หมดหวัง

สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามนี้บอกให้รู้ว่า ความหวังที่จะได้เห็นดัชนีเด้งกลับพร้อมกับยืนเหนือแนวรับ 1,300 จุดอย่างมั่นคง น่าจะเป็นเพียงฝันค้างตอนกลางวัน


สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามนี้บอกให้รู้ว่า ความหวังที่จะได้เห็นดัชนีเด้งกลับพร้อมกับยืนเหนือแนวรับ 1,300 จุดอย่างมั่นคง น่าจะเป็นเพียงฝันค้างตอนกลางวัน หลังดัชนีทรุดตัวลงมายืนปิดที่ระดับ 1,297.41 จุด บวกไป 0.82 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.80 หมื่นล้านบาทแบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งที่ช่วงเช้าดัชนีทะยานขึ้นไปถึงระดับ 1,310.76 จุดแบบนี้..เขาเรียกอาการแมวดิ้นตายนะจะบอกให้

เมื่อองค์ประกอบของเรื่องราวมันมีแต่เรื่องแย่ ๆ และนักลงทุนเกิดอาการถอดใจกันเป็นแถว “โมนิก้า” ก็มองไม่ออกเหมือนกันว่า ตลาดหุ้นไทยจะเอาอะไรมาขึ้น! เพราะสิ่งที่เห็นในเที่ยวนี้มันไม่มีอะไรที่ทำให้มั่นใจเลยสักอย่าง ผนวกกับปัจจัยบวกใหม่ ๆ ที่จะเข้ามากระตุ้น ยังต้องร้องเพลงรอต่อไปเรื่อย ๆ จึงอยากให้นักลงทุนประเมินสภาพของหุ้นแต่ละตัวจะยืนทรงตัวได้อีกนานแค่ไหนพะย่ะค่ะ

โดยเฉพาะหุ้นแบงก์ที่ตอนนี้โดนโบรกฯ หั่นเป้าแบบน่าตกใจ เพราะมีความกังวลต่อเรื่องเอ็นพีแอล และยังมีประเด็นปล่อยสินเชื่อไม่ตามเป้า ซึ่งเป็นแรงกดดันที่ทำให้หุ้นกลุ่มนี้โงหัวไม่ขึ้นเสียที และถ้ามองจากสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ก็เข้าใจเหตุผลที่ทำให้หุ้นกลุ่มนี้แกว่งตัวออกด้านข้างเป็นส่วนใหญ่ แต่ในบางครั้งก็แกว่งตัวลงอย่างฮวบฮาบแบบนี้..หมดลุ้นจริง ๆ นะนายจ๋า!

สำหรับที่ดูดีขึ้นมาหน่อย และต้านแรงขายได้ในระดับหนึ่ง “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นแบงก์สีฟ้าอย่าง KTB เพราะกลายเป็นหุ้นแบงก์เพียงตัวเดียวที่มีทิศทางแกว่งตัวขึ้นอย่างช้า ๆ ขณะที่หุ้นแบงก์รายอื่นกลับเกิดอาการคอตกกันเป็นแถว แต่ถึงกระนั้นก็ควรเข้าใจโมเมนตัมลักษณะนี้ มักเกิดขึ้นแค่ในระยะสั้น ๆ จึงอยากให้นักลงทุนประเมินการยืนปิดที่ระดับ 17.30 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 596 ล้านบาท น่าเล่นจริงไหม?

ขนาดของแข็งอย่าง GULF ยังถูกพวกสถาบันรินขายออกมาเป็นระยะ จนวานนี้หุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 38 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 2.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 852 ล้านบาท มันเป็นภาพที่ชี้ให้เห็นว่า ตอนนี้สถานการณ์หลายอย่างไม่เป็นใจ ผนวกกับมาเจอข่าวลือเกี่ยวกับแผนโรงไฟฟ้าฉบับใหม่ไม่เข้าทางปืน จึงกลายเป็นช็อตที่สร้างแรงกดดันต่อตัวหุ้นเต็ม ๆ เลยต้องทำใจยอมรับสภาพที่เกิดเจ้าค่ะ

อีกรายที่ไม่มีใครช่วยอะไรได้ “โมนิก้า” คงมองไปที่รถไฟฟ้ามาหานะเธอ BTS เพราะประเด็นที่ทำให้ไม่สบายใจอย่างมากอยู่ที่รถไฟฟ้าสาย “นมชมพู” กับสาย “เก๊กฮวย” ยังเป็นตัวถ่วงผลการดำเนินงาน และการที่ราคาหุ้นย่อตัวลงมาเรื่อย ๆ ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 4.50 บาท ลบไป 0.08 บาท หรือลงไป 1.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 561 ล้านบาท พร้อมกับทำนิวโลว์ของปี 67 เป็นที่เรียบร้อยแบบนี้..ลุ้นไม่ขึ้นจริงนะจ๊ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น PTTGC ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะการทิ้งตัวลงต่อเนื่องร่วมครึ่งเดือน ท่ามกลางสถานการณ์ของปิโตรเคมีไม่ค่อยสู้ดี จึงกลายเป็นว่า การยืนปิดที่ระดับ 29.75 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 2.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 980 ล้านบาท อาจไม่ใช่จุดต่ำสุดของการลงเที่ยวนี้ เพราะสิ่งที่นักลงทุนอยากเห็นมากสุดในเที่ยวนี้คือ ไตรมาส 2 กำไรจะมาไหมน่ะซี

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น TLI ซึ่งถูกถล่มขายออกมาไม่หยุดหย่อน แม้จะพยายามโงหัวขึ้นมาหายใจเป็นบางครั้ง แต่กลับโดนกดหัวลงไปใหม่อีกครั้ง วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 7.45 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time low ทั้งที่สี่วันก่อนก็เพิ่งทำไปหมาดๆ แบบนี้..มักลายเป็นจังหวะที่ต้องนิ่งเฉยสถานเดียวนะจะบอกให้

ตบท้ายกันที่หุ้น NRF เพื่อชี้ให้เห็นการโดนฟอร์ซเซลกำลังแผ่ขยายวงมากขึ้นเรื่อย ๆ และรายนี้ก็ตกอยู่ในชะตากรรมดังกล่าวเสียด้วย “โมนิก้า” เลยหวั่นใจว่า การโดนบังคับขายอาจลุกลามมาถึงวันนี้ หลังราคาหุ้นทรุดตัวลงมาปิด 3 บาท ลบไป 1.30 บาท หรือลงไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 150 ล้านบาท แถมเป็นการยืนปิดที่ราคาต่ำสุดของวัน และยังมีหุ้นที่รอขายอีกบานตะไทเจ้าค่ะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button