KBANK ‘ถูกปรับ’ น้อยไป.!?

ดูจากสารสนเทศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา


ดูจากสารสนเทศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งหมด 50 คดีด้วยกัน แต่มาสะดุดตาคดีหนึ่งว่าด้วยการเปรียบเทียบปรับแบงก์ใหญ่สีเขียว ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK..!?

ที่สะดุดตากว่านั้น ก็ตรงที่ปรับเป็นเงิน 1,144,500.00 บาท ฐานความผิด “ในช่วงระหว่างวันที่ 30 พ.ค. 2564 ถึงวันที่ 18 ก.ค. 2566 ธนาคารกสิกรไทยในฐานะผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์อันเป็นตราสารแห่งหนี้ มิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่ประกาศกำหนด กล่าวคือ KBANK มีระบบงานในการจัดจำหน่ายหุ้นกู้บกพร่อง โดยมิได้ดำเนินการให้มีการจัดประเภทลูกค้าให้ครบถ้วนถูกต้องเพียงพอที่จะแน่ใจได้ว่าลูกค้าเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่”

แต่เอ๊ะ…หุ้นกู้ขายกันล็อตหนึ่งมูลค่าหลักร้อยล้านบาทพันล้านบาทมิใช่เหรอ…แต่มีโทษปรับแค่หางอึ่ง หนึ่งล้านเศษ ๆ เท่านั้น น้อยไปป๊ะเนี่ย..??

หรือด้วยเงื่อนไขของก.ล.ต. หรือตามกฎหมาย เลยสั่งปรับได้แค่นี้..?? อันนี้ก็ไม่รู้สินะ

ที่น่าสนใจ ก.ล.ต.ไม่บอกด้วยว่าเกิดจากเคสไหน..??

ที่ผ่านมามีทั้งการออกหุ้นกู้ที่ผิดเงื่อนไข และหุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระ ซึ่งหนึ่งในนั้นหนีไม่พ้นกรณีหุ้นกู้บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวมีการออกและเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 5 ชุดด้วยกัน ก็อาจทำให้เข้าใจได้ว่าเกิดจากเคส STARK หรือเปล่า..??

ต้องยอมรับว่า KBANK เป็นผู้จัดจำหน่ายและผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ STARK จำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย 1)หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2564 ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2566 (STARK239A) 2)หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2564 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 (STARK249A) 3)หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 (STARK245A) 4)หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 3 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2568 (STARK255A)

ส่วนหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 (STARK242A) จัดจำหน่ายและผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้โดยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด

ว่าไปแล้วหลายกรณีที่มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับ ก.ล.ต.ก็ระบุชัดเป็นบริษัทอะไร หุ้นอะไร..??

แต่แปลกแฮะ กรณีของ KBANK กลับไม่บอกซะงั้น…

เลยทำให้เกิดเสียงซุบซิบนินทาไปต่าง ๆ นานา…บ้างก็ว่า ก.ล.ต.ต้องรักษาผลประโยชน์ให้กับนักลงทุนไม่ใช่เหรอ..? ไหนก.ล.ต.บอกว่าต้องสร้างความเท่าเทียมกัน..?? แล้วไหงก.ล.ต.มาทำอย่างนี้ มีอะไรในกอไผ่หรือเปล่า..??

อันนี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนเค้าต่อว่าต่อขานมา…อิฉันเลยหยิบมาขยายความต่อ เพราะเกรงว่าจะไปไม่ถึงหูก.ล.ต.น่ะสิ

ที่จริงเรื่องอย่างนี้ต้องให้เกิดความกระจ่างสิ จะได้ไม่ถูกตีความให้เกิดความเสียหายทั้งต่อ KBANK และตัวก.ล.ต.เอง

ซึ่งกรณี STARK เป็นแค่กรณีที่ถูกหยิบมาโยงเท่านั้น เพราะ KBANK ขายหุ้นกู้ STARK จริง…อันนี้คงปฏิเสธไม่ได้

ส่วนหุ้นกู้ STARK จะเป็นปมเหตุให้ KBANK โดนโทษปรับจากก.ล.ต.หรือเปล่า..??

คงไม่มีใครตอบได้ อยู่ที่ก.ล.ต.เท่านั้น…

แต่ถ้าก.ล.ต.จะอนุเคราะห์ชี้แจงเพิ่มเติมให้สาธารณชนรับทราบข้อเท็จจริงก็คงดีไม่น้อยเชียว…

ฝาก “อาจารย์พรอนงค์ บุษราตระกูล” เลขา ก.ล.ต. พิจารณาด้วยนะเจ้าคะ…นักลงทุนเฝ้ารอคำตอบอยู่..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button