ตลาดหุ้นไทยกับฟันด์โฟลว์

เมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเดินหน้าบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สามทำท่าจะโผล่พ้นน้ำขึ้นไปยืนเหนือ 1,300 จุด แต่ค่าเงินบาทกลับอ่อนยวบ


เมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเดินหน้าบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สามทำท่าจะโผล่พ้นน้ำขึ้นไปยืนเหนือ 1,300 จุด แต่ค่าเงินบาทกลับอ่อนยวบตามค่าเงินเยนที่ร่วงลงมาเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น

ภาวะเช่นนี้ทำให้ขาขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยมีขีดจำกัดมากขึ้นเพราะนักลงทุนต่างชาติหรือฟันด์โฟลว์พากันขายหุ้นออกไปถือดอลลาร์มากขึ้น

ขาขึ้นที่มีขีดจำกัดของดัชนีตลาดหุ้นไทย จึงมีความเปราะบางเป็นพิเศษทำให้ไม่อาจคาดหมายล่วงหน้าในเชิงบวกได้ เพราะค่าเงินบาทที่อ่อนกลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้ทุนต่างชาติขายทิ้งหุ้นในตลาดจนทำให้ดัชนีร่วงลงไปหาจุดต่ำสุดครั้งใหม่ใต้ 1,300 จุดอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าทุนต่างชาติจะกลับมาเมื่อไร

ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะว่าโครงสร้างของตลาดหุ้นไทย ยังคงต้องการพลังขับเคลื่อนจากฟันด์โฟลว์ที่ถึงแม้ว่าจะมีสัดส่วนเพียงแค่ 15% ของมูลค่าซื้อขายในตลาดหุ้น แต่ก็ยังเป็นปัจจัยชี้ขาดทิศทางของตลาดหุ้นไทยไม่แพ้หุ้นสถาบันในประเทศและพร็อพฯ เทรดหรือการซื้อขายของพวกโบรกเกอร์

อิทธิพลของฟันด์โฟลว์นี้เชื่อมโยงกับตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราข้ามสกุล (ฟอเร็กซ์) และตลาดตราสารหนี้ที่นับวันจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยมีประสบการณ์มากขึ้นในการก่อหนี้ระยะยาวจากการออกตราสารหนี้ ทั้งที่มีการจัดอันดับเรตติ้งและที่ไม่มีการจัดอันดับอย่างช่ำชองจนกลายเป็นช่องทางใหม่ ๆ ของการระดมทุน  อีกทั้งยังมีประสบการณ์มากขึ้นในการระดมทุนผ่านตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล

ช่องทางระดมทุนใหม่ ๆ ถือเป็นทั้งโอกาสให้ฟันด์โฟลว์ต่างชาติเข้ามาพัวพันในตลาดทุนของไทยในหลายมิติขณะเดียวกันก็กลายเป็นความเสี่ยงของตลาดไทยไปโดยปริยาย  จะเห็นว่าในยามที่ตลาดทุนไทยเกิดความไม่เชื่อมั่นขึ้นมา ทั้งนี้ก็เพราะวัฒนธรรมของการลงทุนของฟันด์โฟลว์ต่างชาติเหล่านี้แตกต่างจากนักลงทุนในประเทศทั้งที่เป็นสถาบันและส่วนบุคคล

ในยามที่ตลาดหุ้นไทยเกิดภาวะชะงักงันแรงซื้อของฟันด์โฟลว์จะมีความสำคัญอย่างมากและถือเป็นดัชนีชี้นำทิศทางการลงทุนในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ  แต่ในยามที่ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนยังคงผันผวนแรงซื้อของฟันด์โฟลว์จะลดน้อยถอยลงเรื่อย ๆ ภาวะเช่นนี้อาจจะทดแทนหรือชดเชยด้วยแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศหรือกลุ่มพร็อพฯ เทรด แต่นี่ก็หวังไม่ได้มากเว้นเสียแต่ว่าตลาดหุ้นหรือก.ล.ต. จะเกิดไอเดียร์ใหม่ ๆ ในการกระตุ้นตลาดขึ้นมา เช่น การเติมสินค้าใหม่ ๆ ให้ตลาดหรือการปรับเปลี่ยนนโยบายที่ทำให้มีการซื้อขายหุ้นคึกคัก ซึ่งหากทำได้แรงซื้อกลับเข้ามาของฟันด์โฟลว์ก็จะกระตุ้นให้ตลาดกลับมาฟื้นตัวคึกคักเหมือนเดิม

สำหรับประเด็นของฟันด์โฟลว์มีหลักการเดียวคือเรื่องผลประโยชน์ในการเก็งกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นเป็นสำคัญ

วิษณุ โชลิตกุล

Back to top button