IFS-SUSCO ฝ่าทะเลเดือด.!

ช่วงที่ทุกคนใจจดใจจ่ออยู่กับกำไรบจ.ไตรมาส 1/2567 มีดีลหนึ่งที่ถูกมองข้ามไป นั่นคือ ดีลเกี่ยวก้อยเป็นพันธมิตรกันระหว่าง IFS กับ SUSCO


ช่วงที่ทุกคนใจจดใจจ่ออยู่กับกำไรบจ.ไตรมาส 1/2567 มีดีลหนึ่งที่ถูกมองข้ามไป นั่นคือ ดีลเกี่ยวก้อยเป็นพันธมิตรกันระหว่างบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IFS ซึ่งทำธุรกิจไฟแนนซ์ กับบริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO ทำธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน ผ่านปั๊ม “ซัสโก้”

โดยทั้งสองบริษัทได้ร่วมทุนกันจัดตั้งกิจการร่วมค้าที่ชื่อ บริษัท บียอนด์ ลีสซิ่ง จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อในรูปแบบของสัญญาเช่าดำเนินงาน สัญญาเช่าเงินทุน สัญญาเช่าซื้อ และบริการทางการเงินที่เกี่ยวข้อง มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท สัดส่วนการถือหุ้น แบ่งเป็น IFS ถือหุ้น 49% ส่วน SUSCO ถือหุ้น 51%

ดีลนี้น่าสนใจ เพราะเป็นโอกาสของทั้งคู่…ในมุมของ IFS อันดับแรก เป็นการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ ๆ จากฐานลูกค้าของ SUSCO

ถัดมาเป็นการขยายพอร์ตสินเชื่อไปยังสินเชื่อลีสซิ่ง โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (มาจากฐานลูกค้าของ SUSCO)

ขณะเดียวกัน สามารถต่อยอดสินเชื่อลีสซิ่งไปสู่สินเชื่อหลักของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อแฟคเตอริ่ง สินเชื่อเช่าซื้อ และอื่น ๆ เกิดเป็นซัพพลายเชนไฟแนนซิ่งภายในระบบนิเวศเดียวกัน

ส่วนในมุม SUSCO แน่นอนว่าเป็นการเติมพอร์ตนอนออยล์…ด้วยข้อจำกัด SUSCO ซึ่งมีจำนวนปั๊มไม่เยอะ การจะไปสู้ในสมรภูมิค้าปลีก ก็อาจเสียเปรียบคู่แข่ง ก็เลยหันมาเอาดีด้านบริการทางการเงินดีกว่า โดยนำฐานข้อมูลของลูกค้าที่มีอยู่ในมือมาสร้างมูลค่าเพิ่ม

แต่ครั้น SUSCO จะบินเดี่ยว…ทำเองคนเดียว ก็ไม่มีโนวฮาว ไม่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการเงิน เลยอาศัยสรรพกำลังของ IFS ซึ่งอยู่ในธุรกิจการเงินมายาวนานกว่า 30 ปี เป็นคนรันธุรกิจ

ถ้าตรงนี้ซัคเซส ก็จะเป็นตัวเสริมรายได้อีกทางของ SUSCO…!!

โอเค…ก็เป็นดีลที่น่าสนใจแหละ เป็นการนำจุดแข็งมาเสริมการเติบโตของกันและกัน..!!

และเป็นการตอกย้ำว่า ทำธุรกิจในยุคนี้บินเดี่ยวไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ต้องบินคู่หรือบินเป็นฝูง…มีเพื่อนช่วยคิดช่วยทำธุรกิจถึงจะแข่งขันในตลาดได้

ก็ตรงกับสำนวนไทยที่ว่า คนเดียวหัวหาย…สองคนเพื่อนตายนั่นแหละ…

แต่โจทย์ท้าทายของ IFS กับ SUSCO…แม้ตลาดสินเชื่อเป็นเค้กก้อนใหญ่ มูลค่าหลายแสนล้านบาทก็จริง แต่ต้องไม่ลืมว่า เค้กก้อนนี้มีตัวหารเยอะมว๊ากกก อย่างแบงก์รัฐเฉพาะกิจก็ทำ ส่วนแบงก์พาณิชย์ไม่ต้องพูดถึง ทำหมดทุกแบงก์ ด้านนอนแบงก์ก็เยอะ ไม่นับรวมบรรดาห้องแถวรายเล็กรายน้อยอีกเป็นเบือ…ซึ่งแต่ละค่ายต่างก็งัดโปรโมชั่นเด็ดมาล่อใจ และใช้ดาต้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มกันอย่างเต็มที่…

งานนี้ IFS กับ SUSCO ก็ไม่ต่างจากจับมือกันฝ่าทะเลเดือดน่ะสิ..!?

ก็น่าติดตามว่า การฝ่าทะเลเดือดครั้งนี้ IFS กับ SUSCO จะงัดไม้เด็ดอะไรมาสู้..?? ชักอยากรู้แล้วสิ

เพราะถ้าปัง น่าจะทำให้หุ้น IFS กับ SUSCO เปล่งรัศมีเข้าตานักลงทุนมากขึ้น…แต่ถ้าแป้ก ตัวใครตัวมันละกัน

อ้อ…ยังไง IFS กับ SUSCO ก็มีดีตรงที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลค่อนข้างสูง ดิวิเดนด์ยีลด์เฉลี่ยอยู่ที่ 5-6% ต่อปีเชียวหนา อย่าง IFS ล่าสูดยีลด์อยู่ที่ 6.61% ฟาก SUSCO ยีลด์ปาไป 10.26%

งั้นจะมีติดพอร์ตไว้ก็ไม่เสียหาย….อย่างน้อย ๆ ก็ดีกว่าเอาเงินไปฝากแบงก์แหละน่า..

หรือใครจะเถียง..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button