TACC โตควบคู่เซเว่นฯ
ยังทำผลงานได้โดดเด่น สำหรับ TACC ดำเนินธุรกิจจัดหา ผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟ
คุณค่าบริษัท
ยังทำผลงานได้โดดเด่น สำหรับ บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ดำเนินธุรกิจจัดหา ผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟ อาทิ เครื่องดื่มในโถกดในร้าน 7-Eleven, เครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผงที่จัดจำหน่ายให้กับร้าน All Cafe ในร้าน 7-Eleven, เครื่องกดเครื่องดื่มร้อนแบบอัตโนมัติ และธุรกิจคาแร็คเตอร์ ซึ่งรายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิ 60.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.67% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 42.32 ล้านบาท และมีรายได้รวม 457.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.54% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 397.90 ล้านบาท
ผลงานดังกล่าว มาจากการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 452.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.87% เนื่องจากยอดขายของสินค้าโถกดและ All Cafe ในร้าน 7-Eleven เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่ร้อน การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว และโครงการ E-Receipt ในช่วงต้นปี
ประกอบกับยอดขายของกลุ่มลูกค้าในประเทศเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาและลูกค้าใหม่ รวมทั้งยอดขายในประเทศกัมพูชาเพิ่มขึ้นจากจำนวนสาขาของ 7-Eleven ที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว
ที่เห็นผลงานในไตรมาส 1/2567 โตแล้ว ถูกมองว่าในไตรมาส 2/2567 จะโตมากขึ้นอีก โดยบล.กรุงศรี ระบุว่า สำหรับโมเมนตัมในไตรมาส 2/2567 คาดโตต่อเนื่อง รับอานิสงส์อากาศร้อนมากและร้อนนานกว่าปกติ และเป็นไฮซีซั่นของกลุ่มเครื่องดื่ม โดยมีโอกาสปรับประมาณกำไรทั้งปี 2567 เพิ่มขึ้น หากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 ดีต่อเนื่องตามคาด ทั้งนี้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน
สอดคล้องกับมุมมองของ บล.พาย ระบุว่า ช่วงไตรมาส 2/2567 ยังคงเห็นการเติบโตต่อเนื่อง เพราะเข้าสู่ฤดูร้อน ขณะที่การเปิดสาขาใหม่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงร้านค้าอื่นที่ TACC มีการขายสินค้าให้ เช่น ร้านกาแฟพันธุ์ไทย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ยังคงประเมินรายได้ในปี 2567 เติบโต 11% มาอยู่ที่ 1,894 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 237 ล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อน
ด้านผู้บริหาร TACC มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 จะเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,727 ล้านบาท และในปีนี้ถือเป็น “ปีแห่งการสร้างฐานของ New Growth” จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่ม Health and Wellness ผ่านบริษัท เฮลธ์ อินสไปร์ด แพลนเนต จำกัด (HIP)
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น TACC ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 13.01 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 17.91 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาด อย่างไรก็ตามถ้าไปดู P/BV ที่ระดับ 3.79 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.29 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 6.86 บาท จากราคาต่ำสุด 6.30 บาท และราคาสูงสุด 7.20 บาท