7 หุ้นเด่นเดือน เม.ย.

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ระหว่าง 1,370-1,400 จุด มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง โดยเฉพาะในช่วงวันศุกร์และวันจันทร์ที่ผ่านมา


ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ระหว่าง 1,370-1,400 จุด

มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง

โดยเฉพาะในช่วงวันศุกร์และวันจันทร์ที่ผ่านมา อาจเพราะตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปบางแห่งหยุดทำการ

หลังจากกลับมาเปิดแล้ว เข้าใจว่า วันนี้วอลุ่มน่าจะกลับมาที่ระดับ 3.5 หมื่นล้านบาท หรืออาจะเกิน 4 หมื่นล้านบาทได้

ในด้านของโบรกฯ ส่วนใหญ่ให้ดักเก็บหุ้นแบบ “ซื้อถือยาว” โดยเฉพาะ บวกหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาลงมาลึก และต่ำกว่าราคาพื้นฐานมากเกินไป

ล่าสุดหลักทรัพย์เอเซีย พลัส มองภาพเศรษฐกิจในช่วงเดือนเม.ย. จะเห็นแรงกระตุ้น

ทว่าตลาดหุ้นยังไม่ชัดเจน เพราะมีโอกาสเห็นการลดดอกเบี้ยช่วงไตรมาส 2/2567 บวกกับการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ช่วยพยุงเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปี

ส่วนฟันด์โฟลว์อาจสลับมาไหลเข้าบ้าง

กลยุทธ์เดือนนี้ เขามีการแนะนำหุ้นคาดหวังนโยบายการเงิน เช่น  MTC การคลัง CK, SCCC, BJC, KBANK กำไรไตรมาส 2/2567 เด่น PTTGC และ BGRIM

เอเซีย พลัส มองอีกว่าช่วงไตรมาส 1/2567 ตลาดหุ้นไทยผ่านมรสุมมาพอสมควร จากเศรษฐกิจไทยที่ชะลอต่ำกว่าคาด

จีดีพีไตรมาส 4/2566 เติบโตเพียง 1.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

เป็นเหตุกดดันกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) งวดไตรมาส 4/2566 เหลือเพียง 1.76 แสนล้านบาท ต่ำกว่าคาดราว 30%

พร้อมกับกำไรปี 2567 ถูกทยอยปรับประมาณการลงราว 12%

รวมถึงดัชนี MSCI และ FTSE มีการปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยลงหลายบริษัท กดดันให้ดัชนียังอยู่ต่ำกว่า 1,400 จุด

ส่วนเริ่มต้นช่วงไตรมาส 2/2567 หลายปัจจัยประสานพร้อมกันช่วยพยุงเศรษฐกิจ ดังนี้

1.การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 มูลค่า 3.48 ล้านล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 9.3% ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยจากหลายภาคส่วน ทั้งการใช้จ่ายภาครัฐ (G) มีช่วงเวลาเบิกจ่ายเพียง 6 เดือนเท่านั้น

และน่าจะเห็นเม็ดเงินไหลเข้าระบบที่รวดเร็วกว่างวดอื่น ๆ ภาคการลงทุน (I) หลังจากรัฐบาลเดินสายกว่า 60 ประเทศ หวังมีเม็ดเงินไหลเข้า 5.58 แสนล้านบาท ภาคการบริโภค (C) มีการนำร่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท 10 จังหวัด ถือเป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน

2.คาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินเร็วขึ้น สะท้อนได้จาก Bond Yield ไทยระยะ 1 ปี ถึง 9 ปี ลงมาต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% ทั้งสิ้น อีกทั้งมติการประชุมกนง. เสียงแตกการประชุมครั้งถัดไปมีโอกาสถึง 75% ในการลดดอกเบี้ย

3.คาดหวังความเชื่อมั่นของนักลงทุน และปริมาณการซื้อขายค่อยกลับมา หลังทางการมีมาตรการที่ชัดเจนในการกำกับดูแลตรวจสอบชอร์ตเซล และโปรแกรมเทรด รวมถึงอาจเพิ่มชั่วโมงซื้อขายจาก 4 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน เป็น 5 ชั่วโมงต่อวัน คาดเริ่มมีผลบังคับใช้ช่วงไตรมาส 2/2567 หนุนเทิร์นโอเวอร์ของตลาดหุ้นไทยมีโอกาสกลับมาสูงกว่า 70% ต่อปี

ขณะที่แรงกดดันจากการปรับลดประมาณการเบาลง รวมถึง EPS Growth ปี 2567 ยังดูโดดเด่นเติบโตถึง 17% จากฐานที่ต่ำ และอัพไซด์จากเป้าหมายดัชนี 1,570–1,580 จุด พร้อมกับนโยบาย การเงินและการคลังที่ประสานแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าจะช่วย ให้ฟันด์โฟลว์ไหลเข้าหุ้นไทยมากขึ้นในช่วงไตรมาส 2/2567 ได้

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อและถือหุ้น 3 ธีม คือ

หุ้นรับงบประมาณปี 2567 ที่เร่งเบิกจ่ายในช่วง 6 เดือน CK, SCCC, BJC, KBANK

หุ้นรับวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง MTC

และหุ้นไฮซีซั่นกำไรปี 2567 เติบโตเด่นกว่าตลาด PTTGC, BGRIM

Back to top button