ICHI กำไรซ่าท้าหน้าร้อน!
เข้าหน้าร้อนทีไรมักเห็นหุ้นเครื่องดื่มออกอาการลิงโลดเพราะเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ ซึ่งจะหนุนให้ผลประกอบการเติบโตโดดเด่น หนึ่งในนั้นคือ ICHI
คุณค่าบริษัท
เข้าหน้าร้อนทีไร ก็มักเห็นหุ้นเครื่องดื่มออกอาการลิงโลดทุกที เพราะเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ ซึ่งจะหนุนให้ผลประกอบการเติบโตโดดเด่น หนึ่งในนั้นคือ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่ม อิชิตัน กรีนที, เครื่องดื่มสมุนไพร เย็นเย็น และเครื่องดื่มน้ำผลไม้ไม่อัดลม
โดย ICHI ถูกมองว่าจะเติบโตก้าวกระโดด จากปัจจัยหนุน 1)การเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน 2)การเริ่มรับรู้รายได้จากสินค้าใหม่ที่เป็นเครื่องดื่มชูกำลัง ในชื่อ “ตัน พาวเวอร์” และการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในเวียดนามในไตรมาส 2/2567 และ 3)การเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ และ 4)การที่บริษัทสามารถใช้กำาลังการผลิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น หนุนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM)
จากปัจจัยดังกล่าว ผู้บริหารเชื่อมั่นว่าจะผลักดันให้ผลการดำเนินงานในปี 2567 มีรายได้เติบโตอยู่ที่ระดับ 9,000 ล้านบาท และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ไม่น้อยกว่า 23% โดยการบริหารต้นทุน และวางแผน Utilization Rate (อัตราการใช้ประโยชน์) ตั้งเป้าผลิตอย่างน้อย 100 ล้านขวดทุกเดือน
ควบคู่ไปกับการเร่งติดตั้งไลน์การผลิตใหม่ ซึ่งมีกำลังการผลิตเพิ่มอีก 200 ล้านขวดต่อปี คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 4/2567 ซึ่งจะหนุนกำลังการผลิตรวมเป็น 1,700 ล้านขวดต่อปี จากปัจจุบัน 1,500 ล้านขวดต่อปี เพื่อรองรับโอกาสในตลาดใหม่ ความต้องการ (ดีมานด์) ใหม่ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เตรียมพร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายยอดขาย 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2568
ขณะที่ ผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทมีรายได้ 8,050 ล้านบาท เติบโต 27% จากปีก่อนอยู่ที่ 6,340 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,100 ล้านบาท เติบโตกว่า 71% จากปีก่อนอยู่ที่ 642 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 23.4% ผลจากการบริโภคที่ฟื้นตัว และเป็นปีที่มีช่วงอากาศร้อนยาวนาน ผลักดันตลาดเครื่องดื่ม Non-Alcoholic เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดชาพร้อมดื่มครองแชมป์เติบโต 3 ปีติด โต 17.45%
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2567-2568 ของ ICHI ขึ้น 8.2% และ 9.5% เป็นโต 7.4% และ 6% ตามลำดับ สมมติฐานการเติบโตของรายได้ใหม่ที่ 8.4% ต่ำกว่าเป้าประมาณการของผู้บริหาร นอกจากนี้ ICHI ยังตั้งเป้ารายได้ปี 2567 ของ Tan Power ที่ 300 ล้านบาท คิดเป็น 3.3% ของรายได้รวม
ถ้าสินค้าใหม่ไม่ประสบความสำเร็จ คาดว่าผลกระทบจะมีจำกัด เนื่องจากบริษัทฯ จ้างผลิต 100% และค่าใช้จ่ายที่คาดไว้ก็ไม่สูงนัก เนื่องจาก “คุณตัน” CEO ของ ICHI เป็นพรีเซ็นเตอร์เอง
ด้านบล.พาย ระบุว่า มองบวกต่อปี 2567 ของ ICHI หนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มชาพร้อมดื่ม จากภาวะอากาศที่ร้อนต่อเนื่อง และอานิสงส์จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว กำไรสุทธิในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 10% จากไตรมาสก่อน ผลจาก 1)ยอดขายชาเขียวที่เติบโตตามส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น 2)ยอดขายอื่นนอกจากชาเขียวโตดีต่อเนื่องจากตันซันซู (เปิดตัวไตรมาส 4/2566) และ 3)อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น จากอัตรากำลังการผลิตที่สูงขึ้น ขณะที่ยอดขายในเดือน ม.ค. 2567 ยังมีทิศทางเติบโตดีต่อเนื่องและเติบโตดีกว่าตลาดชาเขียวที่เติบโต 20.5%
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น ICHI ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 19.14 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.07 เท่า ถือว่าราคาซื้อสูงกว่าตลาดเล็กน้อย อย่างไรก็ตามถ้าไปดู P/BV ที่ระดับ 3.61 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.33 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 20.70 บาท จากราคาต่ำสุด 19 บาท และราคาสูงสุด 23.20 บาท