หาตัวรีบาวด์

สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในจังหวะที่ข่าวร้ายท่วมตลาด มักทำให้หลายอย่างติดขัดไปหมดทุกเรื่อง และทำให้ผู้คนอารมณ์บ่จอยกันมากขึ้น


สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในจังหวะที่ข่าวร้ายท่วมตลาด มักทำให้หลายอย่างติดขัดไปหมดทุกเรื่อง และทำให้ผู้คนอารมณ์บ่จอยกันมากขึ้น “โมนิก้า” ก็เลยไม่อยากสร้างประเด็นให้ทุกคนเกิดอาการห่อเหี่ยวมากไปกว่านี้ และขอยกยอดเรื่องที่จะเม้าท์ถึง ตลท. ไปก่อนชั่วคราว เพราะบรรดาแฟนคลับอยากให้เดี๊ยนพูดถึงหุ้นที่พอจะเป็นทางเลือกในยามที่ตลาดหุ้นไซด์เวย์ดาวน์ไงล่ะจ๊ะ

ประกอบกับมาตรการกำกับของ ตลท. จะมีผลบังคับใช้ในเดือนหน้าพอดี เลยเชื่อว่า สถานการณ์หลายอย่างน่าจะดีขึ้นเป็นลำดับ (ถ้าไม่ดีจะได้มาวิเคราะห์กันต่อ) แถมวานนี้มีแรงฮึดที่ทำให้ดัชนีไต่เพดานขึ้นมาอีกครั้ง จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 1,298.29 จุด ลบไป 5.53 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.78 หมื่นล้านบาท จึงกลายเป็นจังหวะของการหาหุ้นรีบาวด์รอบใหม่ เพื่อเกาะกระแสตลาดหุ้นไทยที่เริ่มผงกหัวพะย่ะค่ะ

โดยเฉพาะม้านอกสายตาอย่าง ERW ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่เชื่อว่า สถานการณ์ต่อจากนี้ไม่มีอะไรเลวร้ายอีกแล้ว! เพราะในมุมของราคาหุ้นก็ลงแล้ว..ลงอีก จนในช่วง 3 วันที่ตลาดหุ้นไทยลงต่อเนื่อง หุ้นกลับยืนต้านแรงขายได้อย่างแข็งแกร่ง และพยามบวกสวนตลอดเวลา จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 4.54 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 1.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 58 ล้านบาทแบบนี้ น่าสนใจไหม?

อีกรายที่สู้มือดีมาก ๆ และมีข่าวดีออกมาตลอด แต่ที่สำคัญสุดก็คือ ไม่หวั่นตลาดหุ้นลงหนัก เพราะเปอร์เซ็นต์การลงน้อยกว่าหุ้นบลูชิพ คงต้องเหลือบมองไปที่หุ้น ITC เป็นลำดับถัดมา และเรื่องนี้ก็ดูได้จากในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาหุ้นแกว่งตัวในกรอบ 22.50-23.80 บาท เดี๊ยนเลยมองว่า การย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 23 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 2.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 166 ล้านบาท คือจังหวะของการซื้อเจ้าค่ะ

คล้ายกับในรายของ CBG ซึ่งมีจุดเด้งกลับอยู่ที่บริเวณ 62 บาท ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนชอบของแทร่! เพราะเป็นที่รับรู้กันมานานแล้วว่า ปีนี้กำไรจะมาดี เพราะได้อานิสงส์จากการผลิตขวดเบียร์ และการขนส่งเบียร์แบบเต็มปี รวมทั้งจังหวะนี้ก็เป็นรอบของการเก็บหุ้นลุ้นเด้งกลับ เดี๊ยนเลยอยากให้นักลงทุนกลับไปคิดอีกครั้งว่า การยืนปิดที่ระดับ 64.75 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 0.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 102 ล้านบาท น่าลุ้นไหม?

ส่วนคนที่ชอบลุ้นเสียว ๆ ท่ามกลางพื้นฐานที่ดีขึ้น “โมนิก้า” คงชำเลืองตามองไปที่หุ้นสาหร่าย TKN หลังราคาหุ้นเริ่มเด้งกลับให้เห็นอย่างชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีแรงขายคอยดักตลอดเวลา เลยทำให้หุ้นย่อตัวลงมาปิดที่ 9.45 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 2.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100 ล้านบาท ทั้งที่ในระหว่างวันขึ้นไปถึง 10.10 บาท แบบนี้..ทำให้เชื่อว่า วันนี้น่าจะได้เล่นสั้น ๆ อีกรอบกระมัง!

คล้ายกับสถานการณ์ของ MASTER ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะวงรอบของหุ้นที่เคลื่อนตัวในกรอบ 57-65 บาทเป็นเวลาร่วมสองเดือน เดี๊ยนเลยรู้สึกว่า การยืนปิดที่ระดับ 58.75 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 0.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 80 ล้านบาท น่าจะเป็นจังหวะของการช้อนหุ้นถ้าใจของนักลงทุนมันได้ ผนวกกับหุ้นตัวนี้คับคั่งไปด้วยสายวีไอ เลยเชื่อว่า หุ้นมันจะเด้งเจ้าค่ะ

อีกรายที่สวนกระแสได้อย่างยอดเยี่ยม และยังมีสตอรี่สวย ๆ ออกมาเป็นระยะ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น JPARK แบบไม่อิดออดอะไรทั้งสิ้น และสิ่งหนึ่งที่ทำให้เชื่อเช่นนั้นมาจากราคาหุ้นไม่ผันผวนรุนแรง และการยืนปิดที่ระดับ 7.05 บาท บวก 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 66 ล้านบาท เหมือนย้ำหัวหมุดว่า เที่ยวนี้เอาอยู่!..งานนี้หากไม่เชื่อลองถาม “เฮียเจต” ดูก็ได้นะออเจ้า

ตบท้ายกันที่หุ้นเลี้ยงลูกเจี๊ยบอย่าง CFARM ซึ่งเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง พร้อมกับประคองราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.17 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 6.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 52 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าติดตาม เพราะถ้าดูกันตามหน้าเสื่อจะเห็นว่า วันนี้หุ้นเพิ่งจะเทรดบน BV 1 เท่า ขณะที่ผลงานไตรมาส 2 ก็เป็นช่วงจับไก่ส่งลูกค้าพอดี หรือแม้กระทั่งปีนี้มีการขยายโรงเรือนเลี้ยงไก่เข้ามาช่วยเพิ่มรายได้..เลยทำให้หุ้นตัวนี้น่าสนใจเหลือเกินจ้า!

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button