BKI ธุรกิจประกันตันแล้ว.?
ว่าไปแล้ว ความเคลื่อนไหวของหุ้นประกัน BKI ของ “โสภณพนิช” กับกรณีหุ้นไฟแนนซ์อย่าง TIDLOR ของแบงก์กรุงศรี มีความเหมือนในความต่างนะจิบอกให้..!?
ว่าไปแล้ว ความเคลื่อนไหวของหุ้นประกัน บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI ของ “กลุ่มโสภณพนิช” กับกรณีหุ้นไฟแนนซ์อย่างบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ของแบงก์กรุงศรี มีความเหมือนในความต่างนะจิบอกให้..!?
ที่ว่าเหมือนกันคือ เตรียมจะอัพสถานะขึ้นเป็น “โฮลดิ้งคอมพานี” ด้วยกันทั้งคู่..!! เป้าหมายเพื่อปลดล็อกข้อจำกัดในการเติบโต…ให้สามารถไปลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ที่หลากหลายได้มากขึ้น
ซึ่งโมเดลของการขึ้นเป็นโฮลดิ้งคอมพานีของทั้งคู่ มีลักษณะคล้ายคลึงกัน อาจจะต่างกันบ้างในแง่ของไส้ใน…อย่างกรณี TIDLOR จะจัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า บริษัท ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “ติดล้อ โฮลดิ้งส์” ขึ้นมา เพื่อไปถือหุ้นในบริษัทอื่น
กระบวนการเริ่มจาก “ติดล้อ โฮลดิ้งส์” จะตั้งโต๊ะเทนเดอร์ฯ หุ้น TIDLOR จากผู้ถือหุ้นรายอื่น จากนั้นก็จะเพิกถอนหุ้น TIDLOR ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วเอา “ติดล้อ โฮลดิ้งส์” เข้าตลาดแทน…โดยผู้ถือหุ้น TIDLOR ที่เห็นดีเห็นงาม ก็จะเปลี่ยนมาถือหุ้น “ติดล้อ โฮลดิ้งส์” แทน จากการใช้วิธีสวอปหุ้น หรือแลกหุ้น TIDLOR กับหุ้น “ติดล้อ โฮลดิ้งส์” ในสัดส่วน 1 ต่อ 1
ฟาก BKI ก็จะจัดตั้งบริษัทที่ชื่อ บริษัท บีเคไอ โฮลดิงส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH ขึ้นมา เพื่อไปลงทุนในธุรกิจอื่นเช่นกัน โดย BKIH จะตั้งโต๊ะเทนเดอร์ฯ หุ้นทั้งหมดของ BKI แล้วใช้วิธีสวอปหุ้น BKI กับหุ้น BKIH ในสัดส่วน 1 ต่อ 1 จากนั้นก็จะเพิกถอนหุ้น BKI ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วเอา BKIH เข้าตลาดแทนเช่นกัน
ทว่าสิ่งที่ทั้งคู่ต่างกันอย่างชัดเจน….อย่างตัวของ TIDLOR ซึ่งพื้นเพเดิมโตมาจากธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ มีเป้าหมายใหม่ที่ต้องพุ่งชนเป็นธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย โดยเฉพาะ InsurTech ให้มากขึ้น ในขณะที่ BKI ซึ่งอยู่กับธุรกิจประกันวินาศภัยมาทั้งชีวิต กำลังตระเตรียมที่จะออกไปแสวงหาน่านน้ำใหม่
เท่ากับว่างานนี้คนใน (BKI) อยากออก…คนนอก (TIDLOR) อยากเข้าน่ะสิ..!!
แต่เห็น BKI เตรียมแปลงร่างขึ้นสู่โฮลดิ้งอย่างนี้ อดมีคำถามตามมาไม่ได้ว่า ธุรกิจประกันวินาศภัยถึงทางตันแล้วหรือเปล่า…?? ก็ขนาดคนในอย่าง BKI ยังต้องหนีไปลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ เลยนะ..??
โอเค…แม้ BKI จะนั่งยันนอนยันว่าไม่ได้ทิ้งธุรกิจประกันภัยนะ หลังจากขึ้นสู่โฮลดิ้งแล้ว ยังคงทำธุรกิจประกันวินาศภัยเหมือนเดิม…
แต่ BKI ก็ยอมรับโดยดุษณีว่า “ด้วยบริบทของธุรกิจทางการเงินในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ธุรกิจประกันวินาศภัยแบบดั้งเดิมจึงมีข้อจำกัดในการแข่งขัน ความคล่องตัวในการดำเนินกิจการ และการขยายธุรกิจ อีกทั้งการที่บริษัทถูกครอบด้วยกฎเกณฑ์ของสำนักงานคปภ. ทำให้มีข้อจำกัดในการลงทุนหรือการถือหุ้นในธุรกิจอื่น รวมถึงตราสารทุนต่าง ๆ”
แหม๊…อดเป็นห่วงคนนอกอย่าง TIDLOR ที่เตรียมจะรุกธุรกิจประกันวินาศภัยให้มากขึ้นไม่ได้ แม้จะเป็นแค่นายหน้าขายประกันภัยฯ ก็เถอะ..!?
ที่น่าสนใจ หลังจาก BKI ขึ้นสู่โฮลดิ้งแล้ว ก็จะมีความคล่องตัวในการเข้าไปลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากธุรกิจประกันภัย รวมทั้งเปิดโอกาสให้พันธมิตรทางธุรกิจสามารถเข้ามาร่วมลงทุนได้ด้วย ก็ถือเป็นเรื่องดีนะ ส่วนถ้าถามว่าจะทำให้ผลประกอบการของ BKI ปังปุริเย่หรือเปล่า..?? อันนี้คงต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ที่แน่ ๆ ตอนนี้เตรียมนับถอยหลังหุ้น BKI…และต้อนรับการกลับมาภายใต้ชื่อใหม่ BKIH เร็ว ๆ นี้ค่าคุ๊ณณณ
…อิ อิ อิ…