ADVANC-TRUE เซฟตลาดหุ้น
การที่ดัชนีสามารถประคองตัวปิดที่ระดับ 1,363.25 จุด ลบไป 4.70 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.88 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นผลมาจากแรงซื้อที่พรั่งพรูเข้ามาในหุ้น ADVANC
การที่ดัชนีสามารถประคองตัวปิดที่ระดับ 1,363.25 จุด ลบไป 4.70 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.88 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นผลมาจากแรงซื้อที่พรั่งพรูเข้ามาในหุ้น ADVANC หลังตัวเลขกำไรในไตรมาส 1 โต 25% ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงกว่าคาดการณ์ ขณะเดียวกันก็มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้น TRUE เข้ามาเป็นระยะ หลังประเมินกันว่า ผลงานในไตรมาส 1 น่าจะกระเตื้องขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงช่วยหุ้นไทยไม่เละเทะไงล่ะคะ
สิ่งที่ทำให้ “โมนิก้า” สนใจรายแรกมากเป็นพิเศษอยู่ตรงรายได้จากการบริการพุ่งมาอยู่ที่ระดับ 4.28 หมื่นล้านบาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ระดับ 3.67 หมื่นล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจนอนวอยซ์กำลังอยู่ในช่วงเบ่งบาน และจะเป็นบันไดที่ทำให้รายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะโลกในยุคสื่อสารไร้พรมแดนมีการติดต่อกันมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังแอปพลิเคชันยอดนิยมต่าง ๆ กระตุ้นให้ผู้คนเข้ามาใช้งานมากขึ้นน่ะซี
ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้บรรดานักวิเคราะห์อัพราคาเป้าหมายใหม่เป็น 260 บาท ขณะที่ราคาปิดวานนี้อยู่แค่ระดับ 207 บาท บวกไป 9.50 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.43 พันล้านบาท จึงเชื่อได้อย่างบริสุทธิ์ใจว่า ราคาหุ้นยังมีแก๊ปให้วิ่งอีกเพียบ และกลายเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องโหนกระแสในทันที เพราะเป็นเวลานานพอสมควรที่ไม่ได้เห็นหุ้นตัวนี้มีอัพไซด์สูงขนาดนี้พะย่ะค่ะ
เช่นเดียวกับการทะยานขึ้นของรายหลัง ก่อนจะยินปิดในระดับ 8.05 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 4.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.04 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่มาในรูปแบบเดียวกัน แต่ต่างกันตรงที่เนื้อเรื่องของการขึ้นมาจากความคาดหวัง “เทิร์นอะราวด์” หลังกระบวนการควบรวมกับดีแทคเสร็จเป็นที่เรียบร้อย จึงกลายเป็นหุ้นต่ำสิบที่นักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ เข้ามาตะลุมบอนได้ไม่ยั้ง แถมเที่ยวนี้มีการให้ราคาเป้าหมาย 9 บาทเสียด้วย..เลยน่าสนใจสุด ๆ เจ้าค่ะ
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น INTUCH เพื่อชี้ให้เห็นผลดีจากการที่บริษัทลูก ADVANC ทำกำไรโตกระฉูด เพราะมันเป็นเรื่องที่ส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการจ่ายปันผลสูงขึ้น ซึ่งทำให้ราคาหุ้นที่เคยซึมเซาหงอยเหงาเป็นเวลานาน กลับเกิดอาการปึ๋งปั๋งขึ้นมาทันที ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 68.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 488 ล้านบาทนะตัวเอง
ในเมื่อตลาดหุ้นถูกขับเคลื่อนด้วยเรื่องผลงานไตรมาส 1 เป็นหลัก “โมนิก้า” ก็ต้องเอ่ยถึงหุ้นน้ำมะพร้าว COCOCO เพื่อชี้ให้เห็นการทะยานขึ้นมาทำไฮที่ระดับ 13.80 บาท ก่อนจะย่อตัวลงมาปิดเสมอตัวที่ระดับ 13.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 512 ล้านบาท ไม่ได้มาเล่น ๆ อย่างแน่นอน เพราะคุณพี่ “วรวัฒน์” เคยประกาศไว้ตั้งนานแล้วว่า กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะดีมานด์ฝั่งจีนมีค่อนข้างเยอะ จึงอนุมานกันว่า ผลงานจะออกมาบรรเจิดก็เท่านั้นเอง
คล้ายคลึงกับสถานการณ์ของหุ้น SAV แอบไต่เพดานขึ้นเรื่อย ๆ จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 19.90 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 5.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 302 ล้านบาท พร้อมกับขึ้นมายืนราคา IPO ที่ระดับ 19 บาทเป็นครั้งที่ 2 มันทำให้เชื่อว่า ครั้งนี้น่าจะแตกต่างจากครั้งที่แล้ว และมีลุ้นที่จะเห็นหุ้นไปต่อยาว ๆ เพราะสตอรี่ที่เอามาเล่นในช่วงนี้เป็นเรื่องของกำไรโต..ส่วนจะจริงหรือไม่ ก็ดูกันต่อไปจ้า!
ส่วนม้านอกสายตาอย่าง GABLE กันดีกว่า เพราะเมื่อดูจากประเด็นไมโครซอฟท์ทุ่มเงินลงทุนแสนล้าน เพื่อตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย และจะเริ่มเห็นการก่อสร้างที่เป็นรูปธรรมในช่วงปลายปี 67 แบบนี้ “โมนิก้า” เม้าท์ได้ทันทีว่า เจ้านี้เป็นเบอร์ต้น ๆ ในเรื่องให้บริการซอฟต์แวร์ แถมยังอยู่ในช่วงของการคั่วดีล เดี๊ยนเลยมองว่า การยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 5.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 13 ล้านบาท น่าสนใจไงล่ะคะ
คล้ายกับกรณีของ INSET ก็เป็นอีกหนึ่งเจ้าที่ได้รับอานิสงส์จากประเด็นข้างต้นเต็ม ๆ และดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในตัวเต็งของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเสียด้วย “โมนิก้า” ถึงมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 2.18 บาท บวกไป 0.19 บาท หรือขึ้นไป 9.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 52 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 18 เท่า มันกลายเป็นจังหวะที่น่าตามไปดูอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะองค์ประกอบหลายอย่างชี้ว่า รุ่งอรุณของความสดใสกำลังรออยู่..อิอิอิ
โมนิก้า: และทีมงาน