท้ายมีแต่พวกตัวเองที่เข้าไปเล่น (คนอื่นรู้ทัน) เพราะนักลงทุนรับรู้ธาตุแท้ของคนเหล่านี้จากหน้าสื่อโซเชียลเป็นเวลานาน ผนวกกับอาการย่ามใจดังกล่าวทำให้หัวหน้าแก๊งหลุดโป๊ะเต็ม ๆ ในกลุ่มเฉพาะกิจที่สร้างขึ้นมาเพื่อล่อเม่าให้เข้ามาเป็นสาวกน่ะซี
ว่ากันว่า เรื่องนี้เกิดจากกลุ่ม “ไวไว” ได้ทำการ visit บริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่ง ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอาง และเผอิญมีการหลุดปากพูดถึงเรื่องผลงานไม่ดีออกมาไม่ดีเสียอย่างนั้น และทำให้ค่ำคืนของวันที่ 20 ก.พ. กลายเป็นวันที่ทำให้ทุกคนได้รู้สันดานของหัวหน้าแก๊ง ซึ่งชอบโจมตีเรื่องการจัดประชุมนักวิเคราะห์ไม่โปร่งใส และเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นธรรมในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไงล่ะคะ
ประเด็นดังกล่าวย้อนเข้าตัวคนที่ชอบอุปโลกน์ตัวเองเก่งในเรื่องลงทุนเต็ม ๆ เพราะสมาชิกรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับผลงานไตรมาส 4 ของหุ้นเครื่องสำอางต่ำกว่าที่คิด หลังค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารงานบวม แต่เขาแอบได้ยินว่า ยอดขาย ม.ค. ดีมาก! และสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ตอน 3 ทุ่มกว่า หัวหน้าแก๊งเกิดอาการร้อนตัวอย่างแรง พร้อมกับโพสต์แบบรัว ๆ กันเลยทีเดียวนะจ๊ะ
โดยประเด็นแรกที่หัวหน้าแก๊งโพสต์เชิงตำหนิว่าด้วยเรื่อง “ยอดขาย ม.ค. เอามาจากไหน?” ต่อจากนั้นตามมาด้วย “ไม่ควรโพสต์สาธารณะเปล่า?” ถัดจากนั้นอีกนาทีเดียวก็โพสต์ว่า “คุยกันกลุ่มปิด” ก่อนจะตบท้ายด้วยท่อนฮุกที่ว่า “อีกหน่อยใครจะพูด” ซึ่งทำให้คนโพสต์ต้นเรื่องรีบแก้ไขข้อความดังกล่าวทันที แต่สวรรค์มีตา ฟ้าประทานพร..ทำให้สมาชิกบางคน (ในกลุ่มมี 90 กว่าคน) แคปข้อความไว้ทันเวลาพอดีเจ้าค่ะ
เนื่องจากสมาชิกรายดังกล่าวมองว่า นี่เป็นการกระทำที่เลวร้ายมาก ๆ และตรงข้ามกับสิ่งที่พูดสั่งสอนคนอื่น จึงอยากให้ “โมนิก้า” ช่วยกระชากหน้ากากคนดีจอมปลอม ที่มักอ้างเรื่องความเป็นธรรมตลอดเวลา แต่เมื่อเป็นเรื่องที่พวกตนเองถือหุ้นอยู่กลับหุบปากเงียบ และแทนที่จะไปตำหนิบริษัทเครื่องสำอาง กลับพยายามปกปิดข้อมูลบางอย่างไม่ให้รายย่อยรับรู้แบบนี้..คุณแม่รับไม่ได้จริง ๆ จ้า!
ที่น่าสนใจคือ สมาชิกกลุ่มลับคนที่ส่งข้อมูลมาให้มองว่า พฤติกรรมที่พวก VIVI แสดงออกมาแบบนี้ เหมือนเป็นการส่งเสริมให้ใช้การเปิดเผยข้อมูลไม่เท่าเทียมเฉพาะหมู่ตนเอง และพฤติกรรมเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวก็ถูกเปิดเผยผ่านข้อความสนทนาดังกล่าว “โมนิก้า” ในฐานะคนกลางเลยต้องออกมาทำหน้าที่ในการตีแผ่เรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องไปพิสูจน์กันว่า “จริง” หรือ “ไม่จริง” นะตัวเอง
เนื่องจากเล็งเห็นว่า เรื่องนี้เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย และเอกสารที่ผู้หวังดีส่งมาให้ครั้งนี้ น่าจะส่งไปถึงมือ ตลท. กับ ก.ล.ต. ด้วยเหมือนกัน! และต้องขออภัยอย่างสูงที่ “โมนิก้า” นำเรื่องนี้มาพูดคุยช้าไปหน่อย (เพิ่งเห็นเอกสาร) แต่อย่างน้อยก็ทำให้สังคมหุ้นได้ตื่นรู้พอสมควร ส่วนการร้องเรียนของนักลงทุนรายย่อยคนอื่น ๆ ที่ส่งเอกสารเข้ามา เดี๊ยนจะทยอยลงให้เร็วที่สุด..รักทุกคนนะจ๊ะ..จุ๊บ..จุ๊บ!