ตำนาน JAS : ซื้อหุ้นไปลดทุน

มีอะไรให้ “เซอร์ไพรส์” เสมอ สำหรับหุ้น JAS จากบริษัทโทรคมนาคมที่รับสัมปทานติดตั้งและให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานในภูมิภาค แต่ภายหลังก็โดนดิสรัปต์จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีพัฒนาการล้ำหน้าทั้งทางเทคโนโลยีและราคา


มีอะไรให้ “เซอร์ไพรส์” เสมอ สำหรับหุ้นบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ JAS

จากบริษัทโทรคมนาคมที่รับสัมปทานติดตั้งและให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานในภูมิภาค แต่ภายหลังก็โดนดิสรัปต์จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีพัฒนาการล้ำหน้าทั้งทางเทคโนโลยีและราคา

จึงหันไปสู้ในธุรกิจบรอดแบนด์ที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และได้สร้างเรื่องราวในตลาดหุ้นให้จดจำมากมาย อันล้วนแล้วแต่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของตลาดแทบทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงินหรือ Treasury Stock แต่นำไปลดทุนแทนการขายคืนในตลาด

การทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หรือตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นตัวเองในราคาที่สูงกว่าตลาดมากถึง 6.50 บาท ในขณะที่ราคา JAS ในกระดานวิ่งอยู่ในระดับ 4-5 บาทเท่านั้น

การสร้าง JASIF ให้เป็นกองทุนโทรคมนาคมที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่สูงมากในอัตราระดับ 9% ขึ้นไป และเมื่อมีการขายทรัพย์สินส่วนขยายเข้ากองทุนฯ ก็มีปันผลพิเศษแก่ผู้ถือหุ้น JAS ถึง 1.50 บาท

มาครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อมีการขายหุ้นบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (3BB) บริษัทลูก 100% ของ JAS และขายหน่วยลงทุน 19% ใน JASIF ให้แก่กลุ่มบริษัท AIS ในราคากว่า 2.6 หมื่นล้านบาทเมื่อ พ.ย.ปีที่แล้ว

ผู้คนต่างก็คาดหวังว่า JAS จะมีรายการปันผลพิเศษ (จุใจ) เหมือนเช่นเคยที่ผ่านมา

แต่จนถึงบัดนี้ก็ “ยัง” มีแต่ปันผลพิเศษ 0.30 บาท แถมประกาศงดจ่ายปันผลประจำปี เล่นเอาผู้ถือหุ้น JAS แตกตื่น เพราะเพิ่งจะรับข่าวดีหยก ๆ จากดีลขาย 3บีบี และ JASIF แต่จ่ายปันผลจิ๊บจ๊อย ไม่สมความคาดหวัง

กระนั้นก็ตาม ผู้ถือหุ้นบางส่วนก็ยังมีความหวังว่า จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบอื่น เช่น การซื้อหุ้นคืนเพื่อลดทุนเหมือนเช่น 6 ครั้งในช่วงเวลา 14 ปีในอดีตที่ผ่านมา

การซื้อหุ้นคืนเพื่อลดทุน (ไม่ขายคืนในตลาด) จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นทั้งกำไรต่อหุ้น (EPS) และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่สูงขึ้น ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ JAS ในราว 53% ก็จะได้รับประโยชน์ด้วย นอกจากนี้ราคาหุ้นก็มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นด้วย

ในอดีต 6 ครั้ง เริ่มจากปี 2552 จำนวน 1,397,727,200 หุ้น หรือ 14.82% มูลค่ารวม 615 ล้านบาท, ปี 2553 จำนวน 739,949,138 หุ้นหรือ 10% มูลค่ารวม 300 ล้านบาท, ปี 2554 จำนวน 724,425,137 หุ้น หรือ 10% มูลค่ารวม 300 ล้านบาท,

ปี 2555 จำนวน 106,857,000 หุ้นหรือ 1.47% มูลค่ารวม 298 ล้านบาท, ปี 2557 จำนวน 713.73 ล้านหุ้น หรือ 10% มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท และปี 2559 จำนวน 1,200 ล้านหุ้น หรือ 16.82% มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท

สรุปการซื้อหุ้นคืน 6 ครั้ง JAS ใช้เงินซื้อคืนเพื่อนำไปลดทุนทั้งสิ้น 8,513 ล้านบาท มันไม่น่าเชื่อ! แต่ก็ปรากฏเป็นความจริงให้เห็นมาแล้ว

ขออีกสักทีเถอะน่า ซื้อหุ้นคืนครั้งที่ 7 เพื่อนำไปลดทุน และการปันผลที่จะตามมา

Back to top button