สังคมข่าวหุ้น

ต่างชาติกลับมาขายสุทธิอีก 2,204 ล้านบาท กดดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิดลบ 4.70 จุด มาที่ 1,363.25 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,883 ล้านบาท


ต่างชาติกลับมาขายสุทธิอีก 2,204 ล้านบาท กดดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิดลบ 4.70 จุด มาที่ 1,363.25 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,883 ล้านบาท การขายของต่างชาติไม่แน่ใจว่ามาจากการปรับพอร์ตหุ้น เซ็นทรัล รีเทล หรือ CRC หรือเปล่า เพราะล่าสุด โบรกฯ ปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2567 พร้อมกับราคาเป้าหมายลงมา ทำให้กองทุน (ใน และตปท.) ต้องทำการขายออก หรือปรับสัดส่วนการถือครองหุ้นลดลง เพื่อลดความเสี่ยง ส่วนแนวรับ CRC ที่ 31.75 บาท ถือว่ายังแข็ง หากมีการขายกันแบบสะเด็ดน้ำแล้ว ราคาน่าจะมาเล่นกันในกรอบ 31.00-33.00 บาท ส่วนวันนี้จะขึ้น XD ปันผล 0.50 บาท อาจจะกดราคาลงอีกได้

บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ADVANC ราคาดีดกลับอย่างแรง น่าจะมาจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันนั่นแหละ หลังจากแจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2567 ออกมากำไรสุทธิ 8.4 พันล้านบาท เพิ่ม 21% จากไตรมาสก่อน และ 25% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน แม้มี FX loss ซึ่งหากไม่นับจะโตแรงกว่านี้ ผลประกอบการสะท้อน Core operation แข็งแกร่งหลังรวมกิจการ TTTBB และ 3BBIF ผลขาดทุนจาก TTTBB ไม่เพียงมีแนวโน้มลดลง แต่บริษัทมีการควบคุมต้นทุนต่าง ๆ ได้ดีขึ้นด้วย สำหรับราคาหุ้น หากต่ำกว่า 200 บาท น่าสะสม แล้วไปขายทำกำไรบริเวณ 215-220 บาท

บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ CPF สัญญาณเทคนิคสวย ผ่านแนวต้านจิตวิทยาที่ 20.00 บาท ขึ้นมาได้ วานนี้ปิด 20.50 บาท มีแนวต้านถัดไป 21.00 บาท หากไม่ผ่าน อาจเกิดการพักตัว แนวรับ 20.00 บาท ส่วนในด้านของข้อมูลพื้นฐาน ราคาสินค้าเกษตรปรับดีขึ้น ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง ผู้บริหารเองก็คาดว่าราคาสุกรในประเทศจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี 2567 ตามความต้องการที่ฟื้นตัว และต้นทุนอาหารสัตว์ยังมีพื้นที่ที่จะปรับตัวลงในครึ่งหลังของปี 2567 จากแนวโน้มผลผลิตที่สูงขึ้น

บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (SPREME) เปิดเทรดวันแรก ปิดต่ำกว่าจอง ลงมาที่ 2.30 บาท จากราคาไอพีโอ 2.60 บาท หรือลดลง 11.54% วันนี้ต้องมาลุ้นกันว่า ราคาจะดีดกลับได้ไหม เพราะทางด้านโบรกฯ เอง เช่น บล.หยวนต้า คาดกำไรปกติปี 2567-2568 ที่ 188 ล้านบาท และ 214 ล้านบาท เติบโต 20% และ 14% ตามลำดับ หนุนจากการเข้าประมูลงานที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นและรับงานตรงเองมากขึ้น ประเมินมูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2567 ที่ 3.93 บาทต่อหุ้น อิง PER ที่ 15.5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม SI ที่อิงภาครัฐ แต่รองรับด้วยการเติบโต 20% ในปี 2567

กมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แจ้งว่า สินเชื่อบ้าน Happy Life ปี 2567 กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 คงที่เท่ากับ 1.95% ต่อปี, ปีที่ 2-3 คงที่เท่ากับ 3.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 2.98% เท่านั้น) และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการเท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี ล่าสุด (2 พ.ค.) มีลูกค้ายื่นขอสินเชื่อดังกล่าว 11,228 ล้านบาท เกินกรอบวงเงินที่กำหนด 10,000 ล้านบาท จึงปรับเพิ่มกรอบวงเงินสินเชื่อบ้าน Happy Life ปี 2567 อีก 10,000 ล้านบาท เป็น 20,000 ล้านบาท

มีข่าวความคืบหน้าการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ 43 แห่ง ธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) บอกว่า ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2567 เบิกจ่ายงบลงทุนถึงเดือน มี.ค. 2567 จำนวน 77,289 ล้านบาท คิดเป็น 113% ของแผนการเบิกจ่าย หรือ 32% ของกรอบวงเงินงบประมาณ จากแผนการเบิกจ่าย 68,117 ล้านบาท จากกรอบงบลงทุนทั้งปี 240,629 ล้านบาท รัฐวิสาหกิจที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่า 95% ของแผนการเบิกจ่ายและมีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับ คือ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เบิกจ่ายแล้ว 17,691 ล้านบาท การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) 12,137 ล้านบาท การประปานครหลวง (กปน.) เบิกจ่าย 7,685 ล้านบาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 6,406 ล้านบาท และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 5,255 ล้านบาท

คาเฟอีน

Back to top button