พาราสาวะถี
ภาพความเป็นจริงทางการเมืองที่แตกต่าง ไม่ได้เป็นเพราะฝ่ายหนึ่งยึดกุมอำนาจในการบริหารบ้านเมือง อีกฝ่ายกลับไปเป็นฝ่ายค้าน
ภาพความเป็นจริงทางการเมืองที่แตกต่าง ไม่ได้เป็นเพราะฝ่ายหนึ่งยึดกุมอำนาจในการบริหารบ้านเมือง อีกฝ่ายกลับไปเป็นฝ่ายค้าน การปะทะคารมกันในสภาระหว่าง เศรษฐา ทวีสิน กับ ชวน หลีกภัย มันคล้ายเดจาวูเมื่อคราวจอมหลักการเคยกรีด ทักษิณ ชินวัตร ในอดีต แต่ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เหมือนเดิมคือ เพื่อไทยแม้จะพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ยังมีโอกาสที่จะพลิกฟื้นกลับมายืนอยู่บนความยิ่งใหญ่ได้ ขณะที่ประชาธิปัตย์แนวโน้มมีแต่สาละวันเตี้ยลง
หลังการซักฟอกตามมาตรา 152 ก้าวไกลต้องไปเตรียมตัวสู้กับการถูกยุบพรรค ขณะที่ประชาธิปัตย์ยังตามล้างตามเช็ดประเด็นที่ถูกเศรษฐาเปิดมาว่ามีบางพรรคการเมืองพยายามที่จะติดต่อขอร่วมรัฐบาล โดยคนในพรรคเก่าแก่ต่างพากันออกมาเย้ว ๆ เรียกร้องให้มีการเปิดเผยให้ชัดว่าพรรคไหน ทั้งที่ในความเป็นจริงคนส่วนใหญ่ก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นพรรคใด พฤติกรรมของ สส.บางราย ลูกพรรคบางส่วนมันสะท้อนความต้องการได้อย่างชัดเจน
การเล่นลิ้นสร้างวาทกรรม คงความเป็นพรรคที่ยึดมั่นในระบบรัฐสภา เดินตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย มันใช้ไม่ได้ผลแล้วกับ 78 ปีที่ผ่านมา การไปสมสู่ยกมือหนุนผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ โดยที่หัวหน้าพรรคอย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศตัวชัดว่าไม่เอาด้วย คือหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าพรรคการเมืองที่อยู่มาช้านาน เกาะกุมหลักการอย่างเหนียวแน่นหรือแค่ดีแต่พูด เมื่อดูสถานการณ์ที่ปรากฏเบื้องหน้า ย่อมทำให้อนาคตที่จะต้องเดินกันต่อ พอมีความหวังหรือยังมืดมนต่อไป
ผิดกับเพื่อไทยในวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเปิดวิดีโอการสัมภาษณ์ทักษิณเพื่อปลุกเร้า กระตุ้น สร้างขวัญกำลังใจให้กับลูกพรรค มีการประกาศความชัดเจน 2 เรื่องสำคัญ ซึ่งทำให้กระบวนการทำงานทางการเมืองของพรรคแกนนำรัฐบาลปลอดโปร่ง โล่งสบาย ใครจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรหลังจากนี้ไม่มีผล เพราะคนในรับรู้ถึงความต้องการของผู้ก่อตั้งพรรคที่แท้จริงแล้วว่าเป็นอย่างไร
ประการแรกคือ ยืนยันความเป็นนายกรัฐมนตรีแบบเต็มตัวของเศรษฐา ตอกย้ำว่าประเทศนี้มีผู้นำเพียงแค่คนเดียว และเป็นคนที่ถูกเลือกมาแล้วเพื่อแก้ไขวิกฤตทั้งหลายทั้งปวง โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจ เหมือนที่ย้ำกันมาตลอด นี่คือคนที่ใช่ภายใต้สถานการณ์ของประเทศที่กำลังเผชิญ วลีทองที่อดีตนายกฯ การันตีต่อความจำเป็นที่นายกฯ ต้องชื่อเศรษฐาก็คือ เป็นคนที่มีเครือข่ายส่งเสริมสนับสนุน ตรงนี้แหละสำคัญ เพียงแค่ไม่พูดเจาะจงลงไปเท่านั้นว่า พลังหนุนหลักที่จำเป็นคือชนชั้นอีลิท
เรื่องของประสบการณ์ ความสามารถในการบริหารนั้นแทบจะไม่ต้องตรวจสอบอะไรกันแล้ว ความสำเร็จจากธุรกิจที่ทำ ความรู้ที่มีเป็นสิ่งยืนยัน ไม่เพียงเท่านั้น ชั้นเชิงทางการเมือง ความตรงไปตรงมา กล้าที่จะท้าชนกับคนที่วิจารณ์ในเรื่องที่ไม่ถูกต้อง หรือพาดพิงให้เสียหาย ได้ยินได้ฟังกันมาแล้วจากเวทีซักฟอกที่ผ่านไป ยิ่งมีการนำไปเปรียบเทียบกับการเสียโอกาสเกือบ 10 ปีที่ผ่านมาของผู้นำที่อ้างว่าเป็นนายกฯ ไม่เห็นยากตรงไหน มันยิ่งทำให้เห็นความแตกต่างกันลิบลับ
เมื่อได้รับการหนุนหลังเช่นนี้ ย่อมทำให้เศรษฐามีความสบายใจในการทำงาน ซึ่งความจริงมันก็ตกผลึกกันไปตั้งแต่ที่จะมีการตั้งรัฐบาลแล้ว เพราะกระบวนการพูดคุย ปิดดีลเพื่อให้เกิดการพลิกขั้วนั้น ไม่ได้มีแค่ตัวเลขนักเลือกตั้งในสภาที่จะมาค้ำยันเสถียรภาพของรัฐบาลเท่านั้น หากแต่ยังหมายถึงองค์รวมอื่น ๆ ที่จะต้องพร้อมสนับสนุนเพื่อช่วยกันพลิกฟื้นบ้านเมืองให้กลับคืนมามีความก้าวหน้า และเดินต่อไปได้โดยประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ระยะเวลาจากนี้ไปอีก 3 ปีครึ่งจึงเป็นจังหวะที่เศรษฐาจะได้โชว์ฝีมืออย่างเต็มที่ ภายใต้แรงหนุนอย่างสุดกำลังของเพื่อไทยที่มี แพทองธาร ชินวัตร กุมบังเหียน โดยที่บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันก็พร้อมที่จะเป็นกองหนุนอย่างสุดกำลัง ด้วยความหวังว่า ผลงานจากกระทรวงที่ตัวเองรับผิดชอบพอจะเข้าตาประชาชน ยังคงสามารถรักษาระดับคะแนนเสียงที่มีอยู่ต่อไปได้ แต่ส่วนใหญ่มุ่งหวังไปที่การสะสมกระสุนเพื่อความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเป็นหลัก
สำหรับอุ๊งอิ๊งสิ่งที่ทักษิณยืนยันต่อบรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทยเพื่อความอุ่นใจก็คือ การมีดีเอ็นเอของ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ผู้เป็นแม่ในแง่ความเข้มแข็ง อดทน เด็ดขาด ซึ่งการยืนยันเช่นนี้ย่อมทำให้คนในพรรคมั่นใจต่อการที่จะร่วมหัวจมท้ายกันตลอดไป เพราะตลอดระยะเวลาของการต่อสู้ทางการเมืองที่อดีตสามีอยู่ต่างประเทศนั้น คนของพรรคนายใหญ่ต่างรับรู้กันว่า ใครคือผู้บัญชาการที่แท้จริง และหลายเรื่องก็ใช้ความเด็ดขาด กล้าได้กล้าเสียในการตัดสินใจ
ส่วนที่เป็นดีเอ็นเอของทักษิณซึ่งมีการออกตัวก่อนว่าไม่ได้มาเชียร์ลูกสาวนั่นก็คือ การพบปะผู้คน เข้าใจการเมือง เมื่อชูจุดเด่นตรงนี้เป้าหมายย่อมชัดว่าต้องการที่จะเรียกคะแนนนิยมจากคนที่เคยสนับสนุนพ่อในอดีตให้กลับมาหนุนหลังลูกสาวต่อไป หัวใจสำคัญที่เพื่อไทยต้องใช้จากอุ๊งอิ๊งก็คือความเป็นคนรุ่นใหม่ เข้ามาเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงภายในพรรค และสร้างการยอมรับจากคนรุ่นใหม่ที่ถือเป็นฐานเสียงสำคัญของคู่แข่งอย่างก้าวไกล ในประเด็นนี้ทักษิณก็ยืนยันว่า เพื่อไทยถูกกล่าวหาเป็นพรรคอนุรักษนิยมใหม่ ทั้งที่ดีเอ็นเอตั้งแต่ไทยรักไทยเป็นพรรคที่รีฟอร์ม หรือ เป็นพรรคผู้นำในการเปลี่ยนแปลง
เมื่อทักษิณเป็นผู้ฉายภาพการทำงานระหว่างเศรษฐากับแพทองธารให้ชัดเจนแล้ว ก็อยู่ที่ว่าผลจากการทำงานจะออกมาแบบไหน โดยที่ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาลบอกว่า วันนี้คนรอนโยบายสำคัญของเพื่อไทย การสื่อสารออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มเป็นเรื่องจำเป็น เมื่อผลงานของรัฐบาลออกมา ความชัดเจนจะอยู่ในหัวใจประชาชน และเชื่อว่าวันนั้น พรรคเพื่อไทยจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง จะเป็นเหมือนที่คนในพรรควาดหวังกันไว้หรือไม่ต้องรอดู ที่แน่ ๆ ประกาศความชัดเจนต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในวันพรุ่งนี้ (10 เมษายน) จะเป็นตัวชี้วัดว่า ทำได้จริงหรือแค่ราคาคุย