BBL วิบากกรรม ITD.!?

ก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไร...เมื่อธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ประกาศงบไตรมาสแรกปี 2567 โชว์กำไรสุทธิ 10,523 ล้านบาท


ก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไร…เมื่อธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ประกาศงบไตรมาสแรกปี 2567 โชว์กำไรสุทธิ 10,523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.89% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10,129 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 41,682 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 40,293 ล้านบาท

ซึ่งเป็นตัวเลขใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์…

แต่ไฮไลต์อยู่ที่การตั้งสำรองหนี้เสียฯ หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นพุ่งพรวดมาอยู่ที่ 8,582 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2566 ซึ่งอยู่ที่ 7,343 ล้านบาท หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 8,474 ล้านบาท แม้จะลดลงเล็กน้อย แต่บ่งบอกว่าการตั้งสำรองหนี้เสียฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง

ขณะที่ในไตรมาสนี้ NPL เพิ่มขึ้นมาเป็น 3% จาก 2.7% ในไตรมาส 4/2566

แม้ในคำอธิบายงบระบุว่า “ธนาคารยังคงพิจารณาตั้งสำรองภายใต้หลักความระมัดระวังและรอบคอบอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยโดยรวมขยายตัวอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ภาคการส่งออกยังคงได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของอุปสงค์ในต่างประเทศ ในระยะข้างหน้า ปัจจัยสำคัญที่ยังคงต้องติดตาม ได้แก่ ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้า” ก็ตามที

แต่ที่น่าตั้งข้อสังเกต BBL ตั้งสำรองตั้ง 8,582 ล้านบาท เป็นหนี้เสียจากไหนกันนะ..??

ถ้าดูจากฐานลูกค้าของ BBL ก็เป็นรายใหญ่ทั้งนั้น…ถ้าให้หลับตาจิตนาการดู ช่วงที่ผ่านมาไม่มีบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไหนมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องนะ จะมีก็แค่บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ของ “เจ้าสัวเปรมชัย กรรณสูต” บริษัทเดียวจริง ๆ…

แล้วถ้าไปดูโครงสร้างหนี้ ITD จากการกู้สถาบันการเงินวงเงินรวม 24,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 1)ธนาคารกรุงเทพ 8,000 ล้านบาท เป็นเงินกู้ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท 2)ธนาคารกสิกรไทย 6,000 ล้านบาท เป็นเงินกู้ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท 3)ธนาคารไทยพาณิชย์ 6,000 ล้านบาท เป็นเงินกู้ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท และ 4)ธนาคารกรุงไทย 4,000 ล้านบาท เป็นเงินกู้ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท

แหม๊…บังเอิ๊ญบังเอิญที่ตัวเลขการตั้งสำรองของ BBL ในไตรมาสนี้ ดันไปใกล้เคียงกับวงเงินปล่อยกู้ 8,000 ล้านบาทให้กับ ITD เสียด้วยสิ..!!

เอ๊ะ…หรือตัวเลขการตั้งสำรองส่วนใหญ่มาจาก ITD ป๊ะเนี่ย..??

เรียกว่าจบแต่เจ็บหรือเปล่า..??

ซึ่งถ้าเป็นจริงดังว่า นั่นแปลว่า BBL เจอวิบากกรรม ITD ไปเต็ม ๆ…

เรื่องนี้อิฉันไม่ได้คิดเองเออเองคนเดียวนะ มุมมองของนักวิเคราะห์อย่างบล.พาย ก็มองว่าการตั้งสำรองดังกล่าว ส่วนใหญ่มาจากการปรับลดชั้นสินเชื่อที่เกี่ยวกับ ITD

ขณะที่ บล.ดาโอ ระบุว่า NPL ของ BBL เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.00% จากไตรมาสก่อนที่ 2.70% โดยมูลค่า NPL เพิ่มขึ้นถึง 9% จากไตรมาสก่อน (ราว 8,000 ล้านบาท) ส่วนใหญ่เกิดจากลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตและกลุ่มก่อสร้าง โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากการ Relapse เป็นหลัก ขณะที่ Coverage ratio ลดลงมาอยู่ที่ 292% จากไตรมาสก่อนที่ 315%

โอเค…แม้ในไตรมาส 1/2567 ยังตั้งสำรองสูงและ NPL เพิ่มขึ้น แต่ BBL ยังเป็นแบงก์ใหญ่ที่แข็งแกร่ง ดูได้จาก coverage ratio ที่สูงสุดในกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 291.7%

จึงไม่น่าแปลกใจที่นักวิเคราะห์สำนักต่าง ๆ พร้อมใจกันเชียร์ “ซื้อ” เป้าสูงสุด 200 บาท

อ้อ…ถ้าใครซื้อหุ้น BBL วันนี้ (22 เม.ย.) จะเป็นวันสุดท้ายที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลงวดครึ่งหลังปี 2566 (ขึ้นเครื่องหมาย XD 23 เม.ย.) ในอัตราหุ้นละ 5.00 บาทด้วยนะ

แต่ถ้าใครเห็นต่างจากนี้..ก็ไม่ว่ากัน

…อิ อิ อิ…

Back to top button