เผลอเป็นโดนทุบ

เมื่อวันก่อน “โมนิก้า” เพิ่งเม้าท์ถึงหุ้นใหญ่มักมีอาการสะลึมสะลือไปหยก ๆ และเปรยให้ฟังเป็นประจำว่า เหมือนจะไว้ใจได้! จนวานนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า สถานการณ์ของหุ้นใหญ่มันมีอะไรมากกว่าที่เห็นเยอะมาก ๆ


  • เมื่อวันก่อน “โมนิก้า” เพิ่งเม้าท์ถึงหุ้นใหญ่มักมีอาการสะลึมสะลือไปหยก ๆ และเปรยให้ฟังเป็นประจำว่า เหมือนจะไว้ใจได้! จนวานนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า สถานการณ์ของหุ้นใหญ่มันมีอะไรมากกว่าที่เห็นเยอะมาก ๆ เดี๊ยนจึงต้องทำใจยอมรับสภาพในสิ่งที่เกิดขึ้น และต้องกลับมานั่งลุ้นอีกครั้งว่า ตลาดหุ้นไทยจะประคองตัวยืนเหนือระดับ 1,300 จุดได้อีกนานแค่ไหนพะย่ะค่ะ

เนื่องจากดัชนีทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,309.46 จุด ลบไป 9.69 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.41 หมื่นล้านบาทแบบไร้เรี่ยวแรงโต้ตอบใด ๆ ทั้งสิ้น ผนวกกับหุ้นที่เคยโดนขายหนักในช่วงก่อน ๆ ก็กลับมาโดนขายใหม่อีกรอบแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ทำให้นักเล่นเสียศูนย์อย่างรุนแรง และเริ่มมีคำถามขึ้นมาอีกครั้งว่า ตลาดหุ้นไทยขานรับแต่ข่าวร้ายอย่างเดียวใช่ไหม? ส่วนข่าวดีที่มีเข้ามาเป็นแค่น้ำจิ้มอ๊ะป่าว?

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้นที่สามารถประคองตัวในภาวะตลาดหุ้นหน้าสิ่วหน้าขวานมากกว่าหุ้นที่ลงเละเทะ เพราะดูเหมือนจะมีแฟนคลับเข้ามารับหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมา จึงกลายเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในภาวะตลาดหุ้นแกว่งตัวลงรอบใหม่ ผนวกกับหลายคนเชื่อว่า ช่วงท้ายปีสถานการณ์เศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้หุ้นเหล่านี้ดีดตัวรับข่าวก่อนใครเพื่อน่ะซี

โดยเฉพาะในรายของร้านสะดวกซื้อ CPALL ก็มีช็อตที่น่าสนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกำลังซื้อที่คาดจะดีขึ้น หรือเงินดิจิทัล หุ้นตัวนี้น่าจะรับผลดีก่อนใครเพื่อน และการยืนปิดของหุ้นที่ระดับ 55.75 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.03 พันล้านบาท น่าจะเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า โอกาสทิ้งตัวลงแรงมีไม่มาก ซึ่งเป็นผลมาจากราคาหุ้นเพิ่งผงกหัว และอยู่ในช่วงของการย่ำฐานกระมัง!

อีกรายที่น่ามองก็คือปูนใหญ่ SCC เพราะมองในมุมของจุดเด้งเที่ยวก่อนอยู่ที่ระดับ 217 บาท เทียบกับการยืนปิดที่ระดับ 224 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 527 ล้านบาท โดยราคาหุ้นตอบรับข่าวร้ายไปเยอะพอสมควรแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในยามนี้ และอีกหนึ่งตัวแปรที่ทำให้เดี๊ยนเชื่อจะเป็นเช่นนั้น ก็มาจากการทำคลอดกองทุน TESG ซึ่งหุ้นตัวนี้น่าจะได้รับอานิสงส์เจ้าค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ WHA ซึ่งราคาหุ้นไหลลงต่อเนื่อง จนวานนี้ลงมาใกล้จุดเด้งแรกที่บริเวณ 4.80 บาท ขณะเดียวกันก็มีจุดเด้งที่สองอยู่ตรงบริเวณ 4.50 บาท “โมนิก้า” เลยกล้าประเมินโดยไม่กลัวหน้าแหกว่า การยืนปิดที่ระดับ4.84 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 374 ล้านบาท ท่ามกล่าง PE 14 เท่า เหมาะต่อการลงทุนตามหลักของตลาดหุ้นนะคะ

คล้ายกับสถานการณ์ของ BEM ก็อ่อนตัวลงมาเรื่อย ๆ จนลงมาใกล้จุดเด้งที่บริเวณ 7.50 บาท ก็เป็นซ็อตที่น่าสนใจเหลือเกินในมุมของการช้อนหุ้น หรือเลวร้ายสุดจะลงมาหาโลว์เก่าที่บริเวณ 7.25 บาท ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจแต่อย่างใด เพราะถ้าคิดบนสมมติฐานเศรษฐกิจจะดีขึ้นในปลายปี ทำให้การยืนปิดที่ระดับ 7.65 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 691 ล้านบาทน่าสนใจก็เท่านั้นเองจ้า!

คิดดูแล้วกัน! ขนาดหุ้นป้ายโฆษณา VGI ยังสามารถพาตัวเองขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.46 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 8.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 238 ล้านบาท หลังเจอมรสุมขาดทุนเล่นงานจนสะบักสะบอมเป็นเวลานาน เดี๊ยนเลยประเมินว่า ไม่น่าจะมีอะไรเลวร้ายไปกว่าที่ผ่านมาอีกแล้วกระมัง! จังหวะนี้เลยเหมาะต่อการโหนกระแส เพราะโมเมนตัมหลายอย่างมันชี้ไปในทางที่ดีขึ้น หรือนี่จะเป็นเพียงความเชื่อ ก็ต้องรอการพิสูจน์กันต่อไป..อิอิอิ

ส่วนรายที่ผ่านการพิสูจน์เสร็จเรียบร้อย และผ่านมรสุมเรื่องหุ้นมาได้หยก ๆ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น YGG เพื่อชี้ให้เห็นการพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.60 บาท บวกไป 0.52 บาท หรือขึ้นไป 12.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 296 ล้านบาท ล้วนเป็นผลมาจากการเคลียร์ปัญหามาร์จิ้นแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ส่งผลให้นักเล่นหันไปโฟกัสเรื่องระดับราคาหุ้นที่เหมาะสมเป็นหลัก จึงมีสิทธิ์ที่จะเห็นหุ้นกลับไปยืนที่ฐานเดิมนะจ๊ะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button