พาราสาวะถี

ศึกซักฟอกที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ 3 เมษายน จับตาวันนี้ที่ทางวิปรัฐบาล โดย วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิป ยื่นเงื่อนไขให้ฝ่ายค้านมาเจรจาเรื่องเวลาอภิปรายจากเดิมที่ขอไว้ 22 ชั่วโมง แล้วให้ฝ่ายรัฐบาลชี้แจง 6 ชั่วโมง เป็นฝ่ายค้านซักฟอก 18 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 10 ชั่วโมง ด้วยการอ้างเหตุผลว่าเมื่อมีคำถามต่อตัวนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจำนวนมาก จำเป็นที่จะต้องให้เวลาฝ่ายรัฐบาลซึ่งรวมถึง สส.ที่จะมีการประท้วงฝ่ายค้านด้วย จึงควรมีเวลามากพอในการชี้แจง

ทั้งนี้ การหักคอฝ่ายค้านเช่นนี้ เป็นผลพวงสืบเนื่องมาจากที่ สส.พรรคก้าวไกล ได้เสนอขอให้มีการนับองค์ประชุมในวันที่มีการลงมติรับหรือไม่รับรายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่องการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร พร้อมทั้งรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญที่ศึกษาเรื่องนี้ ที่ฝ่ายรัฐบาลเห็นว่าพรรคฝ่ายค้านเล่นเกมการเมืองมากเกินไป ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมีการเจรจาตกลงกันไว้หลายเรื่อง รวมถึงเงื่อนเวลาในการซักฟอกหนนี้ด้วย

คงไม่แปลกหากจะมีการตีโพยตีพายจากฝ่ายค้าน และพาดพิงไปในลักษณะว่าซีกรัฐบาลกำลังมัดมือชก พยายามปิดปาก ปิดกั้นการอภิปรายของฝ่ายตรวจสอบ ทั้งที่ ในความเป็นจริงฝ่ายค้านก็ยอมรับเองว่าการอภิปรายหนนี้เหมือนเป็นการส่งสัญญาณเตือน เพื่อให้รัฐบาลแก้ไขในสิ่งที่มองเห็นว่าเป็นปัญหา ชี้แนะ และให้ลงมือทำในเรื่องที่ยังไม่ได้ดำเนินการ ไม่ใช่การอภิปรายเพื่อนำไปสู่การยกมือไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี อันหมายถึงมีปมของการทุจริตคอร์รัปชันมาเกี่ยวข้อง

นาทีนี้มีแค่ประเด็นเดียวที่จะกลายจะเป็นจุดปะทะกันระหว่าง สส.เพื่อไทย กับฝ่ายค้านไม่ว่าจะพรรคใดก็ตามโดยเฉพาะก้าวไกลกรณีของ ทักษิณ ชินวัตร หากรัฐบาลยึดหลักข้อเท็จจริง อธิบายตามหลักเกณฑ์ ระเบียบ และข้อกฎหมายก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนพวกที่ทำหน้าที่องครักษ์ก็ต้องฟังให้จบก่อนที่จะมีการประท้วง มิเช่นนั้น จะกลายเป็นว่าอดีตนายกฯ แตะต้องไม่ได้ หากเป็นเรื่องเท็จแล้วนำไปอภิปราย สส.รายนั้นไม่ได้มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ฝ่ายถูกพาดพิงย่อมมีสิทธิ์ฟ้องร้องตามกฎหมาย

บรรดากุนซือทางการเมืองของพรรคแกนนำรัฐบาลต้องกำชับ สส.ทั้งหลายให้นิ่ง และหนักแน่นเป็นพิเศษ สถานการณ์ทางการเมืองจนถึงเวลานี้ไม่มีสัญญาณใดที่จะทำให้ เศรษฐา ทวีสิน และคณะมีอันต้องสะดุด จุดหมายสำคัญคือการเร่งสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ หากจบการซักฟอกของฝ่ายค้านแล้ว ก็เหลือเวลาอีกแค่สัปดาห์เดียว ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ ที่ชัดเจนแล้วว่ายังไงก็ต้องเดินหน้าอย่างแน่นอน

ดังนั้น จึงไม่ควรมาเสียเวลา หรือทำให้เรื่องทางการเมืองที่รู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องโดนเล่นงาน มาเป็นตัวถ่วง หรือทำให้งานใหญ่ต้องชะงัก การลากยาวมาถึงขนาดนี้ เพื่อให้ทุกอย่างรัดกุม รอบคอบที่สุด จนพวกที่ตั้งตัวเป็นผู้คัดค้านต้องยอมจำนนต่อความจำเป็นที่รัฐบาลต้องเดินหน้าโครงการสำคัญ มันจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เป็นจังหวะ และโอกาสสำหรับเศรษฐาที่จะได้โชว์วิสัยทัศน์ แสดงความสามารถในการบริหาร และการจัดการกับเรื่องที่ท้าทายว่าด้วยปากท้อง และคุณภาพชีวิตของประชาชน

ประเด็นที่มีการมอบหมายให้ไปดำเนินการก่อนจะเคาะคำตอบ และชี้แจงต่อประชาชนในวันที่ 10 เมษายนนี้ หลายเรื่องมีความก้าวหน้าและได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อยไม่ว่าจะเป็นหลักเกณฑ์ร้านค้าและสินค้าที่จะเข้าร่วมโรงการ การพัฒนาระบบและการจัดทำในลักษณะเปิด หรือ Open loop เพื่อให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจกระเป๋าเงินเข้าร่วมโครงการ รวมไปถึงการวางกรอบการตรวจสอบ วินิจฉัยร้องทุกข์กล่าวโทษ และการเรียกเงินคืนกรณีที่พบการทุจริตของผู้ร่วมโครงการ

เหลือเพียงแค่ประเด็นสำคัญที่เป็นการบ้านของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ นั่นก็คือ เม็ดเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการ 5 แสนล้านบาท ค่อนข้างชัดแล้วว่าไม่ใช่การกู้เงินทั้งหมด ส่วนจะเป็นการใช้เงินจากงบประมาณปี 2568 บางส่วนหรือไม่ ต้องให้หน่วยงานที่ไปทำการบ้านมาหาข้อสรุปอีกครั้ง แนวโน้มน่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะถือว่าเป็นวิธีการที่น่าจะปลอดภัยมากที่สุด และการไม่ใช้เงินกู้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็เพื่อเลี่ยงปัญหาที่จะถูกฝ่ายตรงข้ามยื่นร้องว่า การออก พ.ร.บ.กู้เงินนั้นมีความจำเป็นเร่งด่วนตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่

อีกเหตุผลสำคัญที่รัฐบาลเลือกจะแถลงความชัดเจนต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในวันดังกล่าว ไม่ใช่แค่เป็นข่าวดีสำหรับประชาชนก่อนไปพักผ่อนยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ในวันเดียวกันเป็นวันปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจําปีครั้งที่สองแล้ว ซึ่งหมายความว่า ความเคลื่อนไหวในซีกของ สส.ก็จะลดความเข้มข้นลง น้ำหนักทางการเมืองทั้งหมดจะถูกเทไปยังฝ่ายบริหาร เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาโชว์ศักยภาพของรัฐบาลเศรษฐาเลยก็ว่าได้

ดังนั้น หลังประกาศความชัดเจน นอกเหนือจากสื่อจะต้องเกาะติดตามความคืบหน้ากับเศรษฐาแล้ว กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะถูกติดตามอย่างใกล้ชิดไปโดยปริยาย หากวางแผนการดำเนินการกันอย่างรอบคอบ รัดกุมแล้ว ย่อมเป็นจังหวะที่จะสื่อสารให้สังคมเข้าใจ คล้อยตาม และสนับสนุนให้รัฐบาลเร่งดำเนินการโครงการดังกล่าว เงื่อนเวลาที่ประกาศไว้ว่าไม่เกินสิ้นปีนี้ประชาชนจะได้รับเงินหมื่นบาทเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัลจึงน่าจะเป็นจริง 

ส่วนเรื่องกาสิโนถูกกฎหมาย หลังจากเศรษฐาได้โยนหินถามทางไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ดูปฏิกิริยาทางสังคมแล้ว เห็นได้ว่ากระแสต่อต้านไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่บรรดาพวกศีลธรรมสูงส่งทั้งหลายจะต้องออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านกันอึกทึกครึกโครม นั่นคงเป็นเพราะกรอบทางความคิดของผู้คนเปลี่ยนไป ประกอบกับเรื่องราวฉาวโฉ่ในแวดวงสีกากี ก็เป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่าบ่อนพนันผิดกฎหมายนั้นเป็นแหล่งรายได้มหาศาลของพวกใช้อำนาจทำมาหากิน ดังนั้น การทำให้ถูกต้อง พร้อมมีมาตรการควบคุมที่เข้มข้นรัดกุม ย่อมเป็นช่องทางในการนำเงินเหล่านี้มาสร้างประโยชน์ต่อประเทศมหาศาลเช่นกัน