พาราสาวะถี
หลังจากนี้หากไม่มีเหตุขัดข้องอะไร คาดว่า กกต.จะสามารถประกาศรับรองผลการเลือก สว. 200 คนที่ผ่านการเลือกระดับประเทศไปเมื่อ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา
หลังจากนี้หากไม่มีเหตุขัดข้องอะไร คาดว่า กกต.จะสามารถประกาศรับรองผลการเลือก สว. 200 คนที่ผ่านการเลือกระดับประเทศไปเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมาได้ภายในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ ตามที่ได้กำหนดไว้ เป็นธรรมดาถ้าจะเกิดการร้องเรียนเกี่ยวกับปมทุจริตไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เพราะการเลือกที่มีตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัด จนถึงประเทศ จำนวนผู้สมัครกับผู้ได้รับเลือก ผู้ผิดหวังกับคนสมหวังต่างกันลิบลับ
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนยังมีความเคลือบแคลง ทั้งต่อกระบวนการนับคะแนน การบริหารจัดการของ กกต.จะร้องขอให้มีการตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส หรือใครมีหลักฐานเกี่ยวกับการทุจริตในประเด็นฮั้วกันของผู้สมัคร การว่าจ้าง รับเงินจ่ายเงินกัน เป็นหน้าที่ของฝ่ายสืบสวนสอบสวนของ กกต.ที่จะต้องไปดำเนินการตรวจสอบให้ทุกอย่างเรียบร้อย ก่อนที่จะมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ
๑อย่างไรก็ตาม ผลที่ออกมาการไม่ได้เป็น 1 ใน 200 สว.ของ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น่าจะเป็นผลดีต่อรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เพราะอย่างน้อยก็พิสูจน์แล้วว่าที่พวกขาประจำโจมตีแผนกินรวบฮุบสภาสูงไม่มีอยู่จริง รวมไปถึงระยะต่อไปหากได้เป็นย่อมหนีไม่พ้นจะถูกกล่าวหาว่าเป็นสภาผัวเมีย สภาพี่น้อง เหมือนที่เคยโจมตีในยุคของรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร จนกระทั่งเกิดการรัฐประหารเสียของ 19 กันยายน 2549
ในทางกลับกันน่าสนใจ เมื่อพิจารณารายชื่อว่าที่ สว.ทั้งหมดแล้ว จะพบว่ามีกลุ่มบ้านใหญ่จำนวนมากที่ได้รับเลือก จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่าระหว่างกระบวนการเลือกนั้นมีการฮั้วกัน มีบล็อกโหวตหรือไม่ ข้อมูลของทาง กกต.ที่บอกว่าพบการจองโรงแรมที่ผิดสังเกตแต่ขออุบไว้เป็นความลับ เกรงจะกระทบต่อการรวบรวมหลักฐาน และการดำเนินการเอาผิดนั้น หากเป็นจริงก็น่าลุ้นเหมือนกันว่า บทสรุปจะออกมาเช่นใด
แต่ดูจากความมุ่งมั่น ตั้งใจของ กกต.แล้ว คงไม่ถึงขั้นทำให้การเลือกเป็นโมฆะ น่าจะมีการสอยกันเป็นรายบุคคล หรือบางกลุ่มมากกว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับคนที่ได้รับเลือกด้วย ภาวนาให้ได้ผ่านเข้าไปทำหน้าที่กันทุกคน เพื่อที่จะได้ไปพิสูจน์ว่า สว.ที่ผ่านการเลือก ไม่ใช่ลากตั้งเหมือนพวกที่คลอดมาจากปลายกระบอกปืนของเผด็จการ คสช.นั้น สามารถเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนได้ แม้จะไม่มีความยึดโยงกันไม่ว่าทางใดก็ตาม
การได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย น่าจะทำให้ส่วนใหญ่ได้สำเหนียกว่า เมื่อเข้าไปทำหน้าที่แล้ว จะต้องตั้งมั่นอยู่ในความตั้งใจที่จะดูแล รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก พวกลากตั้งที่ม้วนเสื่อกลับบ้านไปแล้ว ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า การทำงานโดยปล่อยให้ผู้มีบุญคุณคุ้มกะลาหัวจูงจมูก ชี้นำนั้น ไม่ได้เป็นที่ยอมรับนับถือของประชาชน มิหนำซ้ำ ยังถูกตราหน้าว่าเป็นพวกตัวถ่วงความเจริญของบ้านเมืองไปเสียฉิบ
ปมเลือกสมาชิกสภาสูงได้ข้อยุติ มีความชัดเจนไปแล้ว แต่การเมืองเรื่องสภาผู้แทนราษฎรยังคงร้อนฉ่าต่อไป หลังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 มีมติแขวนงบประมาณที่ระบุว่า “ค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ” ที่มีวงเงิน 152,700 ล้านบาท ด้วยเหตุผลที่ว่ารายละเอียดมีเพียงกระดาษแผ่นเดียว จึงให้ผู้รับผิดชอบนำรายละเอียดกลับมาเสนอใหม่
ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล เพื่อไทยคงปฏิเสธความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้นไม่ได้ ในฐานะนายกฯ เศรษฐาต้องสั่งการให้รัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง ทำความกระจ่างให้ปรากฏ เรื่องนี้แม้แต่ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยคลังที่ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมในวันดังกล่าวยังยอมรับว่า ถ้าตนเป็นฝ่ายค้านตนก็ต้องทำ หากไม่ใช่เกมการเมือง เป็นเรื่องของประโยชน์ส่วนรวม ยิ่งต้องเป็นสิ่งที่รัฐบาลในฐานะผู้กุมอำนาจบริหารต้องรอบคอบ รัดกุมเป็นพิเศษ
เข้าใจได้ว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายเรือธงที่ต้องเดินหน้าให้ได้ อย่าลืมว่าไม่ใช่เพียงแค่พรรคฝ่ายค้านที่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดยิบเท่านั้น เสียงค้านที่เกิดขึ้นก่อนหน้า โดยเฉพาะจากผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ถือเป็นเชื้อที่จะทำให้จุดชนวนปลุกกระแสต้านรัฐบาลได้ หากสื่อสารไม่ชัดเจน อธิบายให้เกิดความกระจ่างไม่ได้ รีบเร่งสร้างผลงานแต่เต็มไปด้วยช่องโหว่ กับเร่งรีบสร้างผลงานด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส มันต่างกัน
มติของที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ที่เศรษฐานั่งหัวโต๊ะเป็นประธานออกมาเอกฉันท์ 12 ต่อ 0 ว่า คำสั่งให้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ออกจากราชการถูกต้อง ใช่ว่าจะทำให้บิ๊กโจ๊กต้องกระเด็นตกจากเก้าอี้รอง ผบ.ตร.ทันที เพราะสุดท้ายก็ต้องรอมติจากคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร.ก่อน คาดว่าจะใช้เวลา 30 วัน ถึงตรงนั้นจึงจะรู้ว่าหมู่หรือจ่า ความเคลื่อนไหวใด ๆ ที่เห็นวันนี้จึงเป็นเพียงแอ็กชันเพื่อไม่ให้ตัวเองหลุดไปจากพื้นที่ข่าวเท่านั้น
อรชุน