ฟ้าหลังฝน?

ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นไทยมีแต่เรื่องแย่ ๆ ที่ทำให้นักลงทุนเกิดอาการห่อเหี่ยวกันเป็นแถว แต่มาวันนี้ปัญหาต่าง ๆ เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น “โมนิก้า” เลยเชื่อว่า มาตรการกระตุ้นตลาดหุ้นจะเริ่มเห็นผลนับจากนี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องกลับมาพิจารณาลงทุนรอบใหม่อีกครั้ง และทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับตัวนักลงทุนมีความเชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยจะดีขึ้นขนาดไหนพะยะค่ะ

ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงไม่อยากเป็นคนชี้นำทางความคิด แต่อยากให้ประเมินจากเรื่องเม็ดเงินก้อนใหม่กำลังจะเข้ามาในตลาดหุ้นผ่านกองทุน TESG ไม่ต่ำกว่าปีละ 6 หมื่นล้าน หลังมีการอนุมัติหลักการถือหุ้น 5 ปี ลดหย่อนภาษีปีละ 3 แสนบาท ซึ่งมันเป็นภาพที่คล้ายคลึงกับสมัยก่อนที่ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์โดยตรงจากดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่เดี๊ยนชอบมาก ๆ เพราะทำให้ตลาดหุ้นคึกคักเป็นพิเศษไงล่ะคะ

ที่สำคัญดูเหมือนว่า นักลงทุนเริ่มใจชื้นมากขึ้นกว่าก่อน และหาจังหวะซื้อหุ้นเข้าพอร์ตเป็นระยะ แม้จะเจอกับแรงขายที่ประเดประดังออกมาเป็นระลอก แต่แรงซื้อก็ไม่ยวบเหมือนเมื่อก่อน ส่งผลให้ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,319.14 จุด บวกไป 2.41 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.93 หมื่นล้านบาทแบบมีลุ้นทุกช็อต “โมนิก้า” ถึงอยากให้บรรดานักเล่นช่วยประเมินหุ้นที่มีสตอรี่สวย ๆ มีโอกาสไปได้ไกลแค่ไหนจ้า!

ตัวแรกที่คัมแบ็กด้วยแรงซื้อที่หนาแน่น และยังมีข่าวดีเรื่องติดโผ SET50 คงต้องมองไปที่หุ้น ITC แบบไม่ลังเลใจ เพราะการไต่เพดานสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 23.80 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 339 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 1 ปี 1 เดือน ท่ามกลาง PE 26 เท่า “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นช็อตที่น่ารักน่าลุ้นอย่างไม่ต้องสงสัยเจ้าค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ CPF ก็มีสตอรี่เกี่ยวกับผลงานที่ดีขึ้นเป็นลำดับ และมีแรงซื้อจากกองทุนเข้ามาประคองหุ้นตลอดเวลา “โมนิก้า” เลยเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 23.10 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 650 ล้านบาท ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยอย่างแน่นอน และเมื่อเหลือบดู BV ที่อยู่ในระดับ 30 บาทเป็นฐานที่ตั้ง ก็ทำให้เชื่อว่า หุ้นยังมีแก๊ปให้ขยับตัวขึ้นอีกนะจ๊ะ

ส่วนรายที่กระเตื้องขึ้นเป็นลำดับ และน่าจะมีสตอรี่ดี ๆ มาเล่าให้ฟังในงานสัมมนา “ข่าวหุ้น” ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 29 มิ.ย. 67 “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น IVL เพื่อชี้ให้เห็นการขยับตัวขึ้นช้า ๆ ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 20.80 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 511 ล้านบาท น่าจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่กำลังจะผ่านพ้นจุดต่ำสุด และมีโอกาสฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในอนาคตแบบนี้..มันน่าสนใจสุด ๆ นะตัวเอง

อีกรายที่พุ่งขึ้นพรวดพราด จนดูเหมือนจะโอเว่อร์แอคติ้งเกินไปหน่อย คงต้องแอบชำเลืองตามองไปที่หุ้น BBGI หลังราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปถึง 6.85 บาท ก่อนจะโรยตัวลงมาช้า ๆ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 6.20 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 13.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 214 ล้านบาท ด้วยความหวังที่ว่า ผลงานปีนี้น่าจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ก็ช็อตที่นักเล่นต้องประมวลผลด้วยตัวเอง เพราะบางครั้งต้องดูด้วยว่า คุ้มไหมนะจะบอกให้

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากจะเอ่ยถึงหุ้น MAGURO เพื่อย้ำหัวหมุดเรื่องการขยายสาขา และการใช้กลยุทธ์แตกไลน์อาหาร มักทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ก็เป็นมุมที่นักลงทุนต้องตัดสินใจด้วยตัวเองว่า มันเป็นเช่นนั้นจริงไหม? เพราะในความคิดของอีฉันเชื่อว่า เป็นเช่นนั้น! เลยมองการยืนปิดที่ระดับ 18.70 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 9.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 137 ล้านบาท น่าตามต่อเจ้าค่ะ

ปิดท้ายกันที่หุ้น SGC เพื่อให้นักเล่นประเมินการไต่ระดับขึ้นมาจากก้นเหวที่ระดับ 1.30 บาทอย่างช้า ๆ และในระหว่างทางมีแรงขายออกมาเป็นระลอก แต่หุ้นก็ยังรักษาทรงได้อย่างแข็งแกร่ง จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 1.96 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 1.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 132 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้จะถึงยอดเก่าที่บริเวณ 2.30 บาทแบบนี้..น่าเข้าไปตะลุมบอนไหมเอ่ย?..อิอิอิ

โมนิก้า: และทีมงาน