MGI วงแตก
ไม่น่าเชื่อว่า สถานการณ์ของมิสแกรนด์ MGI จะจบลงอย่างรวดเร็ว หลังจากผู้บริหารปะทะคารมกับผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นมาพักหนึ่ง
ไม่น่าเชื่อว่า สถานการณ์ของมิสแกรนด์ MGI จะจบลงอย่างรวดเร็ว หลังจากผู้บริหารปะทะคารมกับผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นมาพักหนึ่ง ต่อจากนั้นก็ทำให้ผู้คนร้องยี้กับหุ้นตัวนี้เป็นจำนวนมาก เพราะสิ่งที่ก๊วนนี้ได้กระทำไว้กับตลาดหุ้น ล้วนเป็นเรื่องที่ผู้คนในสังคมรับไม่ได้ จึงไม่มีใครอยากร่วมสังฆกรรมกับหุ้นตัวอีกต่อไป และปล่อยทิ้งไว้แค่พวกนักเล่นจอมปลอมที่พยายามปั้นเสริมเติมแต่งว่า หุ้นดี? พะย่ะค่ะ
ตรงนี้แหละที่ทำให้ “เสี่ย..” ซึ่งพยายามยกหางตัวเองเก่งกว่าคนอื่น และฉลาดกว่าคนอื่น ออกโรงแก้ต่างให้กับหุ้นตัวนี้ทุกช็อต ทั้งที่สิ่งที่เกิดขึ้นขัดกับหลักการลงทุนทุกช็อต แต่เสี่ยจอมโม้ก็ยังแถไปเรื่อย ๆ จนทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มตาสว่าง และหันมาส่งข้อมูลกลุ่มลับออกมาให้โลกโซเชียลได้เห็นประปราย ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า คนพวกนี้ก็คิดแค่ผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้นเจ้าค่ะ
คิดดูแล้วกัน!..ก่อนหน้านี้หุ้นเทรดบน PE 110 เท่า และยังมีค่า PBV 30 เท่า รวมทั้งสภาพคล่องของหุ้นที่เทรดก็เหือดแห้งลงไปทุกที มันเป็นหุ้นที่ตรงกับคอนเซ็ปต์นักลงทุนสไตล์คุณค่าจริงเหรอ? และด้วยความกร่างคับซอยของกลุ่มคนเหล่านี้ ส่งผลให้เพื่อนพ้องน้องพี่ในแวดวงตลาดหุ้นไม่อยากสุงสิงอะไรด้วยทั้งนั้น และรอดูจุดจบจะมีพวกตัวแสบออกมาแก้ตัวกันอย่างไรนะจ๊ะ
สิ่งที่สัมผัสได้ก่อนจะถึงจุดจบของหุ้น MGI ก็คือ การเข้าไปพัวพันกับหุ้นที่มีลักษณะของมันนีเกม ซึ่งถนัดเรื่องเข้าซื้อหุ้นของอีกฝั่ง ต่อจากนั้นก็จะพูดอย่างสวยหรูว่า นี่เป็นการซินเนอยี! แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ทั้งนั้น และมักลงเอยด้วยราคาหุ้นรูดมหาราช และตัวธุรกิจก็ขาดทุนบานเบอะ ซึ่งในตลาดหุ้นเคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้ให้เห็นมานักต่อนัก แล้วพวกคุณ ๆ ท่าน ๆ จะทำไปเพื่ออะไร..นักลงทุนเขาไม่ได้กินหญ้าแทนข้าวนะตัวเอง
ฉะนั้นการที่ MGI ซึ่งมีปัญหาเรื่องการปฏิบัติตามกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปจับมือกับหุ้น SABUY ซึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นแบบปรปักษ์ในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้นักลงทุนร้องไชโยโห่ฮิ้วกันอย่างเกรียวกราว เพราะเป็นการโคจรมาพบกันระหว่างคนที่เขี้ยวลากดินเหมือนกัน จึงไม่รู้ว่า ใครจะเล่นใครก่อน! เพราะในมุมของธุรกิจไม่น่าจะไปด้วยกันน่ะซี
วันนี้เลยต้องถามพวกตัวดีที่เคยเสนอหน้าเป็นองค์รักษ์พิทักษ์ MGI ทั้งหลายว่า เห็นดีลนี้แล้วรู้สึกอย่างไร? และการที่หุ้นตอบรับข่าวดังกล่าวด้วยการโดนขายทิ้งออกมาเป็นระลอก จนวานนี้ลงมายืนปิดที่ระดับ 28.50 บาท ลบไป 5.50 บาท หรือลงไป 16.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 371 ล้านบาท ทั้งที่วันที่ 27 ก.พ. ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปยืนปิดที่ระดับ 65.25 บาท ท่ามกลาง PE 60 เท่า ยังเป็นหุ้นที่น่าเล่นอีกไหมคะ
ที่น่าสนใจคือ ทำไมนักเล่นหลายรายไม่รู้สึกเห็นใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับ MGI เลยสักคน แถมยังอยากให้ฝั่งนางงามออกมาเล่าแผนธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย (โดยเฉพาะเสี่ยที่ปากแจ๋ว) “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องดีที่จะทำให้ทุกคนเห็นความ “เละเทะ..อุ๊ย..ยอดเยี่ยม” อันไหนมีมากกว่า! ขณะเดียวกันก็อยากเห็นกึ๋นหัวเรือใหญ่คนใหม่ของ SABUY จะช่วยพลิกฟื้นธุรกิจขึ้นมาได้อย่างไรนะจะบอกให้
ส่วนหุ้นอีกตัวที่ขาเผือกเพ่งเล็งมากขึ้นเรื่อย ๆ คงต้องมองไปที่หุ้นเครื่องสำอาง KAMART หลังมีกลุ่มก้อนนักเล่นตัวแสบอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีประเด็นลับ ๆ ล่อ ๆ ที่ทำให้นักเล่นแคลงใจเมื่อไม่นานมานี้ปะปนมาด้วย “โมนิก้า” เลยไม่แน่ใจว่า การลงมายืนปิดที่ระดับ 14 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 5.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 223 ล้านบาท มันเกิดจากพื้นฐานที่แย่ลง หรือเกิดจากวงแตกกันแน่..อิอิอิ
ตบท้ายกันที่สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่ยืนปิดในระดับ 1,379.46 จุด ลบไป 0.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.82 หมื่นล้านบาท อาจดูเหมือนเป็นภาพที่ดีสำหรับการลงทุน แต่ถ้าดูให้ลึก ๆ จะเห็นว่า นี่เป็นแค่การประคองตัวให้รอดไปอีกวันเท่านั้น “โมนิก้า” เลยขอเดาว่า บรรยากาศลงทุนวันนี้คงไม่ต่างจากวันก่อน เพราะยังไม่มีอะไรจับต้องได้สักอย่าง แล้วตลาดหุ้นไทยจะไปได้อย่างไรจ้า!