1,350 ครั้งที่ 4

วันก่อนเดี๊ยนเพิ่งแสดงอาการกระดี๊กระด๊าออกนอกหน้าได้ไม่ทันไร เผลอแป๊บเดียวต้องมานั่งซึมเศร้าเหงาหงอยเพราะตลาดหุ้นไม่เป็นเหมือนกับที่คิดไว้


วันก่อนเดี๊ยนเพิ่งแสดงอาการกระดี๊กระด๊าออกนอกหน้าได้ไม่ทันไร เผลอแป๊บเดียวต้องมานั่งซึมเศร้าเหงาหงอยเพราะตลาดหุ้นไม่เป็นเหมือนกับที่คิดไว้ แถมแรงซื้อที่เคยคิดไว้ว่า น่าจะไหลเข้ามาต่อเนื่อง กลับแปรเปลี่ยนไปเป็นแรงขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัวลงอย่างชัดเจน ก่อนจะยืนปิดไปที่ระดับ 1,373.18 จุด ลบไป 9.28 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.46 หมื่นล้านบาทแบบเซ็งๆ ไงล่ะคะ

สถานการณ์ตรงนี้ทำให้  “โมนิก้า” เริ่มเอะใจว่า การเล่นหุ้นในช่วงลุ้นเบิกจ่ายงบประมาณ และลุ้นให้มีการลดดอกเบี้ย  มันยากกว่าที่คิดไว้หลายเท่า ผนวกกับนักลงทุนสถาบันจะเล่น 2 ตลาดควบคู่กันไป (SET กับ TFEX) เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หลังประเมินปัจจัยรอบด้านแล้วพบว่า ไม่มีอะไรชัดเจนกว่าที่เป็นอยู่สักเรื่อง จึงต้องหาวิธีการเล่นหุ้นที่ปลอดภัยสุดพะย่ะค่ะ

ด้วยเหตุนี้ถึงต้องเข้าใจการขายหุ้นของฝรั่งที่มีเป็นจำนวน 2 หมื่นล้านบาท ก็เป็นแท็กติกของการเล่นรอบธรรมดา ไม่ได้มีอะไรที่นอกเหนือความคาดหมายทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเตรียมตัวรับมือกับการแกว่งตัวของดัชนีที่จะรุนแรงขึ้นกว่าเดิม และขอให้จับตาการย่อตัวลงเที่ยวนี้จะไปถึง 1,350 จุดอีกไหม? และถ้าลงไปจริง ๆ จะเด้งกลับอย่างร้อนแรงเหมือน 3 ครั้งก่อนหรือเปล่า? เพราะหลายคนมองเป็นจุดเปลี่ยนของการเล่นหุ้นเที่ยวนี้นะคะ

ถึงกระนั้น “โมนิก้า” ยังอยากให้ทุกคนยึดปัจจัยพื้นฐานเป็นที่ตั้งก่อนเคาะขวาแบบสุดซอย เพราะหุ้นที่มีแบ็กอัพเรื่องตัวเลขกำไรจะวิ่งสวนตลาดผันผวน รวมทั้งทำให้คนที่ถือหุ้นเกิดความอุ่นใจมากขึ้นกว่าเดิม เดี๊ยนถึงพยายามมองโลกการลงทุนทั้ง “ด้านบวก” และ “ด้านลบ” เพื่อทำให้แฟนคลับสามารถบาลานซ์พอร์ตลงทุนได้กระชับขึ้นกว่าเดิม และยังเป็นการป้องกันไม่ให้ตกขบวนรถด่วนอีกด้วยนะจ๊ะ

เหมือนกับในรายของ BCP กลับมาเฉิดฉายบนบนกระดาน most active แบบสง่าผาเผยด้วยการบวกสวนตลาด  ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 44.75 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 4.68% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 729.25 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของกระแสข่าวดีมาพอดี (ประกันสังคมเก็บหุ้นเพิ่ม 0.03% ส่งผลสัดส่วนถือหุ้นขึ้นไปแตะ 15%) เลยทำให้นักเล่นกระโจนใส่มือเป็นระวิง พร้อมกับคาดหวังหุ้นจะไปต่อก็เท่านั้นเองค่ะ

อีกรายที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ “โมนิก้า” คงต้องเทน้ำหนักไปที่สาละวันเตี้ยลงอย่างหุ้น COM7 ซึ่งถูกเทขายแบบมาราธอน จนทะลุแนวรับแล้ว..ทะลุแนวรับอีก ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 18.10 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 3.72% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 486.77 ล้านบาท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า หุ้นจะไม่หยุดลงเพียงแค่นี้ จึงกลายเป็นช็อตที่ต้องถอยให้ไกล เพราะสตอรี่ขายไอโฟนไม่เวิร์กแล้วน่ะซี

ส่วนรายที่พยายามปรับโพซิชั่นให้กลับมาอยู่ในทิศทางฟื้นตัวอีกครั้งอย่าง BTS ถือเป็นช็อตที่ต้องเอาใจช่วยอย่างแรงกันเลยทีเดียว เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ 5.40 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.93% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 514.94 ล้านบาท ไม่ได้หมายความว่า หุ้นจะไปต่อแบบสวย ๆ เพราะบรรยากาศการลงทุนไม่เป็นใจเอาเสียเลย แถมยังต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า กำไรปีนี้จะมาตามนัดแบบนี้..ไม่หมูนะนาย!

ส่วนรายที่เกิดปัญหาขึ้นมาจริง ๆ อย่างเช่น MGI ถือเป็นช็อตที่นักเล่นต้องแบกรับความเสี่ยงกันเอาเอง เพราะแรงขายกลับมาหนาแน่นอีกครั้ง ขณะที่แรงซื้อก็หดหายไปดื้อ ๆ รวมทั้งบรรดาแมงเม่าก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว เลยเกิดคำถามตามหลังว่า ใครขายหุ้นออกมาวานนี้! ราคาหุ้นถึงทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 39 บาท ลบไป 4 บาท หรือลงไป 9.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 172.86 ล้านบาท..อิอิอิ

ตบท้ายกันที่หุ้น CHOW ดันราคาหุ้นกันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ด้วยวอลุ่มซื้อขายที่หนาแน่น และยังเป็นการขึ้นแรงแบบต่อเนื่อง ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 3.20 บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 11.11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 80.68 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องความคาดหวังเกี่ยวกับการลงทุนภาครัฐที่จะเร่งเบิกจ่าย ซึ่งอนุมานในเบื้องต้นได้ว่า ยอดขายเหล็กจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกระมัง! 

Back to top button