BTS ‘กวิน’ เก็บหุ้นเพิ่ม.!

เรียกว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกมาตั้งแต่ปลายปี 2566 ลากยาวมาถึงต้นปี 2567 ก็ว่าได้ สำหรับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ของ “เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์”..!??

ไม่ว่าจะเป็นกรณีรถไฟฟ้าสายสีชมพู หรือ “น้องนมเย็น” ช่วงแคราย-มีนบุรี ซึ่งตอนนั้นอยู่ระหว่างเปิดบริการทดลองนั่งฟรี จู่ ๆ เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อรางจ่ายกระแสไฟฟ้าร่วงหล่นเป็นทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร บริเวณหน้าตลาดกรมชลประทาน ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย 3 คัน เมื่อช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค. 2566

จากนั้นช่วงเย็นของวันที่ 2 ม.ค. 2567 เกิดเหตุรถไฟฟ้าสายสีเหลือง หรือ “น้องเก๊กฮวย” ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ล้อหลุดร่วงใส่รถแท็กซี่ซ้ำเติมอีก…

ต้องบอกว่าทั้งสองเหตุการณ์กระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการอย่างมาก และกระทบชิ่งมายังราคาหุ้น BTS ด้วย

เป็นเหตุให้นักลงทุนพากันหมางเมินหุ้น BTS ส่งผลให้ราคาทรุดลงต่อเนื่อง..!!

แม้บางช่วงจะมีข่าวดีจากกรณีกรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมจะจ่ายหนี้คืนก้อนแรก 23,488 ล้านบาท แต่หุ้น BTS ก็ยังฝ่าอาถารรพ์เลข 6 ไปไม่ได้สักที ป้วนเปี้ยนอยู่แถว 5 บาทเศษ มาเป็นแรมเดือนแล้ว

เอ๊ะ…ช่วงที่หุ้น BTS ทรงอย่างแบดอย่างนี้ เป็นจังหวะให้ “เจ้าสัวน้อยกวิน กาญจนพาสน์” เข้าเก็บหุ้น BTS ป๊ะเนี่ย..??

ล่าสุดเข้ามาเก็บหุ้น 3 วันซ้อน รวมจำนวน 11 ล้านหุ้น คิดเป็นเงินลงทุนรวม 59.22 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น…วันที่ 19 มี.ค. 2567 ซื้อหุ้นจำนวน 5 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 5.39 บาท คิดเป็นมูลค่า 26.95 ล้านบาท ส่วนวันที่ 20 มี.ค. 2567 ซื้อหุ้นเพิ่ม 2.5 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 5.35 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่า 13.37 ล้านบาท และวันที่ 21 มี.ค. ซื้อเพิ่มอีก 3.5 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 5.40 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่า 18.90 ล้านบาท โดยธุรกรรมทั้งหมดทำผ่าน บล.บัวหลวง

ส่งผลให้ “กวิน” ถือหุ้น BTS เพิ่มเป็น 616.01 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.67% จากเดิมถืออยู่ 605.01 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.59%

แม้ “กวิน” จะนั่งยันนอนยันว่า “การซื้อหุ้นดังกล่าว เป็นการทยอยซื้อสะสมตามปกติ ไม่ได้มีนัยสำคัญแต่อย่างใด” ก็ว่ากันไป

ส่วนจะเชื่อหรือไม่นั้น…ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล..!?

ว่าแต่การเก็บหุ้นของเจ้าสัวน้อยครั้งนี้ จะเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือเปล่าเนี่ย..??? อันนี้ก็น่าคิด

เพราะถ้าวัดสัญญาณชีพ BTS อยู่ในโหมดการเติบโตรอบใหม่ โดยมีหลายปัจจัยหนุนในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี รวมทั้งการได้รับเงินชำระหนี้งานระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) หรืองาน E&M โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย 2 (ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) วงเงิน 23,488 ล้านบาท จากกทม. ซึ่งจะหนุนให้กระแสเงินสดดีขึ้น

ไม่หมดแค่นี้ BTS ยังมีแนวโน้มที่จะชนะอีก 2 คดีที่ฟ้องร้องให้กทม. ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและและซ่อมบำรุง (O&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 (ช่วงสถานีสะพานตากสิน-บางหว้า กับอ่อนนุช-แบริ่ง) เป็นเงินประมาณ 11,755 ล้านบาท และส่วนต่อขยายที่ 2 มีวงเงิน 11,068 ล้านบาท เนื่องจากทั้งสองคดีศาลปกครองชั้นต้นได้ตัดสินให้ BTS ชนะไปแล้ว และปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด

เหล่านี้ล้วนเป็นสตอรี่เชิงบวกที่จะหนุนนำให้หุ้น BTS วิ่งแรงแซงทางโค้งได้…

แต่ถ้าหุ้นยังไม่หือไม่อือ และไม่สามารถฝ่าแนวต้าน 6 บาทไปได้…

…จะอยู่กันทำไม.? โกยกันเถอะโยม..!!??

…อิ อิ อิ…