CPN ท่องเที่ยวบูมกำไร!

คุณค่าบริษัท

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นปัจจัยหนุนให้บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ซึ่งทำธุรกิจศูนย์การค้าและสำนักงานให้เช่า ศูนย์อาหาร โรงแรม และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง เห็นได้จากงบไตรมาส 1/2567 ที่มีกำไรสุทธิ 4,154 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,245 ล้านบาท

โดยมีรายได้ค่าเช่าและบริการเติบโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก 1)พื้นที่เช่าที่เพิ่มขึ้นจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์ วิลล์ และเซ็นทรัล นครสวรรค์ 2)ยอดขายร้านค้าของผู้เช่าที่สูงขึ้น และ 3)การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมในพื้นที่ส่วนกลาง แม้ว่าค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยสัญญาเช่าจะเพิ่มขึ้นจากการต่อสัญญาที่ดินโครงการเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า แต่อัตราค่าไฟฟ้าลดลงจากปีก่อนหน้า (จากหน่วยละ 5.33 บาท เหลือ 4.18 บาท) ส่งผลให้มีรายได้รวมอยู่ที่ 12,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในไตรมาสนี้ CPN มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 6,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 56% เนื่องจากธุรกิจศูนย์การค้ามีต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ลดลง และธุรกิจที่พักอาศัยที่มีการโอนคอนโดมิเนียมในชั้นที่สูงขึ้น

โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 มีศูนย์การค้าภายใต้การบริหาร 42 โครงการ และมีศูนย์การค้าขนาดเล็กหรือคอมมูนิตี้มอลล์ 17 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร อัตราการเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าอยู่ที่ 93% ด้านธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า บริษัทมีให้บริการทั้งหมด 10 อาคาร คิดเป็นพื้นที่ 314,569 ตารางเมตร และมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย 86% ส่วนโรงแรมมีทั้งหมด 9 แห่ง รวม 1,481 ห้อง และมีอัตราการเข้าพักที่ 67%

นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่พักอาศัยเพื่อขายทั้งสิ้นรวม 36 โครงการ โดยเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการ คือ เอสเซ็นท์ นครสวรรค์, เอสเซ็นท์ นครปฐม และโครงการบ้าน 1 โครงการ คือ บ้านนิรดา วงแหวน-เอกชัย ทำให้ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 27 โครงการ

ขณะที่ แผน 5 ปี (ปี 2567-2571) ตั้งงบลงทุนรวมไว้ที่ 121,000 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโครงการใหม่และยกระดับโครงการปัจจุบัน โดยในปี 2567 ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 13 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครสวรรค์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม  โครงการที่อยู่อาศัย 10 โครงการ และโรงแรมแห่งใหม่ที่จังหวัดระยอง

ด้าน บล.บัวหลวง ระบุว่า ยังคงชอบ CPN ในฐานะผู้นำตลาดที่สามารถเติบโตได้ดีทั้งรายได้และกำไร โดยในปี 2567 คาดดการเติบโตของรายได้ที่ 7% และกำไรหลักเติบโต 8% (หากไม่รวมค่าเสื่อมราคาจากเซ็นทรัลปิ่นเกล้า กำไรหลักปี 2567 จะเติบโต 11%) ส่วนแนวโน้มการเติบโตของกำไรในครึ่งปีหลัง จะเติบโตน้อยกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากผลกระทบจากฐานที่สูง แต่คาดว่าจะมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งไปจนถึงปี 2568 ครอบคลุมธุรกิจหลักทั้งหมดของ CPN

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น CPN ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 15.46 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 17.08 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาด อย่างไรก็ตามถ้าไปดู P/BV ที่ระดับ 2.55 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.23 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 83.21 บาท จากราคาต่ำสุด 77.50 บาท และราคาสูงสุด 89 บาท