เรื่องนี้ต้องมีคำตอบ

สุดท้ายความหวังที่จะได้เห็นตลาดหุ้นไทยวิ่งยาว ๆ ก็กลายเป็นเพียงฝันค้างตอนกลางวันแสก ๆ เพราะต่างชาติไม่ได้ลุยหุ้นแบบสุดซอย และใช้วิธีถอยดูเชิงเพื่อไม่ให้ตัวเองแบกรับความเสี่ยงมากเกินไป ดัชนีถึงทรุดลงมากองอยู่ที่ระดับ1,396.38 จุด ลบไป 11.79 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.29 หมื่นล้านบาทแบบเช็ง ๆ พร้อมกับต้องลุ้นกันต่อไปว่า ดัชนีจะยืนหยัดสร้างฐานแนวรับที่แข็งแกร่งได้จริงอ๊ะป่าว?

เนื่องจากหลายครั้งที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยมักมีอาการล่มปากอ่าวเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ตลาดหุ้นไทยไปต่อไม่ไหว เพราะเมื่อสัปดาห์ก่อนได้เผื่อใจสำหรับเหตุการณ์แบบนี้ไว้แล้ว ซึ่งเป็นคำตอบที่อยู่ในตัวของมันเอง เดี๊ยนเลยอยากถามแฟนคลับว่า สัปดาห์นี้หุ้นจะไปต่อไหม? เพราะสตอรี่ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกเอามาเล่นเป็นตุเป็นตะคือ “ลดดอกเบี้ย” น่ะซี

ตรงนี้แหละที่กลายเป็นอุปสรรคสำหรับการทะยานขึ้นของดัชนี เพราะผู้รู้หลายสำนักฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแหกว่า น่าจะคงดอกเบี้ยไปอีกระยะหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ยังมีเรื่องอลเวงอย่างหนักเกี่ยวกับเงินดิจิทัล เพราะข้อมูลที่ออกมาตอนให้สัมภาษณ์มันชวนให้คนงงกันเป็นแถบ และข้อสงสัยเกี่ยวกับทุนใหญ่ไม่ได้ประโยชน์ตั้งแต่รอบแรก มันกลายเป็นเรื่องที่ฟังแล้วงงแบบนี้ (CPALL เด้งรับตั้งแต่มีข่าว)..คนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ไปพร้อม ๆ กันจริงป่าวเนี่ย..อุ๊งอิ๊งช่วยตอบหน่อยค่ะ

ประเด็นถัดมาที่สังคมกำลังสงสัยมากขึ้นเรื่อย ๆ คงเป็นเรื่องของกากแคดเมียมที่หายไปประมาณ 1.50 หมื่นตัน ซึ่งมาเกี่ยวข้องกับ BEYOND เพราะเป็นเจ้าของเหมืองถลุงสังกะสี ซึ่งคนสมัยก่อนรู้จักกันในชื่อ “ผาแดง” หรือชื่อหุ้น “PDI” โดยที่ผ่านมาก็มีการขุดหลุมฝังกลบกากดังกล่าวกันมาตลอด แต่จู่ ๆ ดันถูกขุดขึ้นมาขายหน้าตาเฉยเสียอย่างนั้น จึงกลายเป็นเผือกร้อนที่บริษัทต้องออกมาแจงให้สังคมหายสงสัยว่า ไปเกี่ยวพันกับทุนจีนกันอีท่าไหน?

เนื่องจากข้อมูลที่ชี้แจง ตลท. ออกมาในแนวทางปัดเอี่ยว แต่กากสารพิษดังกล่าวมันอยู่ในที่ดินของคุณพี่ไม่ใช่เหรอ? ส่งผลให้ผู้คนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เม้าท์กันอย่างสนุกสนาน แต่เผอิญอีฉันชอบฟังความ 2 ด้าน จึงไม่อยากปักใจเชื่อเรื่องราวที่เขาเม้าท์กันอย่างแซ่บ! รวมทั้งเรื่องราวดังกล่าวก็ยังอยู่ในกระบวนการพิสูจน์ เลยหวังในใจลึก ๆ ว่า คงไม่เป็นเหมือนที่เขาเม้าท์กันนะคะ

ส่วนอีกเรื่องที่หลายคนรอคอยคำตอบ คงเป็นท่าทางที่ไม่น่าไว้ใจของ “เสี่ยยศ” หัวเรือใหญ่ของ 24CS และเป็นผู้ถือใหญ่อันดับ 3 ในหุ้น QTCG ด้วยจำนวนหุ้นที่ถืออยู่มากถึง 42 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 7% ทำไมถึงสาดหุ้น QTGC ออกมามากเกือบ 36 ล้านหุ้น ทั้งที่หุ้นจำนวนนี้ควรติดไซเรนท์แบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ชวนให้ขาเผือกสงสัยมากเหลือเกิน และวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบออกมาจากปากใครสักคนนะจ๊ะ

เมื่อเป็นเช่นนี้ “โมนิก้า” ขอเดาว่า คนที่น่าจะออกมาไขข้อสงสัยได้ดีสุดคือ FA แห่งค่าย บล.ยูโอบีฯ เพราะเป็นคนพาหุ้นตัวนี้เข้าตลาด เอ็ม เอ ไอ ซึ่งตัวอีฉันเองอยากรู้เหมือนกันว่า เอฟเอรายนี้ให้เหตุผลอะไรกับ ตลท. ในการไม่ติดไซเรนท์!ผนวกกับประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีนัยสำคัญสำหรับคนจองซื้อหุ้น จึงจำเป็นต้องทำประเด็นนี้ให้กระจ่างตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อทำให้ทุกฝ่ายสบายใจไงล่ะคะ

ในเมื่อเม้าท์ถึงเรื่องสบายใจทั้งที “โมนิก้า” ขอเอ่ยถึงหุ้น SABUY เพื่อให้เข้ากับบรยากาศที่ผู้คนใคร่รู้เรื่องราวกันสักหน่อย เพราะการดึงคนซีพีเข้ามาแทนเจ้าของเดิมแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ย่อมเป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างใกล้ชิด ผนวกกับราคาหุ้นช่วงเช้ายังขึ้นรับเจ้าของใหม่ แต่สุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 2.58 บาท ลบไป 0.14 บาท หรือลงไป 5.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.44 พันล้านบาทแบบนี้..มันคืออิหยังเจ้าค่ะ

ตบท้ายกันที่หุ้น ALPHAX ซึ่งไต่เพดานรับข่าวลงทุนเขื่อนในลาวกันดีกว่า เพราะตั้งแต่มีประเด็นนี้เกิดขึ้น ก็มีการไล่ราคาหุ้นขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่ดูเหมือนว่า ตอนนี้ราคาหุ้นออกอาการตื้อ ๆ ตัน ๆ แต่มีวอลุ่มช้อนซื้อเข้ามาตลอดทั้งวัน จนราคาหุ้นประคองตัวปิดที่ระดับ 0.91 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 83 ล้านบาทแบบนี้..อาจตีความได้ว่า สะสมกำลังเพื่อรอเวลาไปต่อหรือเปล่าตัวเอง!