ขายของเก่ากินแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ราคาหุ้นบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT ดีดแรงจากฐาน 2 วันติดต่อกัน 17.5% หรือ 1.40 บาท จากราคาปิดเมื่อวันอังคารกว่า 8.00 บาท มาปิดเมื่อวานนี้ที่ระดับ 9.40 บาท (ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 10.94 บาท) หลังจากโรยตัวมายาวนานเกือบ 3 ปีจากระดับเหนือ 50 บาท


ราคาหุ้นบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT ดีดแรงจากฐาน 2 วันติดต่อกัน 17.5% หรือ 1.40 บาท จากราคาปิดเมื่อวันอังคารกว่า 8.00 บาท มาปิดเมื่อวานนี้ที่ระดับ 9.40 บาท (ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 10.94 บาท) หลังจากโรยตัวมายาวนานเกือบ 3 ปีจากระดับเหนือ 50 บาท

ราคาหุ้นที่กลับตัวผงกหัวขึ้นครั้งแรกนี้ จะเป็นแค่ “แมวตายเด้ง” หรือ การหลุดจากจุดต่ำสุดที่ก้นเหว เป็นคำถามใหญ่

สิ่งที่ต้องยอมรับกันคือ ราคาหุ้น MCOT ทะยานครั้งนี้ โยงใยเข้ากับแผนธุรกิจของรัฐวิสาหกิจทางด้านสื่อแห่งนี้โดยตรง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนปัจจุบัน นาย ศิวะพร ชมสุวรรณ

แผนธุรกิจที่ว่า ไม่ไช่เพราะบอร์ดหรือผู้บริหารระดับสูงของ MCOT มีวิสัยทัศน์และนวัตกรรมสร้างรายได้จากการดำเนินงานปกติให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง่ในวงการสื่ออื่นๆ แต่เป็นเพราะมีข่าวแทรกเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจคือ

1)มีความคืบหน้าการเจรจาคืนคลื่นฯ 2600 MHz ซึ่งทำให้มีความคาดหวังว่า MCOT จะได้รับเงินชดเชยระดับกว่าพันล้านบาท

2)ความคาดหวังต่อกำไรจากการขายที่ดิน 50 ไร่ (มูลค่า 2 พันล้านบาท) ที่ผู้บริหารระบุว่าจะขายในปีนี้

ทั้งสองรายการดังกล่าว เป็นขุมทรัพย์ที่หมกเอาไว้มายาวนานโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดมายาวนาน แม้จะผ่านผู้บริหารมาคนแล้วคนเล่า

คลื่นโทรคมนาคม 2600 MHz นั้น  MCOT นอนกอดมายาวนานหลายทศวรรษในจำนวนที่ค่อนข้างมากถึง  144 MHz โดยใช้เฉพาะกิจการภายในมาเงียบเชียบ คนภายนอกไม่เคยล่วงรู้เลยว่านี่คือของดี…ที่สำคัญ คนภายในบางคนก็ไม่รู้เช่นกัน 3)…ผลลัพธ์คือ มีคลื่นว่างเปล่าๆ ปลี้ๆ ไม่ใช้ประโยชน์มากถึง  60 MHz

เพิ่งจะมี กสทช. นี่แหละที่สำรวจตรวจตราคลื่นในสงกัดหน่วยงานรัฐต่างๆ แล้วมาพบเข้า ต้องการแบ่งเอาไปทำคลื่นมือถือ 4G เพื่อหารายได้ เพราะว่า กสทช.ต้องการคลื่นเพื่อนำมาให้บริการประมาณ 690 MHz แต่ปัจจุบันคลื่นถูกใช้งานอยู่เพียง 250 MHz เท่านั้น

ตอนแรก MCOT เกี่ยงด้วยเงื่อนไข 2 ข้อคือ 1.เมื่อคืนคลื่นให้ กสทช.จะต้องมีการชดเชยและเยียวยาให้บริษัท           และ 2.บริษัทจะคืนคลื่นให้บางส่วน จากปัจจุบัน

ข้อแรกนั้น เดิมทีเดียว MCOT ต้องการเงินชดเชยประมาณ 100 ล้าน สำหรับการคืนคลื่นไม่ได้ใช้ให้กับ กสทช…..แต่ทำไปทำมาเมื่อเห็นตัวเลขการประมูลคลื่น 4G มากกว่า 2 แสนล้านที่ผ่านมา…ตัวเลขก็เลยบานปลายเป็น มากกว่า 1 พันล้านอย่างช่วยไม่ได้

คนสวยเลือกได้อย่างนี้…ทำให้มูลค่าทรัพย์สินของ MCOT พุ่งขึ้นง่ายดาย…แม้ยังไม่ได้ข้อตกลงอะไร

ส่วนเรื่องหลังนั้น มีคนเคยเห็นมาแล้ว คือ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ที่ตาไว สมองเยี่ยม  มองเห็นที่ดินติดถนนรัชดาภิเษก 50 ไร่ เป็น “ทำเลทอง” มาตั้งแต่ปี 2548 แล้ว และเคยดำริจะสร้างเป็น เรียล เอสเตท คอมเพล็กซ์ ขนาดใหญ่ ใจกลางเมืองที่ลงทุนร่วมกันเอกชน …แต่น่าเสียดายได้แค่คิด เพราะมิ่งขวัญหลุดจากเก้าอี้กะทันหัน หลังการรัฐประหาร ของ คมช. ปลายปี 2549

คราวนี้ นายพลชัย  วินิจฉัยกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ MCOT ออกมาพูดเอง  โดยกล่าวว่า  ในปีนี้

บริษัทมองอุตสาหกรรมทีวีในไทย น่าจะคงมีการแข่งขันสูง และจะเป็นปีที่ต้องจับตาดูอีกว่า จะมีธุรกิจรายใดอยู่รอด หรือไปไม่รอดแล้ว เนื่องด้วยปัจจัยต้นทุนที่ยังคงมีเท่าเดิม แต่การหารายได้ยากขึ้น ส่งผลกระทบมาก  “ธุรกิจสื่อโดยรวมปีนี้อาจจะไปไม่รอดแล้ว เพราะการแข่งขันสูง เราก็มีวิธีดำเนินธุรกิจในรูปแบบอื่น….”

อย่างอื่นที่ว่าคือ ขายที่ดิน จำนวน 50 ไร่ ติดถนนรัชดาภิเษก บริเวณศูนย์วัฒนธรรมด้วยวิธีการประมูล ให้กับนักลงทุน โดยคาดว่าจะได้มูลค่าขั้นต่ำ 1,500 ล้านบาท

วิสัยทัศน์ในการ “ขายของเก่ากิน” ดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้ราคาหุ้นวิ่งกระโดดตามข่าวอย่างวิ่งไว โดยไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นจริงและเกิดขึ้นได้หรือไม่

ช่วยไม่ได้…กำไรจากผลประกอบการมันย่ำแย่นัก ถดถอยหนักทุกปี ….จากปี 2555 ที่เคยกำไร 1,758.87 ล้านบาท มาเหลือเพียงแค่ 9 เดือนแรกของปีนี้ เหลือแค่ 129.39 ล้านบาท และคาดกันว่า ไตรมาส 4 ของปี 2558 จะกำไรสุทธิต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 6 ล้านบาทเท่านั้น…นักวิเคราะห์พากันปรับลดราคาเป้าหมายลงอุตลุด เพราะกำไรปกติไม่ฟื้นตัวและไม่มีรายการพิเศษเข้ามาช่วยเหมือนไตรมาสก่อนๆ

ไม่ขายของเก่ากิน จะให้ขายของใหม่ มันไม่เวิร์กนี่นา!!!

Back to top button