ไม่ใช่พันธสัญญาแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
ราคาหุ้นของบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ผู้ให้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ค่อนข้างโดดเด่นในช่วงนี้มากเป็นพิเศษ เพราะว่าทำท่าจะวิ่งมายืนเหนือ 25.00 บาท อันเป็นราคาไอพีโอตอนที่เข้าระดมทุนครั้งแรกในตลาดเมื่อปี 2557 แล้วหลุดจองมาโดยตลอด
ราคาหุ้นของบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ผู้ให้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ค่อนข้างโดดเด่นในช่วงนี้มากเป็นพิเศษ เพราะว่าทำท่าจะวิ่งมายืนเหนือ 25.00 บาท อันเป็นราคาไอพีโอตอนที่เข้าระดมทุนครั้งแรกในตลาดเมื่อปี 2557 แล้วหลุดจองมาโดยตลอด
ครั้งนั้น ผู้ถือหุ้นใหญ่ตระกูลปราสาททองโอสถ มีความมั่นใจมาก เพราะเชื่อว่า หุ้น BA จะต้องได้รับความนิยมมาก การตั้งราคาจึงไม่มีคำว่าดิสเคาต์ให้คนถือหุ้นจองได้ป้องกันตัว แต่คิดราคาเต็มสุดๆ …จากการเอาหุ้นออกใหม่หรือไอพีโอจำนวน 520 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 25 บาท แล้วยังเอาหุ้นที่คนในตระกูลปราสาททองโอสถถือเอาไว้เอามาขายร่วมอีก 210 ล้านหุ้น รวมแล้วขายหุ้นพร้อมกันครั้งนั้น 730 ล้านหุ้น
เงินจากการขายหุ้น 520 ล้านหุ้น เอาไปเข้าบริษัทมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ตามแผนธุรกิจที่จะซื้อเครื่องบินใหม่ๆ หลายสิบลำ เพื่อเพิ่มจำนวนเครื่องบินจาก 26 ลำ เป็น 43 ลำใน 5 ปี
ส่วนอีก 210 ล้านหุ้น เข้ากระเป๋าผู้ถือหุ้นใหญ่เต็มๆ ไม่เกี่ยวกับบริษัท
แต่ปรากฏว่าในหนังสือชี้ชวนความยาวนับร้อยหน้านั้น ซ่อนข้อมูลบางส่วนเอาไว้ (ซึ่งถือว่าเป็นหลุมดำของนักลงทุนที่มึนเมากับข้อมูลที่มากเกินขนาด) แต่ไปปรากฏชัดในวันเทรดหุ้นวันแรก เพราะวันนั้น ยังมีหุ้นอีก 210 ล้านหุ้นถูกเทขายออกมาจากมือของผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดอันดับหนึ่ง นางสาวปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ลูกสาวคนโตของหมอปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
วันนั้น หมอคนสวย ปรมาภรณ์ ขายหุ้นแบบ ยกล็อต จำนวน 105 ล้านหุ้น ให้กับผู้ซื้อ คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด ในราคา 25.00 บาทพอดี ข้อมูลดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้น BA หลุดจองตั้งแต่วันแรกในทันที เพราะมีการยืนยันว่า ข้อมูลการขายของหมอปรมาภรณ์นั้น ตั้งใจจะขายทั้งหมด 201 ล้านหุ้น ในราคาไอพีโอ
เท่ากับว่า หมอปรมาภรณ์ ยังมีหุ้นเหลือขายในมืออีก 105 ล้านหุ้น
คำถามก็คือ ถ้าหมอปรมาภรณ์อยากจะขายหุ้นทั้ง 210 ล้านหุ้น ทำไมจึงไม่เอาออกมาขายพร้อมกับหุ้นไอพีโอให้รู้แล้วรู้รอดไปตั้งแต่แรก ไม่ต้องขยักมาขายในตลาดให้เสียบรรยากาศ เพราะยิ่งบอกว่ายังมีเหลือขายอีกในราคาจองค่อนข้างมาก นักลงทุนก็เสียวสันหลังแล้ว…ขายก่อนปลอดภัยสุด เพราะยังไงก็มีโอกาสจะเหนือจองยาก
เนื่องจากหมอ ปรมาภรณ์แจงเอาไว้ชัดเจนว่า ขึ้นมาที่ 25.00 บาทเมื่อไหร่ ขายอีก
ราคาหุ้น BA จึงว่ายวนอยู่กับราคาใต้จองมายาวนานเกือบ 2 ปี จนคนเกือบจะลืมไปเลยว่า หมอปรมาภรณ์ยังมีเหลือขาย …จนกระทั่งราคาน้ำมันกลับมาถูกแสนถูก หุ้นสายการบินทั้งหลายมีต้นทุนลดต่ำลง เข้าตานักลงทุนว่า เหมาะสำหรับซื้อเข้าพอร์ตอีกครั้ง แถมนักวิเคราะห์ยังประเมินว่า BA คือหุ้นท็อปพิคเสียด้วย
ราคาหุ้น BA ก็เลยกลับมาเริงร่าทำท่าจะทะลุราคาจองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
การวิ่งขึ้นของราคาหุ้นอย่างต่อเนื่องสวนตลาดนี่แหละ ทำให้ความหลังครั้งเข้าเทรดวันแรก ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ว่า หมอปรมาภรณ์ เคยประกาศิตเอาไว้ว่า ขึ้นมาเมื่อไร….ขายแน่
ยิ่งนักวิเคราะห์หลายสำนักบอกราคาเป้าหมาย 26.50 บาท ยิ่งน่าเสียวไส้ …. เพราะที่ราคาขนาดนั้น หุ้น BA มีความเสี่ยงในแง่ที่ หมอปรมาภรณ์ จะถือโอกาสขายสาดหุ้นออกมาอีกครั้ง แม้จะเป็นการขายแบบพีพี หรืออะไรก็ตามที เพราะหุ้นอีกจำนวน 105 ล้านหุ้น ที่รอจังหวะที่จะขายออกนั้น ไม่ใช่น้อยๆ…จะบอกให้
ข่าวหุ้นธุรกิจ เอาความกังวลของนักลงทุนมาเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา …หลังจากเป็นข่าวออกไป ก็มีคำชี้แจงของ เจ้าหน้าที่ BA ชี้แจงผ่านอีเมลตามสำนักข่าวต่างๆ อย่างแสนสั้นว่า “…ขอยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง”
พูดกันง่ายๆ ตามประสา…แต่แหล่งข่าววงในสุดๆ กลับกระซิบว่า ความจริงแล้ว หมอปรมาภรณ์ขายหุ้น 105 ล้านหุ้นที่ว่าออกจากมือไปแล้ว 60 ล้านหุ้นให้กับกองทุน และยังมีเหลือขายอีกประมาณ 45 ล้านหุ้น..แต่ยังไม่ได้พิจารณาว่าจะขายเมื่อใด…เอาเป็นว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ขายเพิ่ม…จบข่าว
ไม่ได้มีการยืนยัน หรือปฏิเสธว่าจะไม่ขายแต่อย่างใด…เพราะไม่ใช่พันธสัญญาอะไร
ที่สำคัญ หมอปรมาภรณ์ ไม่ต้องการจะเป็นข่าว….เสียด้วย…เอวัง
ดังนั้น แรงขายที่ออกมาในหุ้น BA เมื่อวานนี้ จนกระทั่งราคาหุ้นจาก 25.00 บาท มาปิดที่ 24.40 บาท ..จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้…
ก็มันเสียยวววววว…และสยออองงงงงง…นี่หว่า…ทำไงได้ล่ะ