ภาพเดิมที่คุ้นเคย!

วานนี้บรรยากาศตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแบบเดิม ๆ เหมือนในช่วงสองสัปดาห์หลังมานี้ คือเปิดตลาดภาคเช้าสามารถบวกได้แต่แค่แป๊บเดียว หลังจากนั้นค่อย ๆ ไหลลงมาแกว่งตัวในแดนลบจนปิดตลาด!!! เป็นเพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน พร้อมยังคงมีปัจจัยการเมือง Overhang ทำให้อัพไซด์จำกัด ดังนั้นโมนิก้าไม่แปลกใจเลยว่า เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นไปทำให้มีแรงขายออกมา โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่เป็นตัวหลักที่กดดันอยู่ในขณะนี้ค่ะ

ทั้งนี้เมื่อวานดัชนีลงมาปิดที่ระดับ 1,328.41 จุด ลบไป 9.91 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.55 หมื่นล้านบาท ถือว่าหลุดแนวรับ 1,330 จุด ที่ฝ่ายนักวิเคราะห์ประเมินไว้นั้น…ถือว่าไม่ดีเอาเสียเลย สิ่งที่ตามมาคืออาจทำให้นักลงทุนเกิดอาการตื่นตระหนกและวิตกไปกันใหญ่ ดังนั้นโมนิก้าในนามตัวแทนกระบอกเสียงแห่งตลาดทุน ว่าควรถือเงินสดไว้ครึ่งหนึ่งของพอร์ตการลงทุนไว้ก่อน เพื่อรอทุกอย่างให้มันเซตใหม่ไปก่อนเพคะ

สำหรับตัวเลือกหุ้นที่น่าลงทุนได้ขณะนี้ HANA ถูกวนกลับเข้ามาเก็งกำไรอีกครั้ง จนทำให้ราคาหุ้นดีดขึ้นมาปิดที่ระดับ 41.75 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.26 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองยังเป็นของแทร่!!! ด้วยไตรมาส 2/2567 ทางนักวิเคราะห์ประเมินว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2567 จากปัจจัยหนุนช่วงฤดูกาล โดยแรงขับเคลื่อนหลักผลิตภัณฑ์ SIC ซึ่งอิงอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีสัญญาณฟื้นตัวนั้นเองเจ้าค่ะ

เหมือนกับในรายของ KCE ราคาเด้งขึ้นเช่นกันมาปิดที่ระดับ 41.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 788 ล้านบาท ดังนั้นเดี๊ยนมองว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วค่ะ!!! และจับตาในช่วงที่เหลือของปีนี้ให้ดีมั่นใจว่าจะฟื้นตัวเร่งขึ้นเป็นแน่ จากคำสั่งซื้อกลับมาปกติ…ผสานกับกระบวนการปรับปรุงประสิทธิภาพภายในหนุนมาร์จิ้นให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้น้องโมหวังว่าจะได้เห็นราคาหุ้นไปทดสอบเป้าหมายที่ 45 บาทได้ไม่อยากเพคะ

ขณะเดียวกันในรายของ TFG ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.14 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 4.02% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 126 ล้านบาท “โมนิก้า” ยังมีความมั่นใจว่าในระยะสั้นยังได้กระแสบวกจากการฟื้นตัวของราคาหมูในประเทศไทยและราคาหมูที่แข็งแกร่งในเวียดนาม เพราะยังเกิดการระบาดของโรค ASF อยู่!! ขณะที่ฟากฝั่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาส 2/2567 ดังนั้นโอกาสของคุณ ๆ กลับมาอีกแล้วเจ้าค่ะ

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น TU สัญญาณเทคนิคเริ่มปรับตัวขึ้นรอบใหม่ ส่งผลให้ราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 15.60 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 397 ล้านบาท ทำให้ “โมนิก้า” มองว่าโอกาสทดสอบแนวต้าน 16 บาทนั้นไม่ไกลเกินเอื้อม ด้วยแรงขับเคลื่อนของการเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 2-3 นั้นเอง!! โดยนักวิเคราะห์ชี้ว่าแนวโน้มอัตรากำไรจะดีขึ้นในไตรมาสนี้ จากธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป รวมทั้งช่วงไตรมาส 2-3 เป็นช่วงไฮซีซั่นของการส่งออกอาหารเพคะท่านพี่!!!

อีกหนึ่งตัวคือ CRC ถือว่าราคาลงลึกจนเข้าเขต Oversold มากแล้ว ส่งผลให้เกิดสัญญาณกลับตัวของราคาหุ้นโดยดีดขึ้นมาปิดที่ระดับ 31 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.64% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 352 ล้านบาท “โมนิก้า” เชื่อว่ายังเป็นหุ้นเด่นที่นักเล่นจับตา!!! เพราะภาพใหญ่ของธุรกิจยังมีสีสัน ประกอบกับการท่องเที่ยวและการบริโภคที่ทยอยฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปีทั้งในประเทศไทยและเวียดนามยังเป็นตัวกระตุ้นตัวบริษัทได้อยู่เจ้าค่ะ

ปิดท้ายด้วยหุ้นน้องใหม่ CFARM ไม่ทำให้แฟน ๆ ที่ชอบจองซื้อหุ้น IPO ต้องผิดหวัง…เป๋าตุงอิอิ!!! โดยเข้าเทรดในตลาดรองวันแรกราคาปิดเหนือจองที่ระดับ 1.49 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 10.37% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.08 พันล้านบาท จากราคาเสนอขายไอพีโอที่ 1.35 บาท แบบเริ่ด ๆ ก็มีที่ปรึกษาทางการเงินมือทองอย่าง APM เป็นกุนซือให้….ผลงานเลยจึ้งมากแม่! ส่วนตัว “โมนิก้า” เองมั่นใจว่าอนาคตธุรกิจของบริษัทยังไปได้ไกลแน่จ้า ๆ ๆ ๆ

โมนิก้า: และทีมงาน