ข่าวสงครามตะวันออกกลางกับราคาน้ำมัน

ข่าวสงครามจากสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบและทองคำในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นเพราะมีตัวแปรเข้ามาใหม่ นั่นคืออิหร่าน ที่ทำการยิงขีปนาวุธโดยใช้โดรนเป็นตัวชี้นำข้ามพรมแดนอิรักโจมตีอิสราเอล เป็นการปฏิบัติการทางทหารครั้งแรกของอิหร่านโดยตรงไม่อ้อมค้อมผ่านพันธมิตรอย่างพวกฮามาสในปาเลสไตน์ พวกกบฏในเลบานอนหรือซีเรีย

ปฏิบัติการทางทหารโดยตรงอย่างที่อิหร่านทำถือว่าเป็นการยั่วยุให้อิสราเอลทำการตอบโต้โดยการส่งโดรนและขีปนาวุธยิงเข้าไปที่เมือง อีสฟาฮานซึ่งไม่ใช่เมืองหลวงแต่เป็นเมืองศูนย์รวมทางจิตใจของชาวมุสลิมชีอะห์ทั่วโลก

ปฏิบัติการตอบโต้ของอิสราเอลต่ออิหร่านทำให้เกิดปฏิกิริยา 2 ทางพร้อมกัน คือประเทศตะวันตกรวมทั้งจีนได้เรียกร้องให้ทั้งอิสราเอลและอิหร่านใช้ความยับยั้งชั่งใจไม่ให้สงครามบานปลายเป็นสงครามโลก  ส่วนปฏิกิริยาทางอิหร่านกลับยั่วยุมากขึ้นด้วยมองว่าขีปนาวุธของอิสราเอลไม่สามารถทำอันตรายอิหร่านได้

ท่าทีของรัฐบาลอิหร่านจึงกลายเป็นสงครามน้ำลายเพราะเชื่อมั่นว่าอิสราเอลไม่มีทางยกพลทางบกเข้าโจมตีอิหร่านได้เนื่องจากไม่มีพรมแดนติดกัน

ปฏิบัติการทางทหารของอิหร่าน จึงเป็นปฏิบัติการยั่วยุและสร้างอิทธิพลให้อิหร่านขึ้นเป็นผู้ชี้นำสถานการณ์ในตะวันออกกลางในการต่อสู้กับอิสราเอลแทนที่ผู้นำชาติอื่น ๆ ในอาหรับ เช่น ซาอุดีอาระเบีย และลิเบียซึ่งได้กลายเป็นพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาอย่างแนบแน่น

ผลพวงจากปฏิบัติการทางทหารของอิหร่านจึงไม่อาจทำให้สงครามบานปลายเป็นสงครามโลก แต่มีผลสะเทือนสำคัญคือราคาน้ำมันดิบของโลกสูงตัวขึ้นเช่นเดียวกับทองคำ

อาจกล่าวได้ว่าปฏิบัติการทางทหารของอิหร่านมีเจตนาทางอ้อมเพื่อปั่นราคาน้ำมันให้ทรงตัวในระดับสูงต่อไปในฐานะมือที่มองเห็น แม้ว่าชาวโลกจะรู้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะอิหร่านมีอำนาจต่อรองในตลาดน้ำมันดิบค่อนข้างสูงจากฐานะการเป็นชาติส่งออกน้ำมันดิบในโอเปกเป็นอันดับที่สอง

อิหร่านนั้นมักใช้กลยุทธ์ทำตัวเป็นผู้ร้ายในการเมืองระดับโลก แต่ความร่ำรวยจากราคาน้ำมันดิบก็ส่งอิทธิพลให้ชาติส่งออกน้ำมันดิบทั้งหลายได้รับผลประโยชน์กันถ้วนหน้าจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น

การสู้รบดังกล่าวระหว่างอิหร่านและอิสราเอลจึงถือได้ว่าเป็นปาหี่เรียกน้ำย่อยให้ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติครองโลกไม่ตกหล่นลงไปในระดับที่ทำให้ชาติผู้ผลิตน้ำมันดิบขาดทุน

วิษณุ โชลิตกุล