ขึ้นส่งท้าย?

ต้องเรียนตามตรงว่า เดี๊ยนรู้สึกดีใจทุกครั้งที่เห็นตลาดหุ้นไทยกลับมาเขียวสะพรั่ง เพราะมันหมายความว่า นักลงทุนยังอยากซื้อหุ้น


ต้องเรียนตามตรงว่า เดี๊ยนรู้สึกดีใจทุกครั้งที่เห็นตลาดหุ้นไทยกลับมาเขียวสะพรั่ง เพราะมันหมายความว่า นักลงทุนยังอยากซื้อหุ้น จึงกระโจนใส่แบบสุดซอย เมื่อมีคนจุดพลุไล่ราคาหุ้นรอบใหม่ และวานนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ดัชนีพุ่งพรวดอย่างร้อนแรงตั้งแต่เช้า ก่อนจะไล่ราคาหุ้นกันมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,401.11 จุด บวกไป 25.53 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.83 หมื่นล้านบาทไงล่ะคะ

ถึงกระนั้น “โมนิก้า” ก็ต้องเผื่อใจยอมรับความจริงที่ว่า ทุกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยร้อนแรงเป็นปรอทแตก มักตามมาด้วยแรงขายที่ไหลออกมาเรื่อย ๆ หรือภาษาหุ้นเขาเรียกว่า “รินหุ้น” เป็นประจำ ผนวกกับการขึ้นมายืนแนวต้าน 1,400 จุดไม่ค่อยเข้มแข็งสักเท่าไหร่? เดี๊ยนเลยสงสัยว่า นี่อาจเป็นการขึ้นส่งท้ายก่อนหยุดยาว แถมที่ผ่านมามันก็เป็นแบบนี้เสียด้วย..เลยไม่กล้าฟันธงจะแรลลี่ยาวพะย่ะค่ะ

ยิ่งมองในมุมของราคาทองพุ่งไม่หยุด และราคาน้ำมันขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง ยิ่งเป็นภาพที่ย้อนแย้งกับการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างสิ้นเชิง “โมนิก้า” ถึงมองว่า การเล่นตามน้ำเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรกำหนดจุดขายให้ชัดเจน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในจังหวะนี้อาจเป็นแค่การซื้อคืนช่วงสั้น ๆ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ หลังต่างชาติกลับเข้ามาเก็บหุ้นวันเดียว 6 พันล้านน่ะซี

โดยเฉพาะในรายของ DELTA ถือเป็นหนึ่งในตัวพลิกเกมตลาดหุ้นไทยที่สำคัญ เพราะการพุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ระดับ 77.25 บาท บวกไป 4.25 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.43 พันล้านบาท มีผลต่อการปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทยถึง 4 จุดด้วยกัน และถ้าดูจากแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่ม และนายกเซลล์แมนออกหน้าเชียร์เต็มที่ ก็เป็นจังหวะที่เหมาะต่อการโหนกระแส ส่วนจะเป็นจริงแค่ไหน?..วันนี้รู้ผลจ้า

เช่นเดียวกับในรายของ AOT กระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 67 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.62 พันล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามหลักลงทุนทุกอย่าง เพราะการที่ธุรกิจท่องเที่ยวบูมอีกครั้ง มันทำให้ทุกคนคาดหวังกำไรจะออกมาดี จึงเป็นจังหวะของการไล่ราคาหุ้นรอบใหม่โดยใช้พื้นฐานเป็นตัวเดินเกม เพียงแต่เที่ยวก่อนหุ้นมาจอดป้าย 67 บาทพอดี เลยเดาเกมไม่ออกว่า เที่ยวนี้จะเป็นแบบนั้นไหม?..อิอิอิ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น EA เพื่อชี้ให้เห็นผลงานของบริษัทยังไปได้ดี และยังมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาเสริมกำไรอย่างโดดเด่น แต่สุดท้ายก็โดนชอร์ตหุ้นเป็นเวลาปีกว่าแบบนี้ มันเป็นเกมที่ทำให้เดี๊ยนต้องคิดหนักพอสมควรว่า การยืนปิดที่ระดับ 35.25 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 9.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 901 ล้านบาท มันเป็นการกลับทิศอย่างถาวรใช่อะป่าว?..ถ้าใช่ถือว่า PE ระดับ 15 เท่า น่าเล่นสุด ๆ นะจ๊ะ

ส่วนการทะยานขึ้นของ AWC อาจมีผลต่อดัชนีไม่มากเหมือนกับหุ้นข้างต้น แต่การขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.50 บาท บวกไป 0.34 บาท หรือขึ้นไป 8.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 888 ล้านบาท ถือเป็นช็อตที่ทำให้คนที่ชอบเล่นหุ้นต่ำสิบกระโจนใส่กันอย่างเมามัน ผนวกกับธุรกิจโรงแรมเข้าสู่โหมดโตเต็มตัว จึงคาดหวังราคาหุ้นจะแรลลี่ยาวได้เหมือนกัน รวมทั้งได้แรงหนุนจากการซื้อหุ้นกลับ หลังจากโดนชอร์ตหุ้นหนักแบบนี้..ลุ้นสนุกเจ้าค่ะ

คล้ายกับในรายของ CPN ก็เด้งจากฐานที่มั่นบริเวณ 62 บาทเป็นครั้งที่ 4 ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 64.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 475 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่โน้มเอียงไปในทางบวกค่อนข้างเยอะ และมีลุ้นขึ้นไปทดสอบยอดแรกที่ระดับ 68 บาทในไม่ช้าอีกด้วย จึงอยากให้แฟนคลับลองพิจารณารอบวิ่งของหุ้นตัวนี้น่าสนใจเหมือนที่เดี๊ยนคอมเมนต์จริงไหมเจ้าค่ะ

อีกรายที่น่าจับตาเป็นพิเศษ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นกระดาษลัง SCGP เพราะรายนี้โดนทั้งเรื่องชอร์ตหุ้น และเรื่องผลงานไม่เข้าเป้าเล่นงานมาเป็นระยะ แต่วานนี้ดันมีแรงซื้อกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนดันราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 31.25 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 517 ล้านบาทแบบนี้ มันเป็นเกมที่น่าตามไปดูแบบเกาะขอบเวทีอย่างแท้จริงนะจะบอกให้

Back to top button