พาราสาวะถี

ผ่านด่านอภิปรายของพวกลากตั้งไปแบบสบาย ๆ ทั้งการซักฟอกตามมาตรา 153 ของรัฐธรรมนูญ และการอภิปรายพร้อมลงมติในวาระ 2 และ 3 ของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 อย่างที่บอกไว้แต่ต้น ไม่มีอะไรน่าหนักใจ โดยเฉพาะปมของ ทักษิณ ชินวัตร ฟังจากที่ พันตำรวจเอก ทวี สองส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจง ทำให้เห็นสิ่งที่พวกผ่านการทำคลอดมาจากปลายกระบอกปืนกำลังอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจยังไงชอบกล

เพราะกระบวนการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ทักษิณเดินทางถึงสนามบินดอนเมือง การถูกนำตัวไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม กระทั่งได้รับการลดโทษ ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นในยุคของรัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจทั้งสิ้น ดังนั้น การอภิปรายทั้งที่รู้ว่าทุกอย่างมีที่มาที่ไปอย่างไร จึงไม่ใช่การจะดิสเครดิตรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน หากแต่เป็นการประจานให้เห็นถึงความล้มเหลวในการรัฐประหารที่มีเป้าหมายเพื่อโค่นล้มอดีตนายกฯ และเครือข่ายในนามระบอบอุปโลกน์ระบอบทักษิณนั่นเอง

ผ่านมาจนถึงวันนี้อย่างที่เห็น นอกจากฆ่าไม่ตายทำลายไม่ได้ ทักษิณยังได้กลับมามีที่ยืน ส่อแววให้เห็นถึงพลังอำนาจ แม้จะไม่ได้เปิดหน้าท้าสู้เหมือนอดีตที่ผ่านมา แต่ก็ทำให้เห็นว่ารัฐบาลเศรษฐาที่มีเพื่อไทยเป็นแกนนำนั้น กำลังจะกลับมาสร้างคะแนนนิยมอีกครั้ง ภายใต้คำแนะนำของอดีตนายกฯ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ท่วงทำนองที่ปรากฏเด่นชัดยิ่งกว่าทำให้ฝ่ายตรงข้ามและคู่แข่งทางการเมืองหวั่นไหว ถึงขนาดที่โหมประโคมกระแสว่าทักษิณครอบงำเพื่อไทย หวังให้เกิดการยุบพรรค 

ทั้งที่ความเป็นจริง ไม่ว่าจะเพื่อไทย ก้าวไกล หรือพรรคการเมืองใดก็ตามแต่ อดีตผู้นำพรรคหรือผู้นำทางจิตวิญญาณที่ได้รับความเคารพ ศรัทธาจากสมาชิกพรรค ย่อมสามารถที่จะเสนอแนะ ให้ความเห็น แสดงแนวคิด บอกทิศทางทางการเมืองและการแก้ไขปัญหาของประเทศได้ ยิ่งกับคนที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว ย่อมถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการทำงานของรัฐบาล ข้อกล่าวหาบ้องตื้น และการหาเหตุเพื่อนำมาขยายผล สร้างเงื่อนไขนำไปสู่การล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้ง มันไม่ง่ายเหมือนในอดีตอีกแล้ว

ยิ่งนานวัน กลับทำให้เห็นว่าเศรษฐามีความมั่นใจในการใช้อำนาจของความเป็นนายกรัฐมนตรีมากขึ้น การย้ายสองบิ๊กตำรวจถือเป็นตัวอย่างและแค่น้ำจิ้ม หากใครยังสร้างปัญหาอนาคตก็คงไม่ต่างกัน บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่า การกระชับอำนาจของรัฐบาลปัจจุบันนั้นรุดหน้าไปอย่างมาก การประกาศเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จึงเป็นจุดชี้วัดเสถียรภาพของรัฐบาล และแรงหนุนที่ทำให้เชื่อมั่นว่านโยบายที่เป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชน ได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายอย่างเต็มที่

การดึงจังหวะให้ช้ากว่าไทม์ไลน์ที่เคยประกาศไว้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เป็นกระบวนท่าช้าแต่ชัวร์ เมื่อทุกอย่างรอบคอบ ฟังความรอบด้าน ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะมีใคร ฝ่ายไหน มาทะลุกลางปล้องฟันธงอีกว่าโครงการเติมเงินหมื่นบาทเข้ากระเป๋าประชาชนจะสร้างปัญหามากกว่าก่อประโยชน์ เช่นเดียวกับ เรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำครั้งที่ 2 ที่ขยับเป็น 400 บาทต่อวันในพื้นที่ 10 จังหวัดนำร่อง สะท้อนให้เห็นถึงอำนาจของนายกฯ ที่เคยแสดงความไม่พอใจต่อมติของคณะกรรมการไตรภาคีที่ขึ้นค่าจ้างก่อนนั้นต่ำกว่าเป้าว่า ยังมีพลังให้ต้องเกรงขามกันอยู่

ความมั่นใจในตัวเอง และกล้าแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา ในทางการเมืองยุคก่อนหน้าอาจมองว่าเหมือนดาบสองคม จะกลายเป็นจุดอ่อนย้อนกลับมาทำลายผู้พูด แต่สิ่งที่เศรษฐาได้แสดงออกตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่งจนถึงวันนี้ ยังคงยึดมั่นแนวทางเดิม เห็นได้จากล่าสุดที่ประกาศสนับสนุนเรื่องกาสิโนถูกกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาต่างก็รู้ดีว่า ผู้นำรัฐบาลทุกยุคจะตีกรรเชียงไม่ฟันธงแบบนี้ เพราะรู้ดีว่าสังคมปากว่าตาขยิบจะหยิบไปเป็นประเด็นโจมตี และทำให้คนพูดเสียรังวัดโดยใช่เหตุ

สำหรับเศรษฐา เหตุผลที่อธิบายต่อการหนุนเรื่องนี้คือ ต้องการจะยกเศรษฐกิจสีเทาขึ้นมาอยู่บนพื้นให้หมด จะได้ควบคุมกำกับดูแลเรื่องความปลอดภัย ความเหมาะสม และเก็บภาษีได้อย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องความเห็นต่างจุดยืนที่ชัดเจนอีกประการของเศรษฐาก็คือ ต้องใช้กลไกของระบบรัฐสภาเข้าไปดูแล ให้ตัวแทนของประชาชนไปถกเถียงกันผ่านระบบที่กฎหมายรองรับ เหมือนกับที่มีการพูดถึงความเห็นต่างที่กลายเป็นความขัดแย้งที่เจ้าตัวบอกว่าต้องใช้เวทีสาธารณะที่สังคมใหญ่ยอมรับเพื่อหาทางออก

อย่างที่รู้กันพอพูดถึงบ่อนถูกกฎหมายทีไร สังคมดัดจริตก็จะต่อต้านทันควัน ซึ่งเศรษฐาก็กล้าที่จะบอกว่า ถึงเวลาที่สังคมจะต้องมาดูกัน “เรื่องของสังคมอีแอบ” เรื่องนี้ก็มีอยู่แล้ว เอามากำกับดูแลให้เหมาะสมเพื่อฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครองจะได้ดูแลให้ถูกต้อง มันมีอยู่แล้วทุกวันนี้ต้องยอมรับและเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งต้องบริหารจัดการไปในระหว่างทาง ตนไม่แน่ใจว่ากฎหมายจะผ่านเมื่อไหร่ และจะมาเปิดได้เมื่อไหร่ ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร แต่ระหว่างนี้ยังไงก็ต้องจัดการกับสิ่งที่ทำผิดกฎหมายกันไป

สภาพปัญหาก็คงเห็นกันแล้วจากปมของสองบิ๊กตำรวจที่เศรษฐาสั่งย้าย ไม่ใช่แค่ต้องสังคายนาวงการสีกากีเท่านั้น ปัญหาการพนันไม่ว่าจะเว็บพนันออนไลน์ บ่อนพนันที่ลักลอบเปิดแต่เล่นกันแบบอึกทึกครึกโครม นักพนันไปสุมหัววงเงินหมุนเวียนกันหลักร้อยล้านบาทขึ้นไปมีหลายแห่ง กรณีที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นำฝ่ายปกครองไปบุกจับในพื้นที่อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี นี่ก็เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจน ทั้งความมีอยู่จริงของปัญหาบ่อนพนัน และการรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐ

สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องที่เป็นสิ่งผิดกฎหมายทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐมักจะเข้าไปมีส่วนหนุนหลังขบวนการทำผิดเสียเอง เหมือนกรณีที่ พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. ประกาศตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปมีส่วนพัวพัน หรือช่วยเหลือขบวนการค้ายาเสพติดให้รอดพ้นจากการถูกจับกุม ต้องถูกลงโทษหนัก ไม่ใช่แค่การกวาดบ้านให้สะอาด แต่ต้องไม่เปิดช่องให้พวกกังฉินใช้ช่องว่างหากินกันอีกต่อไป