เด้งรอบที่ 5
ก่อนอื่นต้องแสดงความยินดีกับนักลงทุนที่ดัชนีเด้งกลับขึ้นมาอย่างร้อนแรง และสามารถยืนปิดที่ระดับ 1,349.52 จุด
ก่อนอื่นต้องแสดงความยินดีกับนักลงทุนที่ดัชนีเด้งกลับขึ้นมาอย่างร้อนแรง และสามารถยืนปิดที่ระดับ 1,349.52 จุด บวกไป 17.44 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.30 หมื่นล้านบาท เพราะแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนยังไม่ถอดใจกับตลาดหุ้นไทยที่เหวี่ยงตัวไปมารุนแรง ขณะเดียวกันจะเห็นว่า การลงทุนตรงบริเวณนี้ถือเป็นระดับที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง เพราะเป็นจุดที่มีความเสี่ยงต่ำในสายตาผู้รู้ของตลาดหุ้นไทยพะย่ะค่ะ
เนื่องจากเป็นการเล่นบนพีอีอนาคตที่ระดับ 14 เท่า ซึ่งเป็นการเดิมพันว่า กำไรในปี 67 ของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ดัชนียังคงป้วนเปี้ยนแถวแนวรับ 1,350-1,300 จุดนานมาก และถ้ามองให้เป็นตัวเลขทางสถิติจะเห็นว่า นี่เป็นการเด้งครั้งที่ 5 ในรอบ 5 เดือนครึ่ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ชี้ให้เห็นว่า ตลาดหุ้นยังไม่สามารถสลัดภาพความอ่อนแอได้นะตัวเอง
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นน่าจะเกิดจากต่างชาติยังมีอิทธิพลค่อนข้างเยอะ และยังมาเจอโรบอทโขยกซ้ำทุกวันแบบไม่ให้พักหายใจ จึงทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเป็นเวลานาน และส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายในแต่ละวันอยู่ในระดับ 4 หมื่นล้านบาทแบบนี้ “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า เดี๋ยวดัชนีก็วนลูปเดิม เพราะเหตุการณ์ในปัจจุบันยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน จึงทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนระยะสั้นกันเป็นแถวน่ะซี
ขนาดหุ้นแบงก์ตัวท็อปอย่าง SCB ยังตอบรับกับกระแสการรีบาวด์ของตลาดหุ้นไทยแบบกระมิดกระเมี้ยน ก่อนจะยืนปิดไปที่ระดับ 104.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 1.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.62 พันล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเกมที่แทงกั๊กอย่างไม่ต้องสงสัย จึงต้องดูกันอีกครั้งว่า วันนี้จะมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องไหม? หากยังมีแรงซื้อเข้ามาเป็นระยะ ก็น่าเสี่ยงสักตั้งนะคะ
อีกรายที่เป็นตัวชี้วัดสถาบันกลับมาลุยเต็มตัวจริงไหม? เดี๊ยนขอมองไปที่หุ้น DELTA ซึ่งเป็นตัวนำในหลายเรื่องด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ หรือความคึกคักของตลาดหุ้น วานนี้กลับทำได้แค่ประคองตัวปิดไปที่ระดับ 69.50 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 982 ล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องที่ทำให้เดี๊ยนไม่ค่อยสบายใจ เพราะเป็นการคัมแบ็คแบบหงอยเหงานะจะบอกให้
เช่นเดียวกับในรายของหุ้น PTTGC ก็มีประเด็นที่ทำให้เดี๊ยนรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เพราะตลาดหุ้นไทยเด้งกลับอย่างร้อนแรง แต่หุ้นตัวนี้กลับโรยตัว (ราคาน้ำมันเริ่มลง) ก่อนจะปิดที่ระดับ 37.75 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 631 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ขัดลูกตาอย่างบอกไม่ถูก แถมราคาหุ้นก็ดันปิดโลว์ของวัน เลยทำให้โมเมนตัมของหุ้นดูไม่ดีสักเท่าไหร่! แต่ในขณะเดียวกันจะเห็นว่า การลงมายืนที่ฐานเก่าแบบนี้ ก็น่าซื้อเก็บจริง ๆ นะตัวเอง
ในเมื่อเปิดประเด็นเรื่องซื้อเก็บขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น EA เพื่อชี้ให้เห็นว่า การยืนปิดที่ระดับ 31.75 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 4.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 593 ล้านบาท ทั้งที่ผลการดำเนินงานก็ไม่ขี้เหร่ แถมยังมีสตอรี่เรื่องรถไฟฟ้า และโรงแบตฯ คอยซัพพอร์ตแบบนี้ มันเป็นเกมที่นักเล่นต้องประเมินกันว่า การเทรดบน PE 15 เท่า ณ เวลานี้ มันเสี่ยงสูงจริงไหม? เพราะในมุมของเดี๊ยนมองว่า นี่คือจุดที่น่าลงทุนจ้า!
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น CBG เพื่อสอดรับกับหน้าร้อน เพราะการขึ้นเที่ยวนี้มันเกี่ยวข้องกับยอดขาย และกำไรอย่างมีนัยสำคัญ ผนวกกับบรรยากาศตลาดหุ้นเอื้อให้มีการไล่ราคา วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 65.75 บาท บวกไป 4 บาท หรือขึ้นไป 6.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 846 ล้านบาทแบบชิล ๆ และมีสิทธิ์เห็นหุ้นไปต่อยาว ๆ เพราะยังห่างจากราคาเป้าหมายที่โบรกฯ ให้ไว้นะจ๊ะ
ตบท้ายกันที่พ่อดอกมะลิ JAS ซึ่งขึ้นแท่นเป็นเจ้าพ่อทางด้านวิศวกรรมการเงินกันดีกว่า เพราะแต่ละอย่างที่คุณพี่รังสรรค์ออกมาแต่ละครั้ง มันทำให้สังคมต้องตกตะลึงกันทั้งนั้น โดยเฉพาะการตั้งโต๊ะซื้อหุ้นคืนในราคาหุ้นละ 5 บาทพ่วงของแถมที่วอร์แรนต์ มันกระตุ้นให้นักเล่นเข้ามาไล่ราคาอย่างคึกคัก จนราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.40 บาท บวกไป 0.54 บาท หรือขึ้นไป 18.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.69 พันล้านบาทแบบนี้..ข้าน้อยขอซูฮกเจ้าค่ะ
โมนิก้า: และทีมงาน