ให้ตายเถอะ..ROBINS

ถ้าพิจารณาถึงความได้เปรียบของหุ้น ROBINS อาจารย์ให้ความสำคัญไปที่ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน มีทิศทางการขยายตัวมากเพียงใด? หรือสามารถประคับประคองผลกำไรได้ดีขนาดไหน? หรือแม้กระทั่งทิศทางการอ่อนตัวของกำไรเป็นแบบไหน?


สภาแมงเม่า: ดร.สมชาย

 

คุณจรัญ จากบางนา กรุงเทพฯ พูดถึงการขยายธุรกิจของหุ้น ROBINS หรือบริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในความคิดของตัวเองว่า หุ้นตัวนี้เติบโตจากการขยายสาขาได้อีกมาก แต่ไม่รู้คนไปเดินห้างที่ต่างจังหวัดมีกำลังซื้อมากน้อยแค่ไหน เพราะ ROBINS เน้นรุกขยายสาขาต่างจังหวัดตามหัวเมืองรอง ที่ยังไม่มีคู่แข่งมาก ซึ่งต่างจาก CPN หรือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ที่รายได้หลักมามาจากค่าเช่าพื้นที่เป็นหลัก และค่อนข้างแน่ใจได้เลยว่า พื้นที่เช่าจะเต็มเกิน 80-90 เปอร์เซนต์ทุกห้างที่เปิดใหม่ ถ้าต่อไป TREND ของการรุกตลาดมาทรงนี้  มาจริง ทุกจังหวัดคงเห็นการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง ห้างโรบินสัน ห้างบิ๊กซี ห้างโลตัส แต่ดูเหมือนสภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยจะเป็นใจ ผมถึงสงสัยว่า ROBINS จะรับมือไหวหรือเปล่า?

 

ถ้าพิจารณาถึงความได้เปรียบของหุ้น ROBINS หรือ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) อาจารย์ให้ความสำคัญไปที่ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน มีทิศทางการขยายตัวมากเพียงใด? หรือสามารถประคับประคองผลกำไรได้ดีขนาดไหน?  หรือแม้กระทั่งทิศทางการอ่อนตัวของกำไรเป็นแบบไหน?

ข้อมูลเหล่านี้เป็นตัวแปรที่บอกให้รู้ว่า การเข้าลงทุนในหุ้นตัวนี้มีความเสี่ยงขนาดไหน? รวมทั้งยังบอกให้รู้ว่า ตรงจุดที่ลงทุน ณ เวลานี้ ผลตอบแทนที่ได้รับจะอยู่ในระดับไหน?

ด้วยเหตุผลดังกล่าวถึงต้องกลับไปที่ตัวเลขผลประกอบการเป็นลำดับแรก และดูเหมือนว่า สถานการณ์ของการทำธุรกิจก็ยังดีอยู่เหมือนเดิม ตัวเลขกำไรถึงอยู่ในระดับทรงตัวมากกว่าทรุดตัว (ดูตารางประกอบ)

 

  ปี 55 ปี 56 ปี 57 งวด 9 เดือนปี 58
รายได้รวม 23,906.55 26,754.32 27,018.14 20,778.22
กำไรสุทธิ 2,063.22 1,985.71 1,927.49 1,451.90
กำไรต่อหุ้น (บาท) 1.86 1.79 1.74 1.31

(หน่วย: ล้านบาท)

 

นอกจากนี้ถ้าดูจากค่า P/E ที่ระดับ 22.50 เท่า และค่า P/BV ที่ระดับ 3.65 เท่า พร้อมกับเลยไปดูมูลค่าทางบัญชีของหุ้นที่ระดับ 11.45 บาท ย่อมทำให้เห็นว่า ราคาหุ้นที่บริเวณ 40 บาทอาจสูงเกินไปนิดหน่อย แต่ยังเป็นระดับที่สามารถทยอยซื้อสะสมได้ หลังหุ้นลงมาย่ำฐานพักใหญ่ๆ นั่นเอง

ฉะนั้นข้อกังวลที่ว่า สภาพเศรษฐกิจจะเป็นตัวฉุดให้ผลประกอบการแย่ลงนั้น ย่อมเป็นตัวแปรที่ส่งผลโดยตรงกับงบการเงินในปี 58 แต่ถึงกระนั้นอาจารย์ยังเชื่อว่า กลุ่มผู้บริหารจะรับมือกับเรื่องดังกล่าวได้อย่างแน่นอน เพราะเท่าที่ดูจากผลประกอบการในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ไม่มีอะไรต้องกังวลใจนะครับ

อีกทั้งการแข่งขันของห้างต่างๆ ที่กล่าวถึงข้างต้นก็เป็นคนละเซ็กเม้นท์ จึงไม่มีนัยสำคัญอะไรเลย!

 

ROBINS20160115

กราฟประกอบคอลัมน์: Aspen, ราคาปิด ณ วันที่ 15 ม.ค.59

Back to top button