AI for Road Safety กับนวัตกรรมเปลี่ยนโลก
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา AI หรือ “ปัญญาประดิษฐ์” กลายเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วและถูกนำมาประยุกต์ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในวงกว้าง
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา AI (Artificial Intelligence) หรือ “ปัญญาประดิษฐ์” กลายเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วและถูกนำมาประยุกต์ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในวงกว้าง มีบทบาทสำคัญและส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงหลากหลายมิติ มีการเปิดตัวเทคโนโลยี AI ใหม่ ๆ มากมาย แต่ละตัวล้วนมีความสามารถและจุดเด่นที่แตกต่างกัน อาทิ ChatGPT ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นโดย OpenAI โดยใช้โมเดล GPT (Generative Pre-trained Transformer) เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ได้รับการฝึกฝนด้วยข้อมูลและโค้ดจำนวนมาก
ทำให้สามารถสนทนากับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติและตอบคำถามได้อย่างสร้างสรรค์ (Midjourney) และ AI ได้ถูกแทรกซึมในชีวิตประจําวันอย่างแทบไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็น Google Map ระบบให้บริการนำทาง และข้อมูลที่เกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ Siri, Voice Search ล้วนต้องใช้เทคโนโลยี AI ทั้งสิ้น
นั่นจึงทำให้ AI กลายเป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกอนาคต โดยข้อมูลจาก Bloomberg Intelligence ประเมินว่า Generative AI จะมีมูลค่าตลาดมากถึง 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2575 และช่วยกระตุ้นยอดขายกลุ่มเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์, บริการ, โฆษณาและเกมต่าง ๆ ที่จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 42% ต่อปี
หนึ่งในบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ไทย นั่นคือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC บริษัทชั้นนำด้านธุรกิจปิโตรเคมี มีการหยิบฉวยเทคโนโลยี AI มาใช้บริหารจัดการเรื่องความปลอดภัยในการทำงานอย่างน่าสนใจ
โดยช่วงปี 2561 ที่ผ่านมา PTTGC ร่วมมือกับ Frontis และ Microsoft เปิดตัวโครงการ AI for Road Safety นำนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อนำมาวิเคราะห์ภาพวิดีโอและข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อป้องกันผู้ขับรถหลับในและตรวจสอบพฤติกรรมการขับรถของคนขับ ส่งเสริมความปลอดภัยในการเดินทาง และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการระบบขนส่งภายในองค์กร
จากข้อมูลปี 2560 พบว่า ประเทศไทย มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก และจังหวัดระยอง ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 5 จังหวัดที่มีอุบัติเหตุทางรถยนต์เกิดขึ้นมากสุดของไทย โดยกว่า 60% ของอุบัติเหตุจากการขนส่งสาธารณะ มีสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการขับเร็วเกินกำหนด และการง่วงนอนของผู้ขับรถ ที่ถือเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้
นั่นจึงเป็นสารตั้งต้น ทำให้ PTTGC จึงร่วมมือกับ Frontis บริษัทที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์และการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในองค์กร และ Microsoft ผู้นำด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลก ที่ตระหนักถึงปัญหาและนำนวัตกรรม AI มาปรับใช้ ด้วยการพัฒนาระบบเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน ภายใต้โครงการ AI for Road Safety นั่นเอง
โดยระบบ AI ในโครงการ AI for Road Safety ดังกล่าว สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ขับรถเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ที่แบ่งระบบการทำงานเป็น 4 ขั้นตอน
1) ติดตามพฤติกรรมการขับรถ เพื่อตรวจจับความง่วง การเสียสมาธิ ความเร็วและตำแหน่งของรถยนต์
2) รับส่งข้อมูลและแสดงผล โดยโปรแกรมจะรับส่งข้อมูลผ่านคลาวด์ (Cloud) จากนั้นวิเคราะห์และประมวลผลด้วย AI
3) ส่งสัญญาณแจ้งเตือนผู้ขับและผู้จัดการระบบขนส่ง เมื่อตรวจพบค่าความเสี่ยงถึงระดับที่ต้องแจ้งเตือน ระบบจะส่งสัญญาณเสียงให้ผู้ขับและผู้จัดการรับทราบ เพื่อแจ้งเตือนก่อนอุบัติเหตุจะเกิดขึ้น
4) แสดงผลรายงานด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ขับ หาสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ และเส้นทางการเดินทางของรถ โดยแสดงผลผ่าน Fleet Management Dashboard ไปยังผู้จัดการระบบขนส่ง
นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งในหลายบริษัทของไทย ที่นำเทคโนโลยี AI มาใช้กับบริบทว่าด้วยเรื่อง “ความปลอดภัย” แต่อีกหลายบริษัททั่วโลกกำลังมีการนำ AI มาใช้ด้วยเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป
เพราะนี้คือ “นวัตกรรมเปลี่ยนโลก” ที่มิอาจมองข้ามได้เลยทีเดียว..!!??
สุภชัย ปกป้อง