CK เติมน้ำส้ม.!

พอศาลปกครองสูงสุดปลดล็อกโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มโมเมนตัมทุกอย่างพุ่งตรงไปที่ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM ในฐานะผู้ชนะการประมูล


พอศาลปกครองสูงสุดปลดล็อกโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โมเมนตัมทุกอย่างพุ่งตรงไปที่บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในฐานะผู้ชนะการประมูล ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 1.39 แสนล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถจรดปลายปากกาเซ็นสัญญาได้ภายในเดือน ต.ค. 2567 นี้

กลายเป็นสตอรี่เชิงบวกที่ดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในหุ้น BEM อย่างคึกคัก โดยเมื่อวันพุธที่ 12 มิ.ย. 2567 ราคาเด้งขึ้นไป 2.53% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นกว่า 1,159.72 ล้านบาท

ส่วนวานนี้ (13 มิ.ย.) ที่เห็นราคาทรุดไป 3.70% ปิดตลาดที่ 7.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 623.23 ล้านบาท ก็อย่าเพิ่งตกใจไป…น่าจะเป็นแค่การขายทำกำไรออกมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาต่อเนื่องหลายวันแล้ว

ถ้าดูจากไทม์ไลน์การเซ็นสัญญาภายในเดือน ต.ค.นี้ โดยมีแผนเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ภายในเดือน พ.ค. 2571 และเปิดให้บริการตลอดเส้นทางตั้งแต่ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ภายในเดือน พ.ย. 2573

ทว่าในส่วนของ BEM การรับรู้รายได้และกำไรจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มอาจต้องร้องเพลงรอไปก่อน…แต่ที่ไปก่อนไม่รอแล้ว เห็นจะเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังอย่างบริษัทแม่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ซึ่งจะได้งานโยธาไปทั้งหมดมูลค่ากว่าแสนล้านบาทก่อนเป็นอันดับแรก

นั่นแปลว่า พอ BEM เซ็นสัญญาปุ๊บ…CK ก็จะมีงานโยธาเข้ามาปั๊บเช่นกัน มาเติมเต็มมูลค่างานในมือ (Backlog) อีกกว่าแสนล้านบาท ทำให้ Backlog พุ่งปรี๊ดดดไปแตะที่ระดับ 2.4 แสนล้านบาท จากปัจจุบัน Backlog อยู่ที่ 1.22 แสนล้านบาท ก็จะช่วยซีเคียวรายได้ไปอีก 4-5 ปีข้างหน้า

งานนี้ก็เหมือน CK ได้เติมน้ำส้มให้สดใสซาบซ่าอะนะ..!!

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Double Deck มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท และงานระบบสายสีม่วงใต้ มูลค่า 2.7 หมื่นล้านบาท ที่อยู่ในไปป์ไลน์ ซึ่งคาดจะมีความชัดเจนช่วงปลายปีนี้ หรืออย่างช้าต้นปี 2568 อีกด้วย

นี่ยังไม่นับรวมโครงการภาครัฐใหม่ ๆ ที่มีมูลค่ารวมสูงราว 4.95 แสนล้านบาท ที่จะทยอยออกมาภายในปี 2567–2568 อาทิ รถไฟทางคู่ (ขอนแก่นหนองคาย) วงเงิน 2.88 หมื่นล้านบาท, สายสีแดงส่วนต่อขยาย วงเงิน 6.6 หมื่นล้านบาท, ทางพิเศษสายต่าง ๆ M9 วงเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท M5 วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท และ M7 วงเงิน 4.4 พันล้านบาท, รถไฟทางคู่จิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท และการขยายสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง เป็นต้น

แน่นอนว่า CK คงเต็งที่จะคว้างานมาเติมเต็ม Backlog ได้อีกหลายหมื่นล้านบาท…เชื่อขนมกินได้เลย

ดูไปดูมา CK เป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่มีสตอรี่ฉ่ำ ๆ เลยนะเนี่ย..!!

มิน่าล่ะ…นักวิเคราะห์หลายสำนักต่างมีมุมมองเชิงบวกต่อ CK โดยยกให้เป็นหุ้นดาวเด่นของกลุ่มรับเหมาฯ จาก Backlog ที่แข็งแกร่ง อย่างบล.เคจีไอ เชื่อว่ากำไรในไตรมาส 1/2567 ของ CK น่าจะเป็นไตรมาสที่ต่ำสุดของปีนี้ โดยมองว่ากำไรในไตรมาส 2-3/2567 น่าฟื้นตัว ส่วนหนึ่งมาจากเงินปันผลรับช่วยหนุน

อย่างไรก็ตาม ปรับลดกำไรในปี 2567-2568 ลงราว 3%/5% ดังนั้นกำไรสุทธิปี 2567 น่าจะเติบโต 13% และปี 2568 เติบโต 23% ขณะที่ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตหลัก ๆ ในปีนี้จะมาจากธุรกิจหลักรับเหมาก่อสร้าง

แล้วเท่าที่สแกนดู ตอนนี้ทุกสำนักเชียร์ “ซื้อ” หุ้น CK นะ ให้ราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 30.50 บาท

ก็ยังมีอัพไซด์อีกเพียบ…

แต่ถ้าใครเห็นต่างจากนี้…ก็ไม่ว่ากัน

เลือกที่สบายใจละกัน…

…อิ อิ อิ…

Back to top button