SBNEXT คืนรัง ‘แจ้งอยู่’.!?

หลังจากเกิดภาวะผึ้งแตกรังใน SABUY...บรรดาบริษัทย่อยของ SABUY แตกฮือกระจายไปคนละทิศละทาง หนึ่งในนั้นคือ SBNEXT


หลังจากเกิดภาวะผึ้งแตกรังในบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY…บรรดาบริษัทย่อยของ SABUY แตกฮือกระจายไปคนละทิศละทาง หนึ่งในนั้นคือ บริษัท สบาย คอนเน็กซ์ เทค จำกัด (มหาชน) หรือ SBNEXT หรือที่รู้จักในชื่อเดิม บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR

ถ้ายังจำกันได้ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว หรือราวเดือน พ.ค. 2565 “กลุ่มแจ้งอยู่” ได้นำ TSR ไปฝากเลี้ยงไว้กับ SABUY…ผ่านธุรกรรม SABUY เข้าซื้อหุ้น TSR จำนวน 136.90 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 24.90% จาก “กลุ่มแจ้งอยู่” ซึ่งประกอบด้วย “วีรวัฒน์ แจ้งอยู่” “สวิตา แจ้งอยู่” “เอกรัตน์ แจ้งอยู่” และ “เธียรวรรณี แจ้งอยู่” และบริษัท เบตเตอร์ ดรีมส์ จำกัด คิดเป็นมูลค่า 533.91 ล้านบาท

ตอนนั้น SABUY หมายมั่นปั้นมือว่า การได้ TSR มาอยู่ในพอร์ต จะทำให้เกิดการ Synergy ธุรกิจร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่องการขายที่สามารถขายผลิตภัณฑ์ระหว่าง SABUY กับ TSR แบบ Cross selling ร่วมกัน และทำให้ Ecosystem ของ SABUY ครบเครื่องมากขึ้น

ฟาก “กลุ่มแจ้งอยู่” ก็คาดหวังว่าการมาอยู่ใต้ปีก SABUY จะเห็น TSR เติบใหญ่ขึ้น…

ว่าไปแล้วก็เป็นดีลที่สมประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่..!!

ทว่าสิ่งที่หวังมักสวนทางกับความเป็นจริงเสมอ เพราะแทนที่จะเห็น TSR หรือ SBNEXT เติบใหญ่ขึ้นอย่างที่หวัง แต่กลับแคระแกร็นลงเรื่อย ๆ ดูได้จากผลประกอบการในช่วง 2 ปีที่ผ่านมารายได้หายกำไรหด…โดยปี 2565 มีรายได้ 1,386.73 ล้านบาท กำไรสุทธิ 71.99 ล้านบาท ส่วนปี 2566 มีรายได้ 1,686.95 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 86.79 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 1/2567 มีรายได้ 363.65 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 93.15 ล้านบาท

โอเค…ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลกระทบจากวิกฤตโควิด อันนี้เข้าใจได้…แต่อีกส่วนน่าจะเกิดจากปัญหาภายในของบริษัทแม่อย่าง SABUY ด้วยหรือเปล่า…

ส่วนจะเป็นปัญหาอะไรนั้น…อย่าให้ต้องสาธยายเลย คงรู้กันดีอยู่แล้ว…

ในที่สุด SBNEXT ก็กลับสู่เจ้าของเดิม…เลยเป็นที่มาของการคืนรังสู่ “กลุ่มแจ้งอยู่” อีกครั้ง..!!

ถ้าไปส่องทำเนียบผู้ถือหุ้นล่าสุด ณ วันที่ 26 มิ.ย. 2567 จะพบว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้น SBNEXT เปลี๊ยนไป๋แล้ว โดยผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 เป็นบริษัท เบตเตอร์ ดรีมส์ จำกัด ถือหุ้นจำนวน 113.11 ล้านหุ้น คิดเป็น 18.716% ส่วน SABUY ซึ่งเดิมถือหุ้นอันดับ 1 ร่วงมาเป็นอันดับ 2 เหลือหุ้น 34.85 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.768%

อันดับ 3 เป็น “ธรรมฤทธิ์ เอกสมิทธ์” ถือหุ้นจำนวน 29.06 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.810% อันดับ 4 เป็น “เอกฤทธิ์ เอกสมิทธ์” ถือหุ้น 26.90 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.452% ขณะที่อันดับ 5 ปรากฏชื่อ “กระทรวง จารุศิระ” หรือ “ซัน-กระทรวง” ถือหุ้นจำนวน 17.46 ล้านหุ้น สัดส่วน 2.890%

ส่วนปมเหตุที่ทำให้ SBNEXT กลับคืนรัง “กลุ่มแจ้งอยู่” นั้น เกิดจากในช่วงที่ผ่านมา SABUY ถูกบังคับขาย (Force Sell) หุ้น SBNEXT มากถึง 115.73 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 32.93 ล้านบาท นั่นเอง

เท่ากับว่า “กลุ่มแจ้งอยู่” ส้มหล่นไม่ต้องทำอะไรเลย…ก็ได้ SBNEXT กลับคืนมาซะงั้น…

ก็น่าจับตาว่า หลังจาก SBNEXT คืนรังเก่าแล้ว สถานการณ์จะกระเตื้องขึ้นหรือเปล่า..?? ทั้งในแง่ราคาหุ้นและผลประกอบการ…

แต่ถ้าให้เดา…สิ่งที่จะเห็นก่อนอันดับแรกน่าจะเป็นการเปลี่ยนชื่อใหม่ละมั้ง…ส่วนจะกลับมาใช้บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR หรือเปล่า..?? อันนี้ก็น่าคิด

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง…หุ้น TSR ก็คืนชีพน่ะสิ..!?

ว่าไปแล้ว เคสของ SBNEXT ชวนให้นึกถึงเพลงฝากเลี้ยง “เจ-เจตริน” นะ “ฝากให้เธอเลี้ยงดู…ให้อยู่กับเธอละกัน…อยู่กับฉัน…มันก็คงไม่ได้การ…ถ้าอย่างงั้นคงต้องวาน…ให้เธอเลี้ยง”

“กลุ่มแจ้งอยู่” ฝาก SABUY เลี้ยง 2 ปี ตอนนี้ขอคืนนะ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button