ขายก่อนหยุดยาว
สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามที่การเมืองระหว่างประเทศมีความขัดแย้ง และสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกยังอยู่ในช่วงชะลอตัว
สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามที่การเมืองระหว่างประเทศมีความขัดแย้ง และสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกยังอยู่ในช่วงชะลอตัว มันกลายเป็นประเด็นที่ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะ “ขายหุ้น” มากกว่าจะ “กอดหุ้น” ไว้ในพอร์ต ซึ่งทำให้บรรยากาศการลงทุนขมุกขมัวมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะทุกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยตั้งท่าขึ้นกับเขาบ้าง มักมีข่าวร้ายปรากฏขึ้นมาทุกทีไงล่ะจ๊ะ
ประกอบช่วงนี้มีวันหยุดยาว 2 ระลอก จึงเหมือนเป็นแรงสั่นสะเทือนที่ทำให้นักลงทุนต้องเร่งขายหุ้นเพื่อปิดความเสี่ยง “โมนิก้า” ถึงมองว่า การที่ดัชนียืนปิดในระดับ 1,373.89 จุด ลบไป 1.80 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.06 หมื่นล้านบาท มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลทุกอย่าง และไม่มีความจำเป็นต้องทำตัวขวางโลก เพราะฝรั่งยังเดินหน้าขายหุ้นไม่เลิก แถมกองทุนยังไม่มีเม็ดเงินก้อนใหม่เข้ามาเติม..ดัชนีจะไปได้อย่างไรล่ะคะ
ขนาดเจ้าพ่อตามเก็บหนี้อย่าง JMT ยังถูกรินขายออกมาเป็นระลอก ทั้งที่ยังรักษาผลงานได้ค่อนข้างดี แต่กลับไม่มีใครสนใจประเด็นนี้เลย และเอาแต่ขายหุ้นออกมาตลอดเวลา จนวานนี้ลงมายืนปิดที่ระดับ 21.70 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 1.81% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 412 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่ต้องอาศัยความอดทนมากเป็นพิเศษ และเหมาะสำหรับคนที่ชอบทยอยเก็บของดีราคาย่อมเยานะจะบอกให้
เช่นเดียวกับในรายของ EA ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ทำนิวโลว์ครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่การขยายงานในส่วนต่าง ๆ ก็เป็นไปตามแผน แต่ยังมีคนขายหุ้นออกมาไม่เลิกแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ต้องทำใจมากเป็นพิเศษ เพราะภาพรวมของตลาดไม่เป็นใจให้ถือหุ้นยาว ๆ และการที่หุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 32.25 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 3.01% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 393 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 16 เท่า มันน่าสนใจไหม..ลองไปคิดกันดูนะจ๊ะ
อีกรายที่ราคาหุ้นตกอยู่ในสถานการณ์ต่ำเตี้ยเรี่ยดินมานานเหมือนกัน “โมนิก้า” คงมองไปยังเจ้าพ่อถ่านหิน BANPU เพื่อชี้ให้เห็นราคาถ่านหินที่ลดลง และยืนในระดับต่ำเป็นเวลานาน มันส่งผลกระทบโดยตรงกับกำไรของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้ราคาหุ้นออกอาการรวนตลอดเวลาแบบนี้ เดี๊ยนเลยมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 5.55 บาท ลบไป 0.05บาท หรือลงไป 0.89% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 329 ล้านบาท ไม่น่าใช่จุดที่จะเข้าไปรับของเจ้าค่ะ
คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้นขายไก่ขายหมู CPF ก็ทำท่าจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลายรอบ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นไก่หงอยทุกทีแบบนี้ “โมนิก้า” เลยอยากให้แฟนคลับประเมินรอบขึ้นลงของหุ้นที่อยู่ในระดับ 17.70-19.10 บาทในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาบอกอะไรบ้าง? และการยืนปิดของหุ้นที่ระดับ 17.80 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 176 ล้านบาท น่าสนใจไหมเอ่ย?
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น ICHI เพื่อย้ำหัวหมุดกับนักเล่นว่า การที่ “เสี่ยตัน” ประกาศนำบริษัทโตต่อเนื่องอีกปี พร้อมกับเผยกลยุทธ์การโตแบบหมดเปลือก ควรทำให้ราคาหุ้นไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ใช่ไหม? และถ้าคิดว่า ใช่แน่ ๆ! ก็คงคิดกันได้ว่า การยืนปิดที่ระดับ 16.30 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.21% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 91 ล้านบาท เหมาะต่อการทยอยเก็บขนาดไหน?..อิอิอิ
ส่วนหุ้นร้อนที่ตกเป็นขี้ปากขาเม้าท์อย่าง SABUY ก็มีประเด็นที่ทำให้สังคมตั้งคำถามได้ทุกวันเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “เสี่ยชู” หายไปไหน? และดีลนางงามจะพากันลงเหวไหม? หรือแม้กระทั่งหุ้นที่โดนฟอร์ซเซลเป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่คนไหน? ล้วนเป็นเรื่องที่ทุกคนอยากได้คำตอบแทบทั้งสิ้น เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นลงมาปิดที่ 2.26 บาท ลบไป 0.98บาท หรือลงไป 30.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 123 ล้านบาท เพราะมันมองไม่เห็นอนาคตจริง ๆ น่ะซี
เรื่องนี้เกี่ยวพันไปถึงหุ้น MGI ด้วยเช่นกัน เพราะทันทีที่ตัดสินใจร่วมหอลงโรงกับรายข้างต้น สถานการณ์ของราคาหุ้นก็แย่ลงเรื่อย ๆ จนวานนี้ลงมายืนปิดที่ระดับ 21.90 บาท ลบไป 3.10 บาท หรือลงไป 12.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 694 ล้านบาท โดยที่เสี่ยตัวดีที่เคยทำปากแจ๋วใส่คนอื่น กลับมุดหัวไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้? จึงมีการประกาศตามหาคนหายกันจ้าละหวั่น! และถ้าเสี่ยดังกล่าวยังอยู่ดีมีสุข ก็ช่วยคอมเมนต์ดีลตู้นางงามหน่อย..ถ้าคอมเมนต์ไม่ได้ ก็กรี๊ดออกมานะจ๊ะ