CK ตัวตึงหุ้นอสังหาฯ
ในที่สุดพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงินกว่า 3.48 ล้านล้านบาท ก็มีผลบังคับใช้เสียที หลังล่าช้ากว่า 8 เดือน
คุณค่าบริษัท
ในที่สุดพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงินกว่า 3.48 ล้านล้านบาท ก็มีผลบังคับใช้เสียที หลังล่าช้ากว่า 8 เดือน ซึ่งภาครัฐจะเร่งเบิกจ่ายงบดังกล่าว และงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่รอเปิดประมูลไม่ต่ำกว่า 300,000 ล้านบาท กลายเป็นความหวังที่ช่วยปลุกให้หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างกลับมาคึกคักอีกครั้ง หนึ่งในนั้นคือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของไทย
นอกจากมีเซนติเมนต์เชิงบวกจากปัจจัยดังกล่าวแล้ว CK ยังเป็นหุ้นรับเหมาฯ ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว จากการมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ในระดับสูง ปัจจุบันมีราว 1.3 แสนล้านบาท ประกอบกับมีบริษัทลูกช่วยหนุนผลประกอบการ ทั้งบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM, บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW และ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP
ส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวดปี 2566 เติบโตโดดเด่น มีรายได้รวม 37,907.04 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,500.98 ล้านบาท เป็นผลงานที่สูงกว่าในปี 2565 ซึ่งมีรายได้รวม 19,437.84 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,104.61 ล้านบาท และสูงกว่าผลงานของอสังหาฯ ค่ายอื่น
ขณะที่ นักวิเคราะห์ต่างมีมุมมองเชิงบวกต่อ CK โดยบล.ดาโอ มองบวกต่อแนวโน้มของ CK จาก 1)รายได้ธุรกิจก่อสร้างปี 2567 จะโตต่อเนื่อง โดยคาดขยายตัว 6% จากปีก่อน อยู่ที่ 3.9 หมื่นล้านบาท สูงในรอบ 8 ปี จาก Backlog ทรงตัวสูงที่ 1.3 แสนล้านบาท โดยงานสายสีม่วงใต้และทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ progress เร่งตัวมากขึ้น โดยเฉพาะสายสีม่วงใต้ที่จะเข้าสู่เฟสขุดเจาะอุโมงค์เต็ม capacity ในปีนี้ ขณะที่งานหลวงพระบางยัง progress ได้เร็วกว่าแผน
2)เตรียมเข้าประมูลงานทางพิเศษฉลองรัช ช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา ระยะทาง 16.2 กิโลเมตร ในเดือน เม.ย. 2567 ซึ่งเป็นงานที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ เบื้องต้นหากได้งาน ประเมินจะเป็น upside ราคาเป้าหมายราว 0.3 บาท/หุ้น และ 3)สถานะทางการเงินยังดี โดยประเมิน net D/E ปี 2567 ยังอยู่ที่เพียง 1.7 เท่า
ทั้งนี้ คงกำไรปกติปี 2567 ที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน สำหรับไตรมาส 1/2567 เบื้องต้นประเมินกำไรปกติจะอ่อนตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น และชะลอจากไตรมาสก่อน หลัก ๆ จากโลว์ซีซั่นของ CKP
สอดคล้องกับมุมมองของบล.พาย มองว่าผลประกอบการในปี 2567 ของ CK จะเป็นปีที่ดีทั้งในส่วนของธุรกิจก่อสร้างที่มีงานในมือกว่า 130,000 ล้านบาท ทำให้ยังรักษารายได้ 36,000 ล้านบาทได้ต่อ รวมถึงผลดีจากส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมทั้ง BEM ที่เติบโตตามภาคการท่องเที่ยว และ CKP ที่คาดว่าปีนี้จะไม่แล้งเท่าปี 2566
ขณะที่การเปิดประมูลงานใหม่ของภาครัฐจะเป็นปัจจัยบวกในอนาคตสำหรับการรักษารายได้จากธุรกิจก่อสร้างให้เติบโตได้
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น CK ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 24.94 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 17.92 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 1.47 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.32 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 27.22 บาท จากราคาต่ำสุด 26 บาท และราคาสูงสุด 30.50 บาท